จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2659

“พี่ใหญ่ขี้แกล้ง พี่เก่งกาจขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?”

เด็กน้อยผู้นั้นเบิกตากว้างจ้องมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึงสุดหัวใจ

นักยุทธพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่งมันกลับแข็งแกร่งกว่าตัวนางได้!

นางนั้นดึงพลังของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกออกมาใช้งานแต่กลับไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้แม้แต่น้อย

“แต่มันเปล่าประโยชน์!”

เด็กน้อยนั้นร้องกล่าวพึมพำบางอย่างขึ้นมาก่อนที่สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกมันเหมือนจะตอบรับและส่งคลื่นพลังรุนแรงออกมารอบๆ ทันที

เมืองสงบทักษิณนั้นมันตกสู่ภาวะตื่นตระหนกทันที

ชุยถงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าซีดขาว “นี่คือพลังของสมบัติยอดหมอกในตำนานอย่างนั้นหรือ? พลังของมันนั้นเหมือนดั่งเต๋าสวรรค์ลงมาจุติก็ไม่ปาน! ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกอย่างเราๆ ไปก็คงไม่อาจจะต้านทานการโจมตีนี้ได้แม้แต่ครั้งเดียว!”

เย่หยวนที่ได้เห็นเองก็ต้องผงะไปเช่นกัน

พลังของสมบัติยอดหมอกเหนือล้ำกว่าคำว่าน่ากลัวไปมาก ต่อให้จะเป็นเย่หยวนผู้สงบนิ่งก็ยังรู้สึกสั่นไหวในจิตใจขึ้นมา

หากการโจมตีนี้ถูกปล่อยออกมาจริงๆ แล้วมันย่อมจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงทำลายล้างแน่นอน!

ดูท่าแล้วหากมันถูกปล่อยออกมาเมืองสงบทักษิณทั้งหมดคงได้จมหายไปจากแผนที่แน่

เย่หยวนนั้นไม่นึกไม่ฝันว่าเด็กน้อยคนนี้กลับจะสามารถปล่อยการโจมตีที่รุนแรงถึงปานนั้นออกมาได้

ได้เห็นเย่หยวนผงะไปเช่นนั้นเด็กน้อยก็ยิ้มกว้างขึ้นมาเหมือนผู้มีชัย “พี่ขี้แกล้ง พี่รู้พลังของข้าแล้วใช่หรือไม่? วางใจเถอะ ข้าจะไม่สังหารพี่หรอก ข้าแค่จะกระทืบพี่ให้สาใจเท่านั้น!”

แม้ว่าเด็กน้อยคนนี้จะไม่รู้มารยาทไม่สนใจชีวิตผู้คนแต่นางก็ไม่ได้ดูกระหายเลือดใดๆ

เย่หยวนนั้นกัดฟันแน่นในเวลานั้นเองที่เขาเริ่มรู้สึกถึงพลังที่เรียกร้องขึ้นมาจากภายในตัว

มันคือพลังนี้เองที่ช่วยทำให้เขาบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นสุดมาได้ในเวลาไม่กี่นาที

นี่มันคือพลังของสายเลือด!

เช่นนั้นแล้วเย่หยวนย่อมจะไม่มีทางปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังนั้นเย่หยวนก็ตั้งสติค้นหาต้นตอของมัน

นั่นทำให้เลือดของเย่หยวนรู้สึกเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากบรรลุสวรรค์ขึ้นมานั้นสายเลือดมังกรฟ้าของเย่หยวนมันก็เหมือนจะเข้าสู่สภาวะฟักตัวและไม่ปรากฏพลังใดๆ ออกมาอีก

แต่ในเวลานี้พลังของมันกลับถูกสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกเรียกออกมา

เย่หยวนเบิกตาโพลงขึ้นก่อนจะร้องสั่ง “จงมา!!!”

คลื่นพลังรุนแรงสั่นสะท้านทั้งเมืองนั้นมันจางหายไปในวินาทีเดียวกัน

สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นพุ่งออกมาจากมือของเด็กน้อยมาอยู่ในมือของเย่หยวนแทน

เด็กน้อยนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมามองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“จะ จะ เจ้า…ทำอะไร?” ในที่สุดเด็กน้อยนั้นก็แสดงสีหน้าหวาดหวั่นขึ้นมา

พร้อมๆ กันนั้นคนในเมืองที่มาดูเรื่องราวเองก็ต้องถอนใจยาวออกมาอย่างโล่งอก

เพียงแค่ว่าสายตาที่พวกเขาใช้มองเย่หยวนมันยิ่งเปี่ยมล้นด้วยความตกตะลึงกว่าเก่า

เจ้าหมอนี่มันจะมีไม้ตายอีกสักกี่อย่างถึงจะพอใจ?

สังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นมันคือสมบัติประจำตัวของเด็กน้อยผู้นี้ชัดๆ แต่ทำไมเย่หยวนจึงเรียกเอามันไปได้?

เย่หยวนนั้นมองดูเด็กน้อยด้วยสายตาไม่เป็นมิตรก่อนจะกล่าวขึ้น “มันไม่สำคัญหรอกว่าข้าทำอะไร สิ่งสำคัญคือเจ้ากำลังจะทำอะไรต่างหาก!”

ฟุบ!

เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายตัวเย่หยวนก็พุ่งเข้ามาถึงตัวเด็กน้อยแล้ว

เวลานี้เมื่อที่พึ่งสุดท้ายของเด็กน้อยนั้นหายไปจากมือแล้วนางย่อมจะต้องได้แต่ตัวสั่นหน้าซีด มีหรือที่จะยังคิดขัดขืนใดๆ ได้อีก?

เย่หยวนนั้นเข้ามาอย่างรุนแรงและกระแทกปราณเทวะที่ปกป้องร่างของนางจนหมดสิ้น

จากนั้นเขาก็ทำการหิ้วตัวเด็กน้อยนั้นขึ้นมาและเริ่มตีก้นของนางลงไปอย่างแรง

เพียะ เพียะ เพียะ…

หลังจากทุบไปแล้วทุบเล่าคนทั้งหลายที่ได้เห็นต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมา

การท่าทางนี้มันเหมือนพ่อที่กำลังตีสั่งสอนลูกของตนก็ไม่ปาน

ฝ่ามือแต่ละครั้งของเย่หยวนนั้นมันอัดแน่นไปด้วยปราณเทวะ

เด็กน้อยนั้นร้องไห้รุนแรงจนน้ำตาตกไหลราวสายน้ำ

ฝ่ามือของเย่หยวนแต่ละฝ่ามือนั้นมันสุดแสนรุนแรงตอนแรกๆ เด็กน้อยก็ยังคิดต่อต้านพยายามรวบรวมปราณเทวะขึ้นมาต่อต้านคิดหนีจากมือของเย่หยวน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ