“เจ้าไม่เกลียดข้าหรือ?”
“เกลียด? หึๆ เฒ่าคนนี้อยากจะขอบคุณท่านเสียด้วยซ้ำ! หากมิใช่เพราะคำเตือนของท่านนั้นเฒ่าคนนี้คงได้แห้งตายอย่างไร้ความสำเร็จใดอยู่เช่นนี้แน่!”
“เช่นนั้นเจ้าเอาอะไรมามั่นใจว่าข้านั้นจะรับเจ้าเข้าเป็นศิษย์?”
“รับหรือไม่เป็นเรื่องให้ท่านตัดสิน แต่กราบหรือไม่เป็นเรื่องที่ข้าตัดสิน! เฒ่าคนนี้แค่อยากจะขอกราบท่านเป็นอาจารย์เท่านั้น อย่างน้อยๆ ก็จะได้สบายใจ!”
“เจ้า ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่นี้จะสามารถทิ้งศักดิ์ศรีของยอดฝีมือมาติดตามรับใช้ข้าได้?”
“จะใช้เยี่ยงหมูเยี่ยงหมาอย่างไรก็ย่อมได้สิ้น!”
“ได้ เช่นนั้นจากวันนี้ไปเจ้าจะมาอยู่ในคฤหาสน์ราชครูและทำงานเป็นคนรับใช้! จำไว้ด้วยว่าจากวันนี้ไปหากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า เจ้าห้ามหลอมโอสถเด็ดขาด!”
“ขอรับ!”
…
จากนั้นหลินหลานก็ได้กลายมาเป็นคนรับใช้ของคฤหาสน์ราชครู
เรื่องราวนี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งเมืองต้องแตกตื่นไปตามๆ กัน!
ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่นั้นกลับไปทำงานเป็นคนรับใช้ของคฤหาสน์ราชครู ต่อให้จะอยากปกปิดไว้แค่ไหนมันก็คงไม่มีทางปิดไว้มิด
หลินหลานนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้หลอมโอสถในคฤหาสน์ราชครูและต้องทำงานจัดเก็บสมุนไพรต่างๆ และกลั่นสมุนไพรทั้งหลาย
ไม่ว่าจะมองอย่างไรนี่มันก็คือการทรมานอย่างแท้จริงสำหรับคนที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่บนจุดสุดยอดของวงการโอสถ
คนทั้งหลายนั้นต่างคิดว่าหลินหลานจะยอมแพ้ถอดใจ
แต่ว่าพวกเขานั้นกลับคิดผิด!
หลินหลานนั้นกลับทนทานรับมันไว้!
ตอนแรกๆ นั้นคนทั้งหลายยังคงเกรงตำแหน่งเก่าและพลังฝีมือของเขาอยู่มาก
แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเหล่าคนรับใช้ในคฤหาสน์ราชครูต่างก็ได้พบว่าหลินหลานนั้นไม่คิดจะเถียงกลับใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นยิ่งนับวันพวกเขาก็ยิ่งได้ใจ
คนรับใช้หลายคนเริ่มทำการกลั่นแกล้งหลินหลานมากขึ้น
ทั้งงานสกปรกหรืองานเหนื่อยยากก็จะเป็นหน้าที่ของเขาสิ้น
หลินหลานนั้นก็ไม่คิดเถียงใดๆ และรับทำทุกอย่างตามที่ได้มอบหมาย!
ถังหยูและเย่หยวนนั้นมองดูหลินหลานจากห้องลับและเป็นถังหยูที่ทนไม่ได้กล่าวขึ้นมา “ท่านพี่ เราทำกับหลินหลานเช่นนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยหรือ? เวลานี้คนภายนอกนั้นเขาว่าท่านราชครูเป็นคนใจคับแคบกันหมดสิ้นแล้วนะ!”
ก่อนหน้านี้สาวใช้คนหนึ่งได้มาแกล้งหลินหลานและสั่งให้เขาไปตักส้วมทิ้ง
หลินหลานนั้นก็ไปทำอย่างไม่คิดบ่นใดๆ
เย่หยวนนั้นหันไปมองถังหยูพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าเล่า? เจ้าคิดเช่นนั้นด้วยหรือไม่?”
ถังหยูได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับมา “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร! ท่านพี่นั้นเป็นคนที่จิตใจกว้างใหญ่แยกแยะความรักความชังออกจากกันอย่างหมดสิ้น ก่อนนั้นข้าด่าว่าท่านพี่ไปมากมายแต่ท่านก็ไม่ได้ลงโทษใดๆ ข้านักและแค่สั่งสอนข้านิดหน่อย มีหรือที่ท่านจะเป็นคนใจแคบไปได้? เพียงแค่ว่าความเห็นของคนด้านนอกมันไม่อาจจะควบคุมได้!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แล้วนักยุทธเรายังต้องไปสนใจขี้ปากคนอีกหรือ? มาเถอะ ออกไปหามันหน่อย”
เมื่อหลินหลานได้เห็นเย่หยวนนั้นเขาก็รีบก้มหัวลงทันที “ข้าขอคารวะอาจารย์เย่!”
เย่หยวนหันไปมองหลินหลานพร้อมถอนหายใจยาว “ผ่านมาตั้งครึ่งปีแล้วแต่เจ้าดูจะไม่ได้เติบโตขึ้นเลย!”
หลินหลานนั้นผงะไปทันทีที่ได้ยินก่อนจะกล่าว “เฒ่าคนนี้อับอายนัก!”
เย่หยวนยิ้ม “เจ้าคงไม่คิดยอมรับ!”
หลินหลานสั่นสะท้านไปทั้งกาย “ศิษย์มิกล้า!”
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นต่อ “เจ้านั้นคิดว่าข้าแค่ใช้ให้เจ้าเป็นคนใช้ไม่ยอมให้ได้หลอมโอสถสวรรค์ เพื่อที่จะกลั่นแกล้งเจ้า? หรือเพื่อที่จะทดสอบจิตใจเจ้า?”
หลินหลานเบิกตากว้างขึ้นอย่างสงสัย
สายตานั้นมันเหมือนจะถามออกมาว่า แล้วมันมิใช่หรือ?
เย่หยวนส่ายหัวออกมาพร้อมถอนใจยาว “เจ้านั้นนึกย้อนกลับไปถึงความต้องการแรกเริ่มของตนได้ เพียงแค่ว่าเจ้านั้นมีความสามารถในการวิเคราะห์ที่สุดแสนต่ำตม! เจ้านั้นไม่มีค่าพอที่จะเป็นศิษย์ของข้าจริงๆ! เทียบกับศิษย์ของข้าในภพเบื้องล่างแล้วเจ้าด้อยกว่าพวกเขาไปมากนัก!”
ที่ด้านข้างถังหยูที่ได้ยินนั้นแทบต้องกระอักเลือดออกมา
ในอาณาจักรตะวันออกนี้นอกจากเย่หยวนแล้ว หลินหลานก็คงนับได้ว่าเป็นยอดคนอันดับหนึ่งในการโอสถ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...