เด็กน้อยองค์หญิงมังกรนั้นกลับไป
แต่มันกลับเกิดเสียงร้องของเถี่ยซินขึ้นมาในเมืองสงบทักษิณ
“ไอ้เด็กเวรนั่นมันอยู่ที่ไหน?! รองเจ้าเมืองผู้นี้จะฉีกร่างมันเป็นชิ้นๆ! ฉีกมันให้ไม่เหลือซาก!”
รองเจ้าเมืองสวรรค์ใต้ผู้ยิ่งใหญ่นั้นกลับต้องมาคุกเข่าก้มหัวขอร้องความเมตตา
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังถูกเย้ยหยามต่อหน้าผู้คน เรียกได้ว่ามันเป็นการเสียหน้าครั้งใหญ่หลวง
ความเกลียดแค้นของเขาต่อเย่หยวนนั้นมันสูงล้ำทะลุฟ้าดิน
“กองทัพกลับมาแล้วหรือ?” เถี่ยซินรีบถามลูกน้องขึ้นมาด้วยเสียงเกรี้ยวกราด
ลูกน้องของเขานั้นรีบก้าวขึ้นมากล่าวรายงานทันที “เรียนท่านรองเจ้าเมือง เวลานี้กองทัพยังอยู่ห่างจากเมืองสงบทักษิณไปราวร้อยกิโลเมตร พวกเขาคงกลับมาถึงในไม่ช้า”
เถี่ยซินนั้นต้องหัวเราะกัดฟันขึ้น “ดีมาก! พวกเจ้าออกไปรับกองทัพกับข้า! ข้าอยากจะรู้เหลือเกินว่าไอ้เด็กคนนี้มันจะเอาอะไรมาต่อต้านข้าอีกหากไม่มีสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกนั้นแล้ว! หากวันนี้ข้าไม่ทุบร่างมันให้แหลกเป็นชิ้นๆ ข้าย่อมจะไม่มีทางระบายความคับแค้นในจิตใจนี้ได้!”
ลูกน้องของเขานั้นกล่าวตอบขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “เรียนท่านรองเจ้าเมือง ก่อนหน้านี้ไม่นานเจ้าหอใหญ่และเจ้าหอรองได้มาถึงยังเมืองสงบทักษิณและเวลานี้พวกเขาทั้งสองได้ออกไปรับหน้ากองทัพก่อนเราแล้ว!”
เถี่ยซินนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้นมา “เจ้าหอใด?”
ลูกน้องคนนั้นตอบกลับไป “ข้าย่อมจะพูดถึงหอโอสถสวรรค์ใต้ เจ้าหอใหญ่ท่านอาจารย์จ้าวซุนและเจ้าหอรองท่านอาจารย์อู้จี้อัน!”
เถี่ยซินนั้นผงะไปแต่สุดท้ายก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “พวกเขามาทำไมกัน?”
คนทั้งสองนั้นคือสุดยอดนักหลอมโอสถสวรรค์ที่เก่งกาจที่สุดแห่งแดนสวรรค์ใต้
หากพูดถึงสถานะแล้วพวกเขาย่อมจะไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเมืองสวรรค์ใต้เลยเสียด้วยซ้ำ!
เวลานี้ทัพเผ่าทะเลก็ถอยไปแล้วแต่คนทั้งสองจะยังมีธุระใดจึงได้ออกมา?
แน่นอนว่าตัวลูกน้องเองก็ได้แต่ต้องส่ายหัวขึ้น “ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบได้!”
เถี่ยซินนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ยังไม่ต้องไปสนหรอกว่าพวกเขามาทำไม! มีหรือที่พวกเขาจะมาเพื่อหยุดข้าจากการสังหารนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่คนหนึ่ง? ไปกัน!”
…
“เจ้าหอใหญ่แห่งหอโอสถสวรรค์ใต้ จ้าวซุนขอคารวะสหายเต๋าเย่!”
“เจ้าหอรองแห่งหอโอสถสวรรค์ใต้ อู้จี้อันขอคารวะสหายเต๋าเย่!”
ต่อหน้ากองทัพใหญ่โตนั้นเจ้าหอทั้งสองต่างก้มหัวลงกล่าวทักทายเย่หยวนขึ้น
ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบลืมหายใจ
เวลานี้ทหารทั้งหลายในกองทัพนั้นเป็นแค่กองกำลังที่มาช่วยจากเมืองสวรรค์ใต้แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่รู้ถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่เย่หยวนก่อไว้ในเมืองสงบทักษิณ
สิ่งที่พวกเขารู้นั้นคือเรื่องที่เย่หยวนร่วมมือกับองค์หญิงมังกรจัดการเถี่ยซินจนหมดสภาพไปก่อนหน้าเท่านั้น
แต่ว่าตัวตนของคนทั้งสองนี้มันเหนือล้ำกว่าเถี่ยซินไปลิบลับ
แม้ว่าเถี่ยซินนั้นจะเป็นรองเจ้าเมืองแต่ว่าคนที่ควบคุมเมืองสวรรค์ใต้ไว้จริงๆ มันก็เป็นตัวเจ้าเมือง
เถี่ยซินนั้นเป็นเพียงแค่ลูกน้องของเขาเท่านั้น
ที่สำคัญไปกว่านั้นคนที่ครองตำแหน่งรองเจ้าเมืองมันยังไม่ได้มีเพียงแค่เถี่ยซินคนเดียว
แต่ตัวตนของจ้าวซุนนั้นมันยิ่งใหญ่ไม่แพ้ตัวตนของเจ้าเมืองเลย
แม้ว่าอู้จี้อันจะมีตำแหน่งต่ำกว่าจ้าวซุนแต่เขานั้นเองก็ยังอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าเมือง
เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกในแดนสวรรค์ใต้นี้มันย่อมจะต้องเคยได้รับการช่วยเหลือจากคนทั้งสองนี้มาก่อนไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง
แต่เวลานี้พวกเขาทั้งสองนั้นกลับก้มหัวลงคารวะเย่หยวน มันเหมือนเป็นการยอมรับเย่หยวนขึ้นมาเป็นคนระดับเดียวกัน
มีหรือที่ภาพเช่นนี้จะไม่ทำให้ทหารทั้งหลายตกตะลึง?
“ข้าเย่หยวนขอคารวะสหายเต๋าทั้งสองเช่นกัน” เย่หยวนเองก็โค้งหัวลงทักทายคนทั้งสองเช่นกัน
เย่หยวนนั้นไม่ได้ตกตะลึงกับการมาถึงของคนทั้งสองเลย
เจียงหลี่นั้นเป็นศิษย์ของอู้จี้อันเขาจึงรีบรายงานเรื่องของเย่หยวนกลับไปให้อาจารย์ได้รับรู้ทันที
การปรากฏขึ้นของโอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมีหรือที่ยอดคนทั้งสองนี้จะอยู่เฉยได้?
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงได้รีบมุ่งหน้ามายังเมืองสงบทักษิณเพื่อทักทายทันที
จ้าวซุนนั้นยิ้มตอบกลับไป “จ้าวผู้นี้ได้ยินว่าในสงครามกับเผ่าทะเลในครั้งนี้มันเป็นฝีมือของสหายเต๋าเย่ที่จัดการกับราชวงศ์หนามใต้ช่วยเหลือชีวิตนับล้านๆ ของแดนสวรรค์ใต้เราไว้! แท้จริงแล้วท่านเจ้าเมืองเองก็ได้สั่งการมาอย่างหนักแน่นให้จ้าวผู้นี้มากล่าวขอบคุณต่อสหายเต๋าเย่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...