ความเงียบเข้าปกคลุมจนแทบได้ยินเสียงมดเดิน!
เวลานี้คนทั้งหลายต่างไม่รู้จะพูดกล่าวอะไรออกมา!
โอสถสวรรค์ปรับฐานนั้นมันก่อรูปขึ้นมาได้จริง!
หลังผ่านไปได้หลายอึดใจเหล่าผู้คนก็เริ่มกลับมาตั้งสติร้องลั่นขึ้น!
“โอสถสวรรค์! เขาหลอมโอสถสวรรค์ได้จริง! นี่มันคือนักหลอมโอสถสวรรค์หนึ่งแต้ม! เขานั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ความเข้ากันได้หนึ่งแต้มจริง!”
“พระเจ้าช่วย ข้าก็นึกว่าเขาแค่วางท่า! ที่แท้กลับเป็นยอดฝีมือจริง!”
“ไม่ดีแล้ว! ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าโอสถสวรรค์ปรับฐานที่เขาหลอมนั้นมันเหนือล้ำกว่าของราชครูเล่า?”
…
ก่อนหน้าคนทั้งหลายนั้นต่างพูดเย้ยหยันว่าด่าเย่หยวนไม่ขาดปาก
ราวกับว่าเย่หยวนนั้นเป็นตัวตลก
แต่เวลานี้เย่หยวนกลับใช้โอสถสวรรค์เพียงเม็ดเดียวนั้นปิดปากทุกผู้คน!
คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง!
แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาตกตะลึงมากกว่ามันย่อมจะเป็นคุณภาพของโอสถสวรรค์ปรับฐานเม็ดนี้
เพราะจากที่สัมผัสได้นั้นมันกลับดูเหมือนจะเหนือกว่าของราชครูไปด้วยซ้ำ
แต่เรื่องที่ว่าเหนือล้ำกว่าเท่าใดนั้น มันต้องวัดกันก่อนจึงจะรู้ได้
องค์ชายรองนั้นอ้าปากค้างบ่นพึมพำขึ้นมา “ข-เขาทำได้จริง! ต-แต่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? ความเข้ากันได้แค่หนึ่ง! คนที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งกลับหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้!”
ดูท่าแม้จะได้เห็นแล้วเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อถือนัก
แต่เขานั้นได้เข้าใจแล้วว่าอาจารย์หยุนของเขาวางหมากได้ถูกข้าง!
เหลือเชื่อนัก!
ภายใต้สถานการณ์ที่ไร้หวังนั้นเขากลับเดินเกมพลิกกระดานกลับมาได้!
หลู่หยุนนั้นตกตะลึงอย่างมาก จนถึงเวลานี้เขาก็ยังรู้สึกราวกับว่าเขาฝันไป
เขานั้นเชื่ออยู่แต่ก่อนแล้วว่าเย่หยวนหลอมโอสถสวรรค์ได้จริง
แต่เขาก็ไม่เคยคิดฝันว่าเย่หยวนกลับจะหลอมโอสถสวรรค์ที่มีคุณภาพสูงล้ำกว่าหลินหลานออกมาได้!
“หากมิใช่เพราะเขามีความเข้ากันได้แค่หนึ่งแล้วมีหรือที่โอสถสวรรค์ปรับฐานจะกินแรงเขาไปขนาดนั้น?” หลู่หยุนยิ้มออกมา
เพราะการลงมือหลอมของเย่หยวนนั้นมันดูเหนื่อยยากอย่างไม่ต้องพูดบรรยายใด!
เขามิใช่เพราะความเข้ากันได้ที่ต่ำตมแล้ว ด้วยพรสวรรค์ระดับเย่หยวนเขาคงทำให้ทั้งอาณาจักรตะวันออกนี้สยบลงแทบเท้า!
คนอย่างหลินหลานนั้นจะมีค่าใด?
หลินหลานนั้นมองดูที่โอสถสวรรค์ปรับฐานด้วยสีหน้าตกตะลึงเต็มที่
การทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นมานั้นมันย่อมจะสร้างความตกตะลึงให้ผู้พบเห็นอย่างมาก
“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน? ความเข้ากันได้แค่หนึ่ง เขา… เขากลับหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานได้!” หลินหลานนั้นเบิกตากกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ
จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือความจริง!
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ดูท่าเจ้าจะเอาแต่สนใจเย้ยหยันข้าจนไม่ได้เบิกตาดูการหลอมของข้าแล้ว แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองนั้นเจ้าก็คิดว่าตัวเองเหนือล้ำฟ้าดิน เจ้าต้องรู้ไว้ว่าเหนือฟ้ามันยังมีฟ้าเสมอ เจ้ามาวางตัวเหนือหัวคนในอาณาจักรน้อยๆ เช่นนี้แล้วอวดอ้างว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดในโลกหล้า คิดเช่นนั้นเจ้าก็จะทำได้แค่นี้ไปชั่วชีวิต การหลอมโอสถนั้นหากคนผู้หลอมไม่มีจิตใจใฝ่ความรู้การพัฒนาตนแล้วมันก็จะไม่มีวันเก่งกาจขึ้นได้ มันมิใช่ว่าบนโลกนี้ไม่มีใครเก่งกาจกว่าเจ้า แค่เจ้านั้นไม่รู้จักโลกจึงยังไม่เคยรู้จักหรือพบเจอพวกเขาก็เท่านั้น”
พูดไปเย่หยวนก็ส่งโอสถสวรรค์ปรับฐานไปยังศิลามารดาก่อเมฆา
ลำแสงที่หนึ่ง ลำแสงที่สอง…
ไม่นานมันก็มาถึงลำแสงที่ห้า
ในเวลานี้คนทั้งหลายนั้นต่างเงียบปากลงจ้องมองดูแสงที่พุ่งออกมาจากศิลามารดาก่อเมฆาจนแทบลืมหายใจ
ลำแสงที่ห้านั้นยังคงสว่างขึ้นเรื่อยๆ!
คนทั้งหลายนั้นแทบจะลืมหายใจไปเพราะเรื่องราวในตอนนี้มันน่าตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าตอนที่ประลองหลอมโอสถสวรรค์ใดๆ กันอีก
จนสุดท้ายลำแสงที่ห้ามันก็ค่อยๆ ปรากฏชัดขึ้นจนเกือบเต็ม!
ระดับเดียวกับราชครู ระดับห้าขั้นสูง!
เวลานี้คนทั้งหลายใจเต้นรัวจนแทบได้ยินเสียงดังของหัวใจออกมา
แต่ว่าลำแสงนั้นมันกลับยังไม่หยุดลง!
ไม่นานลำแสงที่ห้ามันก็เต็ม
แต่ลำแสงที่หกมันก็สว่างขึ้นมาอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง!
“ระดับหก! พระเจ้าช่วย นักหลอมโอสถสวรรค์หนึ่งแต้มนั้นกลับหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานระดับหกได้! บ้าไปแล้ว! มันบ้าเกินไปแล้ว! ย-ยังไม่หยุดอีก!”
เสียงร้องของคนมันดังขึ้นมาตาม!
ลำแสงที่กำลังเจิดจ้าขึ้นนี้มันได้ทำลายสามัญสำนึกของพวกเขาลงสิ้น!
จากทำไม่ได้กลายเป็นทำได้
จากทำได้กลายเป็นเหนือล้ำราชครู
และจากเหนือล้ำราชครูกลายเป็นบดขยี้ราชครู!
เมื่อมันค่อยๆ ก้าวผ่านไปเรื่อยๆ แต่ละขั้นของมันก็ยิ่งหนักหน่วงเหมือนมีเท้าเหยียบลงบนใจของผู้คน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...