จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2548

เมื่อเตรียมการเสร็จสิ้น ศึกการประลองโอสถที่มีผลลัพธ์แน่นอนมันก็ได้เกิดขึ้น

ตอนนี้แม้แต่ตัวหลู่หยุนหรือถังหยูเองก็ไม่ได้มีความเชื่อมั่นใจตัวเย่หยวนมากนัก

เพราะคำโม้ของเขามันใหญ่เกินตัว!

หากเป็นแค่การหลอมโอสถสวรรค์เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตระกูลถังนั้นพวกเขาอาจจะยังพอเชื่อถือได้

แต่ว่าอีกฝ่ายนั้นมันคือราชครู ยอดฝีมือการโอสถสวรรค์อันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรตะวันออก!

ความห่างชั้นมันมากเกินไป!

แต่วินาทีที่พันธะวิญญาณดั้งเดิมถูกเขียนเสร็จสิ้นแล้ว พ่อลูกถังนั้นก็แทบต้องหลั่งน้ำตา

พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนทำถึงขั้นนี้ก็เพื่อจะทวงถามความยุติธรรมให้พวกเขา

เขานั้นถึงขั้นเอาชีวิตตนเองเป็นเดิมพัน!

เย่หยวนนั้นหากคิดจะหนีย่อมหนีได้ แต่เขาไม่ทำ

เขานั้นคิดจะต่อสู้กับราชครูจนถึงที่สุดเพื่อทวงความยุติธรรมให้ตระกูลถัง!

มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตื้นตัน?

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน!

มันคงพูดถึงเรื่องนี้ใช่หรือไม่?

“เด็กน้อย เจ้าบอกว่าตนนั้นคือนักหลอมโอสถสวรรค์ เช่นนั้นแล้วเจ้าจะหลอมโอสถสวรรค์ใดแข่งกับข้า?” หลินหลานยิ้มขึ้น

“ข้ารู้จักแค่วิธีการหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐาน!” เย่หยวนตอบกลับไป

เขานั้นกล่าวไปอย่างภาคภูมิไม่มีความอับอายใด

คนทั้งหลายนั้นต้องผงะไปตามๆ กันจากนั้นมันก็เกิดเสียงหัวเราะขึ้นตาม

หลินหลานนั้นเห็นท่าทางมั่นใจของเย่หยวนนั้นเขาก็คิดไปว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถเหนือล้ำสวรรค์จริงๆ

แต่หลังผ่านเรื่องราวไปเขาเพิ่งจะได้รู้ว่าเย่หยวนรู้แค่วิธีการหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐาน!

โอสถสวรรค์ปรับฐานนั้นมันคือโอสถสวรรค์ที่เป็นพื้นฐานที่สุด การหลอมมันนั้นง่ายดายเสียยิ่งกว่าง่าย

สำหรับนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองอย่างหลินหลานแล้วการจะหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานมันย่อมง่ายเสียยิ่งกว่าการหายใจ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคุณภาพที่เขาหลอมได้นั้นมันยังสูงล้ำจนนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งไม่อาจเทียบเคียง!

เย่หยวนนั้นกลับกล้าจะมาท้าหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานกับเขา มันหาเรื่องใส่ตัวชัดๆ มิใช่หรือ?

“มันจบแล้ว! ครั้งนี้มันจบแล้วจริงๆ!” ถังหยูนั้นกล่าวออกมาด้วยใบหน้าสิ้นหวัง

องค์ชายรองนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่น “อาจารย์หยุน นี่หรือคือคนที่ท่านเดิมพันด้วย? อย่างนี้มันจะชนะได้อย่างไรกันเล่า? ต่อให้เขาจะหลอมโอสถสวรรค์ได้จริงๆ มันก็ไม่มีทางใดที่เขาจะเอาชนะราชครูได้มิใช่หรือ?”

หลู่หยุนเองก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่อาจจะตอบอะไรกลับไปได้

เขานั้นเริ่มจะสงสัยว่าตนเองเลือกข้างถูกหรือไม่ขึ้นมา

ส่วนคนที่เหลือนั้นย่อมจะหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็งสิ้น

“ฮ่าๆๆ… จะตายแล้ว! ข้าไม่นึกเลยว่าจะเสียเวลาเปล่าเช่นนี้! เจ้าเด็กคนนี้มันโคตรฮาเลย!”

“ท่าทางโอหังของมันนั้นข้าก็นึกว่ามันจะเก่งกาจเหนือฟ้าหลอมโอสถสวรรค์ใด ที่แท้สุดท้ายกลับคิดท้าทายท่านราชครูหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐาน!”

“ชิๆ มันลึกล้ำจริงๆ! ข้าเพิ่งจะเคยได้ยินว่ามีคนคิดท้าทายท่านราชครูหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐาน! มันไม่รู้หรือว่าท่านราชครูนั้นหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานได้ดีที่สุดในอาณาจักรตะวันออกแล้ว?”

…

ท่าทางของเย่หยวนนั้นมันย่อมจะกลายเป็นเรื่องตลกในสายตาของคนทั้งหลาย

เวลานี้เขาได้เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว!

หลินหลานนั้นก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “หึๆ โอสถสวรรค์ปรับฐานสินะ? เจ้าทำราชครูผู้นี้กลัวหมดแล้ว เอาเถอะ มาประลองหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานกัน อาจารย์เย่โปรดออมมือด้วย!”

เสียงหัวเราะดังขึ้นมาจากรอบด้านเมื่อได้ยินคำเย้ยของราชครูหลินหลาน

เย่หยวนจึงตอบกลับไปอย่างไม่สนใจ “เช่นนั้นเชิญท่านลงมือก่อนเถอะ ท่านราชครู!”

หลินหลานยิ้มตอบกลับไป “ย่อมได้ หลังจากราชครูผู้นี้หลอมเสร็จแล้วข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะยังเย่อหยิ่งได้หรือไม่!”

หลินหลานนั้นก้าวไปหยุดลงหน้าเตาจนทำให้คนทั้งหลายเงียบปากลงไปตามๆ กัน

เมื่อราวใหญ่โตเช่นนี้เกิดขึ้นในบ้านตระกูลถังนั้นมันย่อมจะทำให้เหล่านักหลอมโอสถสวรรค์มากมายมุ่งหน้ามาดูเรื่องราว

เมื่อได้เห็นหลินหลานลงมือนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างก็ต้องแทบกลั้นหายใจ

หลินหลานนั้นไม่ได้แสดงฝีมือต่อหน้าผู้คนมานานแสนนาน

การได้เห็นราชครูลงมือหลอมโอสถนั้น ต่อให้มันจะเป็นแค่โอสถสวรรค์ปรับฐานเองก็ยังถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่ดีไม่น้อยสำหรับคนทั้งหลาย

เมื่อก้าวมาถึงเตาคลื่นพลังจากร่างของหลินหลานก็เปลี่ยนแปลงไป ท่าทางของเขานั้นมันเหมือนกลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์ขึ้นทันที

เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต่างรู้สึกเคารพขึ้นมาสุดใจ

มีหรือที่คนธรรมดาๆ จะขึ้นมาเป็นราชครูได้?

หลินหลานนั้นยกฝ่ามือขึ้นมาพร้อมปรากฏให้เห็นเต๋าไฟสีแดงเข้ม

มันคือเต๋าไฟระดับสอง!

เต๋าไฟไม้สวรรค์บัวแดง!

ลงมือครั้งนี้เขาจึงทุ่มสุดตัว!

ส่วนเรื่องที่ว่าฝืดมือใดๆ นั้นมันก็แค่ข้ออ้างให้ฟังดูดีเพราะต่อให้เขาจะไม่ได้หลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานมานานจริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้อ่อนแอลง!

เหมือนดั่งที่นักคณิตศาสตร์นั้นไม่ได้ทำข้อสอบคำถามวิชาคณิตศาสตร์ของเด็กประถมมานานปี

แต่หากให้พวกเขากลับไปทำแล้วมันจะยากหรือ?

แน่นอนว่าไม่!

แต่เขาย่อมจะไม่กล่าวเช่นนั้นออกมา

ไม่นานมันก็มีคนเอาหินก้อนสีขาวมาวางไว้บนโต๊ะ

หินก่อนนี้มันมีนามว่าศิลามารดาก่อเมฆา มันเป็นเครื่องมือที่ผู้คนของโลกนี้ใช้วัดคุณภาพโอสถสวรรค์

ศิลามารดาก่อเมฆานั้นมันจะทำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วกับโอสถสวรรค์ เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จึงได้วางค่ายกลลงไปภายในทำให้มันส่องแสงออกมาเมื่อเกิดปฏิกิริยา

ยิ่งเกิดแสงขึ้นมากเท่าใดมันก็จะยิ่งแสดงว่าโอสถสวรรค์นั้นคุณภาพสูง

คุณภาพของโอสถสวรรค์นั้นแบ่งได้เป็นเก้าระดับ ระดับหนึ่งนั้นคือต่ำและระดับเก้านั้นคือสูง!

โอสถสวรรค์ปรับฐานที่เย่หยวนเคยหลอมก่อนหน้านี้มันไม่อาจจะเรียกว่าเป็นโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งได้เสียด้วยซ้ำไป

หลินหลานนั้นยื่นมือออกมาก่อนจะส่งโอสถสวรรค์ปรับฐานลอยไว้บนศิลามารดาก่อเมฆา

ไม่นานมันก็เกิดแสงสว่างจ้าขึ้น

ลำแสงแรงพุ่งขึ้นมาใส่โอสถสวรรค์ปรับฐาน

จากนั้นมันก็มีลำแสงที่สองขึ้นมาตามด้วยลำแสงที่สาม

จนไปถึงลำแสงที่ห้าจนสว่างเกือบเท่าลำแสงอื่นๆ มันจึงได้หยุดลง

“โอสถสวรรค์ปรับฐานของท่าราชครูระดับห้าขั้นสูง!”

หลินหลานพยักหน้าออกมาอย่างพอใจเมื่อได้เห็น

แต่ว่าคนทั้งหลายนั้นต่างร้องลั่นขึ้นอย่างตกตะลึง!

“ระดับห้าสูง! อีกเพียงนิดมันก็จะถึงระดับหกแล้ว!”

“ราชครูท่านสมเป็นราชครูจริงๆ ระดับนี้ใช่ว่าใครคิดอยากหลอมก็จะหลอมได้!”

“หึ ท่านราชครูนั้นช่างไม่ออมมือให้แก่เจ้าผู้บรรลุสวรรค์นี้จริงๆ!”

………………………