จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2705

“พี่เย่หยวน ข้ามาบอกลาท่าน!” ซั่วเหยียนนั้นวิ่งเข้ามาหาเย่หยวนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ซั่วเหยียนได้บรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นกลางไปแล้วด้วยการช่วยเหลือของเย่หยวน การล่านั้นมันใกล้เข้ามาเต็มทีซั่วเหยียนนั้นจึงได้มาบอกลาเย่หยวนเตรียมออกเดินทาง

การล่าที่ว่านั้นแท้จริงแล้วมันก็คือการออกไปแย่งชิงดินแดนและการจะทำเช่นนั้นมันย่อมต้องมีการฆ่าสังหารไปตลอดทาง

เย่หยวนที่ได้ยินจึงถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “เจ้าจะไปที่ไหน?”

ซั่วเหยียนจึงได้อธิบายออกมาจนทำให้เย่หยวนต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้น “เจ้าหมายความว่าเจ้าจะไม่มีคนติดตามพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกไปด้วยเลยหรือ”

ซั่วเหยียนที่ได้ยินก็ยิ้มตอบไป “เสด็จพ่อนั้นต้องการให้เราออกไปฝึกฝนตัว หากเราพายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกตามไปด้วยแล้วมันจะยังเป็นการฝึกฝนใดอีก?”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ปีที่ผ่านมานี้เจ้าได้เจอพี่ๆ ของเจ้าบ้างหรือไม่? พวกเขานั้นมีท่าทางอย่างไรต่อพลังฝีมือที่เพิ่มพูนของเจ้านี้?”

พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาซั่วเหยียนก็ยิ้มกว้างขึ้น “แน่นอนว่าข้าได้เจอพวกเขา! จะว่าไปแล้วมันก็บังเอิญเสียจริง พวกเขานั้นปกติเวลาแล้วจะอยู่แต่ในดินแดนตัวเองปีๆ หนึ่งได้เจอแค่สองสามคนก็ถึงว่าโชคดีมากแล้ว แต่ปีที่ผ่านมานี้ข้ากลับได้พบเจอพวกเขาครบทุกคน ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกเขายังชื่นชมและบอกให้ข้าพยายามให้หนักอย่าให้เสียชื่อเสด็จพ่อด้วย!”

เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของซั่วเหยียนเช่นนั้นเย่หยวนก็เข้าใจได้ทันทีว่าเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้เข้าใจอะไรที่เขาเคยบอกเตือนไปเลย

แม้ว่ากำลังฝีมือของเขานั้นมันจะพัฒนามาถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นกลางแล้วแต่ว่าสมองของเด็กน้อยนี้ก็ยังคงเป็นแค่เด็กน้อย

ซั่วเหยียนนั้นคงมีอายุไม่ห่างจากจิงเฟยนั้นมากมายนัก เขายังเป็นแค่เด็ก

เขานั้นหลงคิดไปว่าพี่ๆ ทั้งหลายของเขานั้นรักกันดี!

ยิ่งเหล่าพี่ชายของเขาแสดงท่าทีไม่สนใจมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเท่ากับว่าพวกเขานั้นกำลังเฝ้ามอง

ที่สำคัญไปกว่านั้นอยู่ๆ ปีนี้ซั่วเหยียนก็ได้พบเจอพี่ชายทั้งเก้าจนครบ มันย่อมจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเกินบรรยายแล้ว

เย่หยวนนั้นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ข้าเองก็กำลังว่าจะออกไปหาสมุนไพรสวรรค์อยู่พอดี ข้าจะออกไปกับเจ้าด้วยแล้วกัน”

แต่เมื่อซั่วเหยียนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดลังเลขึ้นมาไม่ได้ “พี่เย่หยวน ท่านเก่งไป! ข้าแค่จะไปจัดการนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นปลายทั้งหลาย หากท่านอยากไปด้วยก็ได้ แต่ท่านห้ามลงมือสู้นะ!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ไปขวางการฝึกของเจ้าหรอก ข้าแค่จะออกไปหาสมุนไพรสวรรค์เท่านั้น ไม่สนใจเรื่องอื่นหรอก”

ซั่วเหยียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มกว้างตอบกลับไป “เช่นนั้นก็ดี มีพี่เย่หยวนไปด้วยเช่นนี้ซั่วเหยียนคงไม่เบื่อแน่!”

ราชาขาลเจิดนั้นเองก็ไม่คิดห้ามเย่หยวนใดๆ

เพราะที่ที่ซั่วเหยียนมุ่งหน้าไปนั้นมันเป็นดินแดนของนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำขั้นปลายเท่านั้น ไม่ได้ถือเป็นดินแดนที่อันตรายใดๆ

เพราะจะอย่างไรเย่หยวนก็ติดคำสาบานคงไม่อาจจะหนีไปไหนได้ เขาจึงโล่งใจไม่ต้องคิดกังวล

ราชาขาลเจิดนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนชื่นชอบตัวซั่วเหยียนไม่น้อย

แท้จริงแล้วตัวซั่วเหยียนนั้นเองก็เป็นลูกคนโปรดของเขาเช่นกัน

หากวัดกันที่พรสวรรค์หรือพลังสายเลือดแล้ว ซั่วเหยียนนั้นย่อมจะเด่นกว่าบุตรคนอื่นๆ ทั้งเก้าของเขาอย่างมาก

ไหนจะยังเรื่องที่ว่าตอนนี้เขาได้การช่วยเหลือจากเย่หยวนจนพัฒนาล้ำหน้าคนอื่นๆ ไปสิ้นเชิงอีก

การปล่อยให้เย่หยวนกับซั่วเหยียนสนิทกันไปมันย่อมจะมีแต่ประโยชน์ ไม่มีอะไรเสียหายแม้แต่น้อย

ระหว่างทางไปนั้นซั่วเหยียนต่อสู้กันเหล่าภูติแท้ที่เป็นเจ้าถิ่นของดินแดนนั้นและฆ่าสังหารไปเรื่อยจนเข้าถึงหุบเขาสามเซียน

สิ่งที่เรียกว่าหุบเขาสามเซียนนั้นแท้จริงแล้วมันเป็นแค่คำโม้อวดตัวของหมูป่าเขาดำสามตนเท่านั้น

การต่อสู้บนเขาหมื่นอสูรนั้นมันไม่มีกลยุทธอะไรมากมาย

ไปเคาะถามแย่งดินแดนถึงหน้าบ้านเจ้าของ

เมื่อเฮ่ยฟางผู้เป็นหัวหน้าได้เห็นหน้าของซั่วเหยียนนั้นเขาก็อดหัวเราะไม่ได้ “ไอ้ลูกแมว ขนยังไม่ทันขึ้นกลับกล้ามาบุกหุบเขาสามเซียนเราหรือ?”

เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวขึ้นทางฝั่งยอดฝีมือของหุบเขาสามเซียนก็หัวเราะลั่นขึ้นมา

แม้ว่าซั่วเหยียนนั้นจะเติบโตขึ้นมาแต่เขานั้นก็ยังมีใบหน้าและรูปร่างของเด็กน้อย ดูไม่ได้ต่างไปจากแมวตัวโตจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ