“ข้านั้นไม่รู้ว่าเจ้าคิดจะไปยังนิกายสวรรค์หยกแท้เพราะเหตุใดเพราะไปตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตายหรอก” หลัวหยุนชิงกล่าวขึ้นเสริม
แม้ว่าห้ายอดแดนสวรรค์นี้จะมีดินแดนสวรรค์ทั้งห้าอยู่เคียงข้างกันมานานปีแต่ความขัดแย้งระหว่างพวกเขานั้นก็ไม่เคยจะมีวันใดที่หยุดลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งของดินแดนสวรรค์ห้าแสงและสี่ดินแดนสวรรค์ที่เหลือนั้นมันเหมือนดั่งน้ำกับน้ำมัน
ก่อนนั้นในยุคสมัยการผงาดของเหยียนยูเจินเขาได้ปกครองทั้งดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงไว้หมดสิ้นและทำให้นิกายสวรรค์หยกแท้กลายเป็นนิกายสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวลานั้นไป
จากนั้นเหยียนยูเจินก็ได้ร่วมมือกันผู้นำของสามดินแดนสวรรค์ที่เหลือทำการเข้ารุกโจมตีดินแดนสวรรค์ห้าแสง
การรบในครั้งนั้นมันทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายกันนับไม่ถ้วน!
แต่ว่าในยุคเดียวกันนั้นทางดินแดนสวรรค์ห้าแสงเองก็ได้มียอดคนผู้หนึ่งผงาดขึ้นมาเช่นกัน เขาผู้นั้นมีนามว่าโฉปู้ฉุน
เขานั้นได้นำกำลังของฝ่ายดินแดนสวรรค์ห้าแสงเข้ารบจนฟ้าดินแทบถล่มทลายเดือนตะวันจางหายไปจากฟ้ากว้าง
โฉปู้ฉุนนั้นเก่งกาจเหนือล้ำกว่าเหยียนยูเจินและกดหัวของเหล่ายอดฝีมือจากสี่ดินแดนสวรรค์ไว้ได้สิ้นด้วยกำลังของเขาเพียงผู้นี้ เล่นงานเหยียนยูเจินจนบาดเจ็บสาหัส
จากนั้นมาดินแดนสวรรค์ห้าแสงจึงตั้งมั่นได้แม้จะถูกการโจมตีจากดินแดนสวรรค์ทั้งสี่
แน่นอนว่าหลังจากเรื่องราวในครั้งนั้นห้ายอดแดนสวรรค์นั้นต่างก็สูญเสียยอดฝีมือไปมากมายและต้องเข้าสู่สภาวะฟื้นตัว
หลังจากที่เย่หยวนได้ยินเรื่องราวแล้วเขาก็ได้เข้าใจประวัติศาสตร์ของทวีปพิรุณใสขึ้นอย่างมาก
เขาคาดว่ามันคงเป็นศึกนี้ที่ทำให้เขาแห่งถงเทียนนั้นเสียหายและทำให้เหยียนยูเจินต้องเอามันไปบ่มเพาะรักษาฟื้นฟูด้วยพลังของมหาพิภพถงเทียนทั้งหมด
เพียงแค่ว่าหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้นอีก ไม่มีใครทราบได้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรมหาพิภพถงเทียนก็คงรอดจากภัยได้แล้ว!
เย่หยวนพยักหน้ารับ “เอาล่ะ เช่นนั้นเรื่องนี้ข้าคงติดค้างผู้อาวุโสหลัวแล้ว วันหน้าหากข้ามีโอกาสข้าย่อมจะต้องตอบแทนท่านอย่างแน่นอน!”
จะบอกว่าหลัวหยุนชิงนั้นปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อช่วยชีวิตเย่หยวนไว้ก็คงไม่ผิด
เรื่องราวในครั้งนี้เย่หยวนย่อมจะต้องตอบแทนแน่นอน
หลังจบศึกในอดีตนั้นนิกายสวรรค์หยกแท้ก็ตกต่ำลงอย่างมาก แน่นอนว่าพวกเขาจะเกลียดชังผู้บรรลุสวรรค์จนถึงกระดูกดำ
หลัวหยุนชิงยิ้มกว้างออกมา “ได้คำสัญญาจากน้องเย่เช่นนี้แล้วหลัวผู้นี้ก็รู้สึกอุ่นใจนัก! ดินแดนสวรรค์ห้าแสงของเรานั้นขาดแคลนนักหลอมโอสถสวรรค์อยู่เสมอ ด้วยความสามารถของน้องเย่นั้น วันหน้าเจ้าย่อมจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ไม่ผิดแน่!”
เย่หยวนยิ้มออกมา “ผู้อาวุโสหลัวจะถ่อมตนเกินไปแล้ว! ข้ายังติดใจเหลือเกินว่าสถานการณ์ภายในดินแดนสวรรค์ห้าแสงตอนนี้มันเป็นอย่างไรบ้าง?”
พูดถึงตรงนี้ขึ้นมาหลัวหยุนชิงก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้น “แท้จริงแล้วสถานการณ์ภายในของดินแดนสวรรค์ห้าแสงเราเองก็ไม่ค่อยจะดีนัก! เพราะเวลานี้ดินแดนสวรรค์ห้าแสงมันถูกปกครองไว้ด้วยห้านิกายสวรรค์ใหญ่ๆ และเดิมทีภายใต้การนำของท่านโฉนั้นพวกเราทั้งห้านิกายสวรรค์ต่างร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันสิ้น! แต่หลังจากศึกในครั้งนั้นท่านโฉเองก็หายตัวไปทิ้งดินแดนสวรรค์ห้าแสงไว้ในสภาพไร้ผู้นำ เวลานี้เหล่านิกายสวรรค์ทั้งหลายต่างไม่มีใครยอมใคร ไม่มีใครฟังใครแต่ละฝ่ายปกครองกันไปของใครของมัน หลัวผู้นี้สังกัดอยู่ในนิกายสวรรค์ยุทธมั่นทางด้านตะวันตก เป็นผู้ที่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนี้!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นมา “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วหลังข้าไปถึงดินแดนสวรรค์ห้าแสงแล้วข้าจะเข้าเป็นคนของนิกายยุทธมั่น?”
หลัวหยุนชิงยิ้มขึ้น “ปกติแล้วผู้บรรลุสวรรค์ทั่วๆ ไปจะไม่มีสิทธิเข้าร่วมนิกายสวรรค์ตรงๆ พวกเขานั้นต้องไปรับการทดสอบเพื่อที่จะเข้าเป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกายก่อน เพราะฉะนั้นคนทั้งหลายจึงอยู่ได้แค่ในอาณาจักรชั้นในเท่านั้น แต่แน่นอนว่าด้วยความสามารถของน้องเย่แล้ว มันย่อมจะไม่ต้องไปทำอะไรให้ยุ่งยากเช่นนั้นหรอก”
พูดไปหลัวหยุนชิงก็หยิบเอาเหรียญตราสีเขียวขึ้นมา “นิกายสวรรค์ยุทธมั่นของเรานั้นมีตราสีฟ้า แดง เขียวและม่วงตามระดับของผู้พิทักษ์ โดยตราระดับสีม่วงนั้นมันคือยศที่สูงที่สุด! เจ้าเหรียญตราปีกเขียวนี้มันเป็นสัญลักษณ์แทนตัวผู้พิทักษ์ปีกเขียว หากเจ้าถือมันไว้กับตัวเจ้านั้นก็จะมีตำแหน่งในนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเป็นรองแค่หลัวผู้นี้เท่านั้น!”
เย่หยวนนั้นหยิบเหรียญนั้นขึ้นมาดูด้วยความตกตะลึง ไม่นึกฝันว่าหลัวหยุนชิงนั้นกลับจะให้ตำแหน่งที่สูงล้ำเช่นนี้แก่เขาทันทีทันใด
ไม่ต้องคิดก็พอเดาได้ว่าผู้พิทักษ์ปีกเขียวนี้คงต้องเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำเท่านั้นที่จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งได้
แต่เขานั้นกลับเอามันมอบให้แก่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยคนหนึ่ง!
เย่หยวนยกมือขึ้นคารวะตอบรับทันที “ขอบพระคุณผู้อาวุโสหลัว!”
หลัวหยุนชิงนั้นยิ้มตอบ “หลัวผู้นี้ซ่อนตัวมานานนับสิบปีและได้รู้เรื่องราวของน้องเย่มามาก ข้ารู้ดีว่าตราปีกเขียวนี้มันอาจจะต่ำเกินฝีมือของเจ้าไปมากแต่ด้วยพลังบ่มเพาะของเจ้าในตอนนี้มันจึงเป็นการยากหากจะให้ตำแหน่งที่สูงกว่านี้ไป หลัวผู้นี้จะรอดูวันที่น้องเย่แสดงฝีมือให้คนทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเราต้องตกตะลึง! เอาล่ะ เวลามันก็ล่วงเลยมานานแล้ว รีบมุ่งหน้าไปยังชายแดนกันก่อนเถอะ ไปถึงแล้วมันจะมีคนออกมารับเรากลับไปที่นิกายสวรรค์เอง”
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะพุ่งตัวตามหลัวหยุนชิงออกไป
แต่ก่อนจะเดินทางจากอาณาจักรตะวันออกนั้นพวกเขาทั้งสองก็ได้กลับเข้าไปพาตัวหลินหลานมาด้วย
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...