สามปีต่อมามังกรน้อยจิงเฟยก็ได้บรรลุขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกจนทำให้ทั้งเจ็ดทะเลต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน
พร้อมๆ กันนั้นพลังชีพมังกรของนางก็พัฒนาไปถึงเก้าข้อได้ในที่สุด ด้วยพลังของสังข์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลหยกในมือกำลังของนางย่อมจะไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังของเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวหรืออาจจะเหนือกว่าไปด้วยซ้ำ
ในวันนี้เย่หยวนจึงตัดสินใจบอกลานาง
“พี่เย่หยวน ขอบคุณมาก” จิงเฟยนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ดูขัดแย้งอย่างเศร้าหมอง
เย่หยวนนั้นอยู่ดูแลทะเลหนามใต้มานานถึงสามปีทำให้หกราชวงศ์ที่เหลือไม่กล้าลงมือทำอะไรผลีพลามและเย่หยวนนั้นได้ช่วยพอเท่าที่จะช่วยได้จนถึงที่สุดแล้วเพราะอย่างไรเสียราชามังกรน้ำดำนั้นก็เป็นคนที่เริ่มหาเรื่องคิดร้ายแก่เย่หยวนก่อนหากเป็นคนอื่นพวกเขาคงทำการล้างบางสังหารราชวงศ์หนามใต้ไปจนหมดสิ้นแล้ว
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าอย่ามาทำหน้าเหมือนเป็นผู้ใหญ่หน่อยเลย เจ้านั้นจะอย่างไรก็ยังเป็นแค่เด็กน้อย เจ็ดทะเลนั้นมันเล็กเกินไปสำหรับเจ้า โลกภายนอกนั้นต่างหากคือเวทีของเจ้า หากเจ้าเบื่อก็มาหาข้าที่เมืองสวรรค์ใต้ได้”
ได้ยินเช่นนั้นจิงเฟยก็เบิกตากว้างขึ้นมา เหมือนราวกับว่าความเป็นเด็กน้อยในจิตใจของนางมันได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง “พี่เย่หยวน นี่พี่พูดจริงหรือ?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แน่นอนว่าจริง! กำลังของเจ้าในตอนนี้มันคงมากพอจะจัดการกับราชวงศ์อื่นๆ ได้ไม่ยาก ต่อให้เจ้าจะขึ้นมาเล่นบนบกบ้างเป็นครั้งคราวพวกมันก็คงไม่กล้าทำการอะไรมากมายหรอก แน่นอนว่าหากพวกมันกล้าคิดทำอะไรแล้วข้านี่แหละจะตามเจ้ากลับมาทำลายล้างพวกมันให้สิ้น!”
จิงเฟยนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาเมื่อได้ยินคำของเย่หยวน “พี่เย่หยวนดีที่สุดเลย!”
เย่หยวนนั้นมองรอยยิ้มน้อยๆ นั้นก่อนจะยิ้มตอบกลับไป
นี่ต่างหากคือตัวตนของจิงเฟย เวลาหลายปีมานี้มันแทบจะเปลี่ยนนางไปเป็นคนละคน!
ได้เห็นหน้าสบายใจของเด็กน้อยเย่หยวนเองก็โล่งอกขึ้นมาเช่นกัน
…
เมื่อกลับมาใกล้ชายฝั่งของเมืองสงบทักษิณเย่หยวนก็สัมผัสได้ทันทีว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล
ระหว่างทางมานั้นเขาถูกภูติแท้หลายตัวเข้าจู่โจม
ที่สำคัญไปกว่านั้นยิ่งเขาเข้าใกล้เขตของเมืองสงบทักษิณมากเท่าใดภูติแท้มันก็ยิ่งมีให้เห็นมากขึ้น
แน่นอนว่าเหล่าภูติแท้ทั้งหลายนั้นมันมีพลังบ่มเพาะไม่สูงส่ง พวกมันนั้นย่อมจะไม่เป็นภัยร้ายใดๆ แก่เย่หยวน
แต่เขานั้นรู้สึกตกตะลึงอยู่ไม่น้อยเพราะเห็นเช่นนี้หรือว่ามันจะเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นกับเมืองสงบทักษิณอีกแล้ว?
ในดินแดนแถบนี้พวกเขาทั้งหลายมีแต่จะรับมือกับภูติแท้เผ่าทะเล น้อยมากที่จะได้เห็นภูติแท้ธรรมดามารุกราน
แล้วเหล่าภูติแท้ทั้งหลายนี้มันมาจากที่ใด?
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเย่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าขึ้น
ไม่ไกลจากเมืองสงบทักษิณไปเย่หยวนก็ต้องหยุดเท้าลงพร้อมอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้า
เบื้องหน้ากำแพงเมืองนั้นมันอัดแน่นไปด้วยฝูงภูติแท้มากมายนับไม่ถ้วน
เหล่าภูติแท้ทั้งหลายนั้นมันกำลังเข้าล้อมเมืองสงบทักษิณและโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
ค่ายกลที่ป้องกันเมืองสงบทักษิณไว้นั้นมันแทบจะพังทลายลงไปภายใต้การโจมนี้อยู่รอมร่อแล้ว
เย่หยวนนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าซูยี่นั้นเดินไปมาอยู่บนกำแพงเมืองด้วยท่าทางกังวลสุดใจ
“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เมืองสงบทักษิณนั้นเป็นเมืองชายทะเลแท้ๆ ทำไมมันถึงได้ถูกภูติแท้ลงมาบุกเช่นนี้? หากจะพูดแล้วค่ายสำนักที่จะส่งกำลังภูติแท้ลงมาได้มากมายขนาดนี้มันคงมีแต่เขาหมื่นอสูร! หรือว่าภูติแท้ทั้งหลายมันจะหนีลงมาจากเขาหมื่นอสูรสิ้น? ที่สำคัญไปกว่านั้นเมืองสงบทักษิณนั้นอยู่ในสภาพเช่นนี้ทำไมเมืองสวรรค์ใต้และแปดเมืองที่เหลือจึงไม่ส่งกำลังออกมาช่วยเหลือกัน?” เมื่อเย่หยวนได้เห็นภาพตรงหน้านี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอียงคอตั้งคำถามขึ้น
“ดูสิ! มันมีมนุษย์อยู่ ฆ่ามัน!”
“ของข้า! พวกเจ้าอย่าได้มาแย่ง!”
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”
…
เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดปิดบังตัวเองใดๆ ไม่นานเขาจึงได้ถูกเหล่าภูติแท้สังเกตเห็น
เมื่อพวกมันทั้งหลายได้เห็นเย่หยวนมันย่อมจะพุ่งเข้ามาราวกับว่าได้เห็นอาหารอันโอชะ
แต่เย่หยวนที่เห็นนั้นต้องหัวเราะขึ้นพร้อมปราณดาบที่กระแทกออกมาสังหารภูติแท้กว่าสิบตนลงไปพร้อมๆ กัน
เย่หยวนนั้นไม่จำเป็นต้องขยับมือด้วยซ้ำหากคิดจัดการกับเหล่าลูกกะจ๊อกทั้งหลายนี้
ต่ำกว่าชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำไปนั้นเขาย่อมจะสังหารได้ด้วยเพียงแค่เป่าลม
จากนั้นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าภูติแท้มันก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้านหลังนั้นมันย่อมทำให้เหล่าภูติแท้ทั้งกองทัพต่างหันมาสนใจกันสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...