ลูกน้องของเหลียงเหวินกล่าวขึ้นอย่างสิ้นหวัง “เช่นนั้นมันคงเอาชนะไม่ได้แล้ว?”
แต่เหลียงเหวินกลับส่ายหัวออกมา “ไม่ถึงขั้นนั้น แต่แค่ว่ามีดของชิวเฉิงจือมันเร็วไม่พอเท่านั้น!”
มีดด่วนนั้นเร็วไม่พอ!
นี่มันคงเป็นความอัปยศที่สุดแล้ว
ฟู ฟู ฟู…
เวลาเดียวกันนั้นปราณดาบมันก็พุ่งสวนกลับออกมา
ชิวเฉิงจือนั้นถูกปราณดาบทั้งหลายนั้นจนแทบสิ้นสติไป
“วิชามีดไม่เลวแต่น่าเสียดายที่มันยังไม่ถึงขั้น!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมา
วิชาดาบและวิชามีดนั้นมันอยู่ในกฎระดับหนึ่งทั้งสองฝ่าย
เรียกได้ว่าชิวเฉิงจือพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง!
ชิวเฉิงจือค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นมาก่อนจะคุกเข่าลงหน้าเยห่ยวน “ข้าชิวเฉิงจือขอบพระคุณนายท่านที่ไว้ชีวิต ข้าจะขอติดตามนายท่านไปตลอด!”
เย่หยวนตอบกลับมา “ลุกเถอะ ไปรอก่อน”
ชิวเฉิงจือไม่คิดเถียงใดๆ และเดินไปรอในกลุ่มคนที่มุงดู
“หึ! ขยะแท้! ชิวเฉิงจือ ยิ่งมีชีวิตอยู่นานเจ้ามันยิ่งตกต่ำ! ในเมื่อเจ้าพ่ายแล้วก็ตายๆ ไปเสียเถอะ!”
ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมาในฝูงชน
พร้อมๆ กันนั้นมันก็หอกยาวพุ่งทะลวงโลกออกมาหมายปักหัวใจชิวเฉิงจือ
ชิวเฉิงจือหน้าซีดขาวลงทันทีก่อนจะร้องขึ้น “หอกล้ำเจิ้งเทียนหยาง!”
หอกนี้มันแฝงมาด้วยพลังที่เหนือล้ำโลกจนยากที่จะคาดเดาป้องกันได้
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเห็นได้เลยว่าตอนนี้ปลายหอกมันอยู่ที่ใดกันแน่!
“อันดับสิบเจิ้งเทียนหยาง! เขามาแล้ว!”
“หอกนี้รุนแรงนัก! เขาหมายสังหารชิวเฉิงจือลง!”
“หึ ชิวเฉิงจือเป็นคนแรกที่ก้มลงยอมแพ้ การหมายสังหารชิวเฉิงจือลงนี้มันย่อมจะคิดตบหน้าเจ้าหมอนั่นแล้ว!”
…
คนทั้งหลายในที่นี้ต่างไม่มีคนโง่เง่า พวกเขาย่อมจะพอมองถึงเป้าหมายของเจิ้งเทียนหยางออก
เพียงแค่ว่าจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่เห็นเลยว่าตัวคนเขานั้นอยู่ที่ใดกันแน่!
แต่จู่ๆ มันกลับเกิดภาพเบลอขึ้นไม่ไกลตัวชิวเฉิงจือ
หอกยาวสีฟ้าขาวพุ่งออกมาตรงหน้าของชิวเฉิงจือ
ห่างเพียงแค่สามก้าวด้วยวิชาหอกที่เหนือล้ำเช่นนั้นมันคงทะลวงอกชิวเฉิงจือได้ในพริบตาแล้ว
นี่มันคือความตายของชิวเฉิงจือ
“เอกภพ!”
ในเวลาพริบตาเดียวกันนั้นเองเย่หยวนก็ขยับร่างพุ่งหายไปเช่นกัน
เมื่อเขาปรากฏขึ้นมาอีกครั้งนั้นเขาก็มาบังหน้าชิวเฉิงจือไว้แล้ว
ตูม!
เสียงระเบิดดังลั่นขึ้นมาส่งแรงกระแทกจนเจิ้งเทียนหยางต้องกระเด็นถอยมาหลายก้าวกว่าจะยืนหยัดได้อีกครั้ง
ส่วนเย่หยวนนั้นยังอยู่ในจุดเดิมไม่ขยับ!
เจิ้งเทียนหยางนั้นหน้าซีดขาวลงมองดูเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
การลอบโจมตีของเขานั้นมันกลับถูกเย่หยวนปัดป้องไว้ได้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นหอกที่เขาทุ่มแรงโจมตีสุดตัวนี้มันกลับถูกปัดป้องไว้ได้อย่างง่ายดาย
จนถึงตอนนี้เย่หยวนก็ยังยืนมือไพล่หลังและจ้องมองดูเขาพร้อมกล่าว “วิชาหอกที่ดี! แต่เจ้านั้นยังไม่อาจทำให้ข้าสนใจได้ จะยอมก้มหัวหรือตายลง!”
เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่ได้คิดยึดครองเมืองตะวันโรจน์นี้จริงๆ จังๆ
เขานั้นแค่ประกาศออกไปเพื่อจะหาคู่มือประลองเท่านั้น
เหล่าคนร้ายที่มากฝีมือผ่านสงครามมากมายมานี้ย่อมจะเป็นศัตรูที่คู่ควรแก่เขา
แต่มันก็ต้องดูด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
อย่างน้อยๆ ยอดคนอันดับสิบนี้ก็ยังไม่อาจจะทำให้เย่หยวนนั้นสนใจได้
เจิ้งเทียนหยางนั้นแข็งแกร่งจริงแต่มันยังไม่ถึงขั้นให้เขาเอาจริง
เจิ้งเทียนหยางหน้าซีดลงก่อนจะรีบก้มหัวยกมือคารวะ “เจิ้งเทียนหยางขอยอมก้มหัว!”
ไม่ยอมก้มหัวก็ต้องตาย!
การโจมตีเมื่อครู่ของเขานั้นมันตัดสินแพ้ชนะกันไปแล้ว ไม่ต้องต่อสู้ใดๆ กันอีก
แม้ว่าเขานั้นจะแข็งแกร่งกว่าชิวเฉิงจือมากแต่เขาก็ทำให้แค่ทำให้เย่หยวนขยับตัวออกจากจุดที่ยืนเท่านั้น
หากต่อสู้กันจริงๆ เขาคงไม่รอดเกินสามกระบวนท่าแน่!
เจิ้งเทียนหยางนั้นไม่ได้โง่ เขาย่อมจะไม่คิดรนหาที่ตาย
เพียงแค่ว่าภาพตรงหน้านี้มันช่างเป็นที่น่าตกตะลึงในสายตาของทุกผู้คน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...