จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2645

“ลุงซุน สิ่งที่ท่านว่ามานั้นมันผิดแล้ว! เมืองน้ำพองท่านนั้นเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับเมืองสวรรค์ใต้ที่สุดทำให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีได้เปรียบเรื่องเวลาและภูมิประเทศ ไหนจะยังเรื่องผู้คนอีก ท่านนั้นเป็นอันดับหนึ่งเสมอมามันจึงยิ่งทำให้ท่านแข็งแกร่งกว่าใครๆ ขึ้นไปอีกเท่าตัว เวลานี้แล้วมากล่าวเย้ยเมืองสงบทักษิณเราไปให้มันได้อะไร? หากท่านเก่งกาจจริงก็เอาชนะเมืองสวรรค์ใต้ให้ได้สิ!”

ในเวลานั้นเองที่ซูเป่ยหยุนได้กล่าวขึ้นมาแทรกคำเย้ยของซุนหยุนจิง

เมื่อซูยี่ได้เห็นซูเป่ยหยุนเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นมา “หยุนเอ๋อ เจ้ากลับมาแล้ว!”

ซูเป่ยหยุนนั้นยิ้มตอบกลับมา “ท่านพ่อ หยุนเอ๋อแค่ออกไปฝึกฝนตัวท่านต้องทำท่าทางเช่นนั้นด้วยหรือ?”

พ่อลูกสองคนนี้ดูแล้วคงสนิทกันมาก สายตาของซูยี่ที่มองซูเป่ยหยุนนั้นมันเป็นสายตาของพ่อที่ตามใจลูกสุดโต่ง

เห็นได้ชัดเจนว่าซูเป่ยหยุนนั้นเป็นลูกรักของซูยี่

“หึๆ แม่หนูซูนี้มันปากคอเราะร้ายเสียจริง! เมืองสวรรค์ใต้นั้นมันคือเมืองหลวงของแดนสวรรค์ใต้เรา จะเอาเมืองรองอย่างเราไปเทียบได้อย่างไรกัน? คิดอยากเทียบเคียงนั้นมันก็ต้องมาเทียบกันระหว่างเก้าเมืองหนามใต้นี้ ไม่เช่นนั้นเราจะยังมาจัดงานชุมนุมโอสถสวรรค์เก้าเมือง?” ซุนหยุนจิงหัวเราะตอบกลับไป

“หึ! สุดท้ายแล้วเหตุผลที่วิชาโอสถเราตกต่ำมันก็เพราะว่าเราขาดทรัพยากรอยู่ดี! พวกท่านก็แค่ชนะคนที่ไม่มีอะไรสู้!” ซูเป่ยหยุนนั้นยังตอบกลับไปอย่างดุดัน

ซุนหยุนจิงนั้นหัวเราะตอบกลับมา “นังเด็กคนนี้ เออๆ เจ้าเมืองผู้นี้ก็ยังไม่ตกต่ำไปจนถึงขั้นต้องถือสาเด็กน้อยอย่างเจ้าหรอก แต่ซูยี่ รอบต่อไปจะเริ่มกันแล้ว เจ้าคิดจะส่งใครลงไปกันเล่า?”

งานชุมนุมโอสถสวรรค์เก้าเมืองนี้มันมิใช่แค่การมาเย้ยหยันกันเล่นๆ เท่านั้นแต่มันเป็นการต่อสู้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรด้วย

แต่ละเมืองนั้นจะได้ทรัพยากรจากเมืองสวรรค์ใต้แตกต่างกันไปแล้วแต่ผลงานที่ทำได้!

เพราะจะอย่างไรเสียกรรมการของงานชุมนุมโอสถสวรรค์เก้าเมืองในครั้งนี้มันก็คือเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่จากเมืองสวรรค์ใต้!

เพราะฉะนั้นผลการประลองครั้งนี้มันจึงสำคัญกับเมืองทั้งเก้ามาก

เพียงแค่ว่าเมืองสงบทักษิณนั้นพ่ายแพ้มาต่อเนื่องหลายครั้งทำให้ยิ่งตกต่ำลงไปทุกวัน

กอปรกับความที่ไม่มียอดคนมากพรสวรรค์อยู่ด้วยแล้วมันจึงทำให้ความตกต่ำนั้นยิ่งย่ำแย่ลงทุกวัน

ซูยี่นั้นเองก็ได้แต่นั่งหน้าดำคร่ำเครียดก่อนจะหันไปหาชายแก่ข้างๆ ตัว “ผู้อาวุโสเก่อ ข้าคงต้องวานเจ้าอีกแล้ว!”

เก่อหลิงนั้นเองก็ได้แต่ถอนใจยาวก่อนจะเดินลงไปในสนามประลอง

ซูยี่นั้นได้แต่หวังว่าเก่อหลิงจะแก้ตัวเอาชนะมาได้

เพียงแค่ว่าความหวังนี้มันเลือนรางเสียเหลือเกิน

“ท่านพ่อ ข้าขอแนะนำคนให้ท่านพ่อได้รู้จัก นี่คือสหายที่หยุนเอ๋อได้พบเจอระหว่างเดินทางมาเขามีนามว่าเย่หยวน! เป็นเพราะเขาคนนี้ที่ทำให้ลูกสาวท่านกลับมาได้อย่างปลอดภัย!” ซูเป่ยหยุนรีบกล่าวแนะนำเย่หยวนด้วยใบหน้าตื่นเต้น

ซูยี่นั้นหันมามองเย่หยวนอย่างไม่คิดสนใจ

เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ ซูยี่จึงคิดไปว่าเขาคงแค่ช่วยเหลืออะไรลูกสาวเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

หลังจบเรื่องราวนี้ไปแล้วเขาก็จะเอารางวัลให้เย่หยวนสักหน่อยก่อนจะถือว่าจบเรื่องกัน

บางทีเจ้าเด็กคนนี้มันอาจจะคิดผูกสัมพันธ์กับเขาเสียด้วยซ้ำจึงได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือลูกสาวเขา

“อืม ขอบคุณมากน้องชาย!” ซูยี่กล่าวขึ้นมา

มีหรือที่เย่หยวนจะมองไม่ออกว่าซูยี่คิดอะไรอยู่ในหัวจากท่าทางนั้น? แต่เขาเองก็ไม่คิดสนใจมากมายและตอบกลับไปห้วนๆ “ไม่ต้องคิดมากหรอก”

ท่าทางของเย่หยวนนี้มันทำให้ซูยี่ไม่พอใจอยู่น้อยๆ

แต่เวลานี้ความคิดของเขามันมีแต่ความกังวลเรื่องการประลองของเก่อหลิงทำให้เขาไม่มีเวลาจะหันมาสนใจใดๆ นี้

ซูเป่ยหยุนนั้นเห็นบรรยากาศหนักอึ้งเช่นนี้และได้แต่ต้องทำท่าลุกลี้ลุกลนไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร

เพราะเวลานี้สถานการณ์มันไม่อำนวยให้นางสามารถเล่าเรื่องราวได้มากมาย นางจึงได้แต่ต้องค่อยๆ เปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงงานชุมนุมโอสถสวรรค์เก้าเมืองแทน

แต่นางเองก็โล่งใจที่ได้เห็นว่าเย่หยวนเองก็ให้ความสนใจกับเรื่องการประลองนี้

“ข้าคงทำให้ผู้อาวุโสเย่หัวเราะเย้ยแล้ว เมืองสงบทักษิณเรานั้นมันมีวิชาการโอสถที่ตกต่ำในหมู่เมืองทั้งเก้า แม้ว่าอาจารย์เก่อท่านนั้นจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็ยังไม่อาจจะเอาชนะศึกนี้ได้!” ซูเป่ยหยุนกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มแห้งๆ

เย่หยวนส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “เก่อหลิงนั้นไม่ได้อ่อนแอเพียงแค่ว่าในวิธีการหลอมโอสถของเขามันยังมีจุดที่บกพร่องอยู่ไม่น้อย ทำให้สุดท้ายเขาหลอมออกมาได้คุณภาพไม่เท่ากับคนอื่นๆ หากเขาสามารถจัดการปัญหาจุดนั้นได้แล้วเขาก็ย่อมจะไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคนทั้งหลายนี้เลย!”

ในเวลานี้เองที่การประลองโอสถรอบถัดไปมันก็ได้เริ่มขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ