จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2697

“ไอ้หนู เอาเขาที่เจ้าถือมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้าให้!” ลู่เหยียนกล่าวขึ้น

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจคำขู่ใดๆ พร้อมถามกลับไป “พวกเจ้ามาจากที่ใด? ทำไมจึงได้มาล้อมโจมตีเมืองสงบทักษิณเช่นนี้?”

ลู่เหยียนที่ได้ยินนั้นจึงหัวเราะตอบกลับมา “แม่ทัพผู้นี้กำลังถามเจ้าอยู่ ใครใช้ให้เจ้าถามกลับ!”

“ดูท่าข้าจะต้องสั่งสอนเจ้าเสียหน่อยก่อนจะได้คำตอบสินะ” เย่หยวนส่ายหัวขึ้นมาอย่างเหนื่อยหน่าย

ลู่เหยียนนั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาทันที “ไอ้เจ้าโง่โอหัง! มีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นต้นกลับกล้ามาวางท่าต่อแม่ทัพผู้นี้! ไปฆ่ามัน!”

ลูกน้องคนสนิทของเขากว่าสิบคนที่มีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นสุดต่างพุ่งตัวเข้าไปโจมตีเย่หยวนพร้อมๆ กัน

ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นสุดนั้นเป็นตัวตนที่สูงล้ำแล้วในแดนสวรรค์ใต้

เวลานี้เมื่อภูติแท้ระดับนั้นกว่าสิบตนเข้ามาโจมตีพร้อมๆ กันย่อมจะทำให้เกิดคลื่นพลังรุนแรงไหลไปทุกทิศทาง

เย่หยวนนั้นยืนมองก่อนจะพูดพึมพำอะไรบางอย่างก่อนที่เขาแห่งถงเทียนนั้นจะพุ่งหายไปกระแทกร่างของภูติแท้ตนหนึ่งที่พุ่งตัวเข้ามา

ปัง!

เสียงหนักๆ ดังลั่นขึ้นมาภูติแท้ตนนั้นกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรงก่อนจะทิ้งตัวลงนอนดูท่าคงบาดเจ็บสาหัสแล้ว

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นร่างกายของเย่หยวนก็พุ่งหายไปจากการล้อมโจมตีของคนทั้งหลาย!

ด้วยฝีมือของเย่หยวนในตอนนี้เขาย่อมจะสามารถดึงพลังของเขาแห่งถงเทียนมาใช้ได้ถึงราวร้อยละเจ็ดสิบถึงแปดสิบแล้ว

กฎที่ว่าน้ำหนักคือพลังนั้นถูกดึงมาใช้อย่างถึงที่สุด!

การใช้งานเขาแห่งถงเทียนต่อสู้นั้นมันมีกฎเพียงแค่อย่างเดียวคือความไร้เหตุผล!

ไม่ว่าเจ้านั้นจะเก่งกาจล้ำแค่ไหนข้าก็จะใช้เอาลูกนี้กระแทกเข้าจนตาย!

ง่ายๆ แต่โหดร้าย!

ไร้ซึ่งทางแก้ไข!

หลังจากเย่หยวนพุ่งตัวออกไปแล้วความเร็วของเขาแห่งถงเทียนมันก็ยิ่งพุ่งทะยานเร็วกว่าเหล่าภูติแท้พลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นสุดทั้งหลายนั้นไปเกือบเท่าตัว!

หากมิใช่ยอดคนชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกลงมือแล้ว คนระดับเดียวกันมันย่อมจะไม่มีทางเอาชนะเย่หยวนได้ไม่ว่าจะมีจำนวนมากเพียงใด

“ไป!”

ก่อนที่คนทั้งหลายจะทันได้หันกลับมาตั้งตัวเย่หยวนก็ไปปรากฏขึ้นด้านหลังของภูติแท้ตนหนึ่งพร้อมกระแทกเขาแห่งถงเทียนลง

ภูติแท้ตนนั้นไม่ทันตั้งรับและถูกซัดเข้าที่กลางหลังทันที

ภูติแท้ตนนั้นกระอักเลือดคำโตออกมาก่อนจะจมลงไปกับพื้นดิน ดูท่าเขาคงสิ้นใจแล้ว

เมื่อลู่เหยียนเห็นเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสีไปทันที

เพราะวิชาการเคลื่อนไหวอันแปลกประหลาดนี้กอปรกับพลังอันไร้เหตุผลของเขาแห่งถงเทียนมันย่อมจะไม่มีทางแก้ไขได้เลย!

“เหล่านายท่านพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นสุดทั้งหลายร่วมมือกันนอกจากจะจัดการมันไม่ได้แล้วพวกท่านยังเป็นฝ่ายถูกจัดการลงแทนอีกด้วย!”

“เจ้ามนุษย์คนนี้มันมาจากไหนกัน? ทำไมมันถึงได้แข็งแกร่งปานนี้?”

เหล่าภูติแท้ทั้งหลายนั้นต่างมึนงงอย่างไม่อาจเข้าใจ เกรงกลัวกำลังอำนาจของเย่หยวนเป็นอย่างมาก

เหล่าภูติแท้ที่เข้าล้อมโจมตีก่อนหน้านั้นมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นสุดกันทั้งสิ้นแต่พวกเขานั้นกลับทำอันตรายอะไรอีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผม!

บนกำแพงเมืองนั้นซูยี่เองก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเช่นกัน

ภาพนี้ของเย่หยวนนั้นมันช่างเหมือนเหลือเกินกับตอนที่เขารับมือทัพทะเลหนามใต้ในตอนนั้น

แต่สิ่งที่ต่างไปก็คือตอนนั้นเย่หยวนใช้แค่การหลอกลวงไล่ทัพของอีกฝ่ายกลับลงทะเลไป

แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับมีกำลังฝีมือพอที่จะจัดการกับทัพภูติแท้นับหมื่นจริงๆ!

เวลานี้สภาพของเย่หยวนมันได้ซ้อนทัพกับภาพของเขาในตอนนั้นไม่มีผิดเพี้ยน!

นั่นทำให้เกิดเสียงโห่ร้องดังขึ้นมาจากบนกำแพงมีเพียงแค่ซูยี่เท่านั้นที่ยังขมวดคิ้วแน่น

เพราะปัญหาจริงๆ มันยังคงเป็นแม่ทัพขนเขียวตนนั้น!

เขานั้นเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก หากยังเอาชนะเขาคนนั้นไม่ได้มันก็ไม่มีทางชนะอะไรได้

เมืองสงบทักษิณนั้นย่อมจะไม่มียอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกประจำการอยู่

หากเมืองนั้นไม่มีค่ายกลป้องกันไว้แล้วพวกเขาคงต้องตายตกกันสิ้นอย่างไร้ทางขัดขืน

เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่อาจจะเปิดประตูเมืองออกไปช่วยเหลือได้

หากทำเช่นนั้นมันก็เท่ากับว่าส่งมอบชีวิตของคนทั้งเมืองเข้ามือเหล่าภูติแท้ทั้งหลายไป

“ยังจะเอาไหม?” เย่หยวนหันไปถามลู่เหยียน

ลู่เหยียนนั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “พวกเจ้าถอยไปให้สิ้น! แม่ทัพผู้นี้จะจัดการสังหารเจ้าเด็กคนนี้ลงเอง!”

เขานั้นยื่นมือออกมาทำให้แผ่นดินสั่นไหวทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ