จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2601

สรุปบท ตอนที่ 2601 จางซุนซิงหยู่: จอมเทพโอสถ

ตอน ตอนที่ 2601 จางซุนซิงหยู่ จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2601 จางซุนซิงหยู่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ข้าคืออันดับสองแห่งเมืองตะวันโรจน์ เฮ่อหยุนเซียงขอกราบคารวะนายท่าน!”

เฮ่อหยุนเซียงเดินมาหยุดลงตรงหน้าเย่หยวนก่อนจะก้มหัวลงกล่าวต่อหน้าคนทั้งหลาย

ตี้ชิงได้แต่ต้องอ้าปากค้างทันที!

เขาคิดว่าเฮ่อหยุนเซียงเดินออกไปจะคิดหาเรื่องท้าประลองเย่หยวนใครจะไปคิดว่าเขากลับก้มหัวลงรับนายทันที!

“ลูกพี่ กล้าๆ หน่อยสิ?”

“จะอย่างไรเจ้าก็เป็นถึงอันดับสองนะ!”

แน่นอนว่าคำพูดเดียวของเขาย่อมทำให้คนทั้งเมืองแตกตื่นไปตามๆ กัน

“มันเข้าใจอะไรผิดกันหรือไม่? เฮ่อหยุนเซียงเขา… กลับยอมก้มหัวง่ายๆ หรือ?”

“ไม่น่าต้องทำถึงขนาดนี้ใช่หรือไม่เล่า? แม้ว่าเจ้าเด็กคนนั้นมันจะชนะจริงแต่มันก็ชนะมาอย่างยากลำบาก! คนอย่างเฮ่อหยุนเซียงย่อมจะเอาชนะพวกเขาทั้งหลายได้เช่นกัน”

“เฮ่อหยุนเซียงกล่าวยอมแพ้ออกมาเช่นนี้แล้วย่อมหมายความว่าเจ้าเด็กคนนี้จะไปท้าทายจางซุนซิงหยู่ต่อ?”

พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่าเฮ่อหยุนเซียงกลับไม่มีน้ำยาไร้ความกล้าใดๆ กลับกล่าวยอมแพ้ออกตั้งแต่ยังไม่ทันสู้

ในสายตาของพวกเขาเย่หยวนที่แสนโอหังนี้ คนอย่างตี้ชิงและเฮ่อหยุนเซียงย่อมจะไม่ปล่อยให้เขาผ่านไปง่ายๆ ต่อให้คนทั้งสองนั้นจะร่วมมือกันมันก็ยังไม่แปลกแม้แต่น้อย

แต่เขานั้นกลับยอมแพ้ลง

เย่หยวนมองหน้าเฮ่อหยุนเซียงก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเองก็ไม่ได้อ่อนแอ ไม่คิดจะประลองหน่อยหรือ?”

เฮ่อหยุนเซียงตอบกลับไป “เฮ่อผู้นี้ไม่ได้อ่อนแอจริง แต่ข้าก็เห็นชัดเจนว่านายท่านไม่ได้ใช้กำลังที่แท้จริงออกมาเช่นกัน!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นนั้นใครคืออันดับหนึ่ง?”

เฮ่อหยุนเซียงผงะก่อนจะกล่าวขึ้น “จางซุนซิงหยู่!”

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวขึ้นมา “สามวันจากนี้หากจางซุนซิงหยู่มันยังไม่โผล่หัวออกมาเจ้าจงไปทำลายจวนเจ้าเมืองลงเสีย!”

เฮ่อหยุนเซียงหน้าซีดลงอย่างตกตะลึงล้นหัวใจ

เขาไม่นึกฝันว่าเย่หยวนกลับมองแผนการของเขาออกได้ในพริบตาเช่นนี้!

แน่นอนว่าเขานั้นเกรงเย่หยวนมาก

แต่ที่เขาตัดสินใจยอมสยบลงนี้เพราะว่าเขามีแผนการอื่น

เขาคิดจะให้เย่หยวนขึ้นไปท้าทายตัวจางซุนซิงหยู่

หากเย่หยวนชนะแล้วการที่เขายอมก้มหัวลงเสียแต่ตอนนี้มันก็ย่อมไม่เป็นปัญหาใดๆ

แต่ต่อให้เย่หยวนจะแพ้ ตัวเขาก็จะไม่เสียหายมากมายเช่นกัน

แต่เย่หยวนนั้นกลับมองเห็นได้ชัดเจนว่าเขากำลังคิดอะไร

เย่หยวนจึงได้สั่งให้เขาเป็นคนไปทำลายจวนเจ้าเมืองทิ้งเพื่อที่จะปิดช่องทางถอนตัวของเขาไป

หากเขาลงมือไปแล้วจริงๆ มันก็ย่อมจะหมดหนทางถอยกลับอีก

เฮ่อหยุนเซียงไม่คิดฝันว่าศิษย์นิกายที่ดูหน้าตายังไม่รู้จักโลกคนนี้มันกลับมากเล่ห์และมองแผนการของเขาออกได้ในพริบตา

“เรื่องนั้น… ข้าน้อมรับสั่ง!” เฮ่อหยุนเซียงลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะกล่าวรับขึ้นมาในที่สุด

เขารู้สึกได้ว่าตัวเย่หยวนมีความคล้ายกับตัวจางซุนซิงหยู่ที่เขาเคยปะทะด้วยในคราวก่อน

แต่เย่หยวนผู้นี้กลับจะดูน่ากลัวกว่าจางซุนซิงหยู่เสียด้วยซ้ำ!

นี่มันคือสัญชาตญาณของยอดฝีมือ

แม้ว่าจะไม่มีเหตุผล แต่หลายครั้งมันมักจะถูกต้อง!

เหมือนอย่างเรื่องที่เย่หยวนมองออกทันทีว่าเขามีฝีมืออย่างที่ไม่ต้องประลองกัน มันก็คือสัญชาตญาณเช่นนี้

เพราะฉะนั้นแม้จะต้องลังเลไปไม่น้อยแต่สุดท้ายเฮ่อหยุนเซียงก็ยังยอมรับคำของเย่หยวน

แต่คำพูดและท่าทางของเขามันย่อมจะเป็นเรื่องที่ไม่อาจเชื่อได้เมื่อตี้ชิงได้เห็น

เขาตกตะลึงอยู่นานแต่สุดท้ายก็ยังมองแผนการเบื้องหลังของเฮ่อหยุนเซียงออกมา

แต่ใครจะไปคิดฝันว่าเย่หยวนกลับมากเล่ห์กว่า แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นตัวเฮ่อหยุนเซียงก็ยังยอมก้มหัวให้!

นี่มันน่าตกตะลึงจนเกินรับ!

หรือว่าเจ้าหมอนี่มันจะเก่งกาจจริง?

หลังจากลังเลอยู่อีกนานสองนานในที่สุดตี้ชิงก็ก้าวเข้ามาก้มหัวต่อหน้าเย่หยวน “อันดับสามแห่งเมืองตะวันโรจน์ ตี้ชิงขอคารวะนายท่าน!”

เย่หยวนหันไปมองก่อนจะกล่าวขึ้นสั่ง “อืม ในเมื่อเจ้าเองก็มาด้วยแล้ว เจ้าจงไปช่วยงานของเฮ่อหยุนเซียงเสียเถอะ”

มุมปากของตี้ชิงกระตุกขึ้นทันทีแต่ก็ยังกล่าวตอบรับไป “ขอรับ!”

คนทั้งสองนั้นต้องกระอักเลือดร่างปลิวกระเด็นไปไกลพร้อมๆ กันนั้นก็ปรากฏร่างของชายชุดน้ำเงินเข้มก้าวออกมาจากด้านในจวนเจ้าเมือง

พวกเฮ่อหยุนเซียงทั้งสองต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตกตะลึง

“จางซุนซิงหยู่! สิบปีมานี้เจ้าหมอนี่มันกลับเก่งกาจขึ้นได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!” ตี้ชิงกล่าวขึ้น

เฮ่อหยุนเซียงยกมือขึ้นมากอดอกของตนเองไว้ “เจ้าเมืองทั้งสิบนั้นจะมีการถกเต๋ากันทุกปี! แต่มีแค่พวกเขาทั้งหลายเท่านั้นที่รู้ว่าใครแพ้หรือชนะ! ดูท่าจางซุนซิงหยู่จะพัฒนาขึ้นไปได้มากทีเดียวในช่วงสิบปีมานี้!”

สิบเจ้าเมืองนั้นคือยอดคนระดับสูงสุดในแดนเนรเทศชั้นหนึ่งนี้

พวกเขาเก่งกาจจนไม่มีศัตรูหลงเหลือ

การจะไปต่อสู้กับคนเบื้องล่างมันมีแต่จะเสียเวลาเปล่า

เพราะฉะนั้นทุกๆ ปีพวกเขาจึงได้นัดกันว่าจะจัดงานถกเต๋าขึ้น

แต่การถกเต๋านี้มันเป็นงานลับที่ไม่เปิดเผยแก่สาธารณชน

กำลังฝีมือของคนทั้งสิบพัฒนาไปถึงระดับใด มีแต่พวกเขาทั้งสิบเท่านั้นที่จะเข้าใจ

แต่ดูแล้วกำลังของจางซุนซิงหยู่มันย่อมจะแข็งแกร่งกว่าเมื่อสิบปีก่อนไปหลายเท่าตัวทีเดียว

จัดการสองยอดคนนี้ได้ด้วยฝ่ามือเดียว!

กำลังฝีมือเช่นนี้ต่อให้จะมีเฮ่อหยุนเซียงสักสามสิบคนมันก็คงไม่อาจจะต้านทานได้

จางซุนซิงหยู่ค่อยๆ กล่าวออกมาด้านหน้าพร้อมกล่าวขึ้น “เด็กน้อย เจ้านั้นมากพรสวรรค์ล้น! ข้านั้นให้โอกาสเจ้าแล้วแต่สวรรค์เปิดทางให้เจ้ากลับไม่เดิน ประตูนรกที่ปิดแน่นเจ้ากลับคิดบุกทะลวงเข้ามา! ในเมื่อเจ้าคิดรนหาที่ตายแล้วข้าก็คงต้องสนองให้”

นี่มันคือความมั่นใจของจางซุนซิงหยู่ที่ไม่คิดจะสนใจใครอยู่ในสายตา

ในฐานะเจ้าเมือง เรื่องราวของเย่หยวนอันใหญ่โตเกิดขึ้นมาเขาย่อมจะรับรู้ถึงมันได้ดี

แต่การที่เขาไม่ออกมามันบ่งบอกได้ถึงเรื่องหนึ่ง

บ่งบอกว่าเขาไม่คิดจะลดตัวมาสู้กับเย่หยวน

หรือจะบอกว่าเย่หยวนไม่มีค่าพอให้เขาลงมือก็คงไม่ผิดนัก!

แต่เย่หยวนเข้ามาโจมตีจวนเจ้าเมืองเช่นนี้แล้วย่อมจะไม่อาจปล่อยไว้ได้อีก

เย่หยวนมองหน้าจางซุนซิงหยู่พร้อมกล่าวสวนไป “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นคำพูดของเจ้านี้ ข้าจะขอเอามันคืนไปให้ตัวเจ้าแล้วกัน”

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ