“ไอ้เด็กเวร ตาเจ้าแล้ว! อย่าได้หาว่าข้าไม่บอกแต่ในทะเลทั้งเจ็ดของเรานี้มันไม่มีใครเหนือใครต่ำกว่ากัน คนที่เอาชนะข้าได้มันคงมีเพียงแค่น้องจิงเฟยเท่านั้น! ข้าว่าเจ้าไม่ต้องทดสอบอะไรอีกแล้ว แค่คุกเข่าลงยอมรับความผิดของตนเองเสียเถอะ!”
ดวงตาของหยูชิงนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความเย้ยหยัน
เขานั้นมั่นใจในพลังสายเลือดของตนเองอย่างมาก เขานั้นคิดว่าวันหน้าตัวเขาอาจจะก้าวขึ้นไปถึงระดับของมังกรฟ้าในตำนานได้
ต่อให้มันจะไม่เหนือล้ำเท่าจิงเฟยแต่แล้วจะทำไม?
“เด็กน้อย อย่างให้พวกเราต้องรอนาน! หากเจ้าไม่ได้หลอมเลือดมังกรฟ้ามันก็คงเปล่าประโยชน์ เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าหรือหยูชิงได้แน่! และสายเลือดของมังกรฟ้านั้นมันก็ไม่มีอยู่ในเจ็ดทะเลนี้!” มู่เฉินกล่าวขึ้นมาเสริม
การกระทำของหยูชิงนั้นมันก็ถือเป็นการแก้แค้นให้เขาไปด้วยในตัว
“เจ้าแพ้แล้ว ทำไมยังไม่คุกเข่าอีก!”
“คุกเข่า!”
“คุกเข่า!”
…
ในสายตาของพวกเขานั้นเย่หยวนย่อมจะต้องเป็นฝ่ายคุกเข่าลงขอโทษต่อความผิด
มันก็ไม่แปลกหากที่คนทั้งหลายจะเชื่อเช่นนั้นเพราะว่าในหมู่คนหนุ่มสาวทั้งหลายมันไม่มีใครจะเหนือล้ำกว่าหยูชิงไปได้
มังกรฟ้านั้นมันคือตัวตนที่สูงส่งลึกลับแทบไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาในโลกหล้า
เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นเหล่าเผ่ามังกรของเจ็ดทะเลนั้นเองก็ล้วนแล้วแต่เป็นได้แค่เหล่ากึ่งมังกร
ต่อให้จะเป็นมนุษย์ที่หลอมดึงพลังสายเลือดของกึ่งมังกรไปมันก็คงไม่มีทางจะมีสายเลือดที่เหนือกว่ากึ่งมังกรจริงๆ ไปได้
“นี่ พวกเจ้าจะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ! พี่เย่หยวนนั้นยังไม่ทันได้ทดสอบแต่ก็มากล่าวบอกว่าเขาต้องพ่ายแพ้แล้ว? พี่เย่หยวน รีบๆ ไปทดสอบให้พวกมันได้เห็นเสียทีสิ!” จิงเฟยนั้นรีบลุกขึ้นมากล่าวปกป้องเย่หยวนทันที
เย่หยวนนั้นเดินลงมาหยุดตรงหน้าศิลาชีพมังกรก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือออกมา
การทดสอบของเขานั้นมันแตกต่างจากหยูชิง เพราะเย่หยวนนั้นไม่ได้รีดพลังสายเลือดใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
ทุกสิ่งอย่างนั้นมันดูเรียบสงบ
“ฮ่าๆ เด็กน้อย ศิลาชีพมังกรมันไม่ได้ใช้แบบนั้น! ทำเช่นนั้นศิลาชีพมังกรคงไม่อาจจะสัมผัสถึงอะไรได้แน่”
“เด็กน้อย อย่าบอกนะว่าเจ้านั้นไม่มีพลังสายเลือดอยู่ในร่างกายเลย?”
“ข้าก็นึกไปว่ามันจะเก่งกาจแค่ไหนหลังจากเสียเวลาอยู่เป็นวันสุดท้ายแล้วมันกลับไม่มีอะไร เก่งแต่ปาก! เลิกทำตัวโง่ๆ แล้วก้มหัวขอโทษเสียเถอะ!”
…
เย่หยวนนั้นยังไม่ทันได้แตะศิลาชีพมังกรมันก็เกิดเสียงเย้ยหยันขึ้นมารอบทิศ
การจะใช้งานศิลาชีพมังกรนั้นคนที่คิดทดสอบมันต้องรีดกลั่นพลังสายเลือดมังกรตัวเองออกมาให้มากที่สุด
เหมือนอย่างที่หยูชิงนั้นทำ
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดจะรีดพลังใดๆ ออกมามีหรือที่ศิลาชีพมังกรมันจะตอบสนองได้?
แต่เมื่อมือของเย่หยวนแตะถึงศิลาชีพมังกรมันกลับเกิดเรื่องประหลาดขึ้นมา!
หนึ่งข้อ!
สองข้อ!
…
จนสุดท้ายมันก็ส่องสว่างขึ้นมาจนสุดปลายเก้าข้อ!
เวลานี้ศิลาชีพมังกรมันส่องสว่างขึ้นมาเหมือนมีใครไปกดสวิตช์เปิดไฟภายในของมัน
เทียบกับแสงของหยูชิงแล้ว แสงที่เกิดขึ้นมาจากสายเลือดของเย่หยวนนี้มันส่องสว่างกว่ากันอย่างลิบลับ!
คนทั้งหลายนั้นต้องผงะไปตามๆ กันแม้แต่ตัวจิงเฟยเองก็ยังต้องอ้าปากค้าง
เวลานี้แม้แต่ตัวราชามังกรน้ำดำเองก็ยังต้องเบิกตากว้างขึ้นมาเช่นกัน
หยูชิงนั้นเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้านี้
“มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? เดี๋ยวนะ! ศิลาชีพมังกรมันต้องผิดปกติแน่ๆ!” หยูชิงนั้นกล่าวขึ้นมา
“เขายังไม่ทันได้รีดพลังสายเลือดออกมาทำไมศิลาชีพมังกรมันถึงได้พุ่งไปจนสุดเช่นนั้น? ศิลาชีพมังกรมันคงมีปัญหาแล้ว! ท่านเจ้ามังกร ศิลาชีพมังกรมันทำงานผิดปกติ!” มู่เฉินกล่าวขึ้นมา
ราชามังกรน้ำดำนั้นหันมากล่าวด้วยท่าทางปวดหัว “หากมันมีอะไรผิดปกติกับศิลาชีพมังกรจริงๆ แล้วการทดสอบก่อนหน้าของหยูชิงเล่า? เจ้าว่ามันมีปัญหาเจ้าก็ลองไปทดสอบดูเอาเองสิ!”
มู่เฉินนั้นผงะไปเมื่อได้ยินแทบจะตวาดลั่นกลับไป
แต่จะอย่างไรเขาก็ยังไม่อาจยอมรับได้
มนุษย์คนนี้มันมีสิทธิอะไรมาทำให้ศิลาชีพมังกรส่องสว่างเต็มทุกข้อเช่นนี้?
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขาไม่ได้รีดพลังสายเลือดออกมาเสียด้วยซ้ำ!
หรือว่าศิลาชีพมังกรนั้นจะตรวจจับได้โดนไม่ต้องรีดพลังออกมา?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...