เย่หยวนนั้นนั่งลอยตัวโดยมีสามพลังกฎวนรอบกาย
แต่ว่าพลังทั้งสามนั้นมันกลับแยกห่างจากกันชัดเจนไม่อาจเข้าใกล้กันได้
ฟู่!
พลังทั้งสามนั้นจางหายไปเย่หยวนจึงได้แต่ต้องมองดูมันด้วยสายตาที่เหม่อลอย
แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้ผลจริงๆ!
“อาจารย์เย่ มันไม่ได้ผลหรือ?” ต้าหวงถามขึ้นมา
เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “มันเหมือนว่าแต่ละกฎนั้นมีกำแพงอะไรขวางกั้นอยู่ นอกจากนั้นข้ายังไม่อาจสัมผัสถึงพลังแห่งกฎได้แล้วด้วย”
หากไม่สามารถสัมผัสพลังแห่งกฎได้แล้วมันย่อมจะหมายความว่าเขานั้นไม่อาจบ่มเพาะได้อีก!
ยอดอัจฉริยะแห่งยุคสมัยคนหนึ่งไม่อาจบ่มเพาะได้ต่อ มันย่อมจะต้องเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างมาก!
ต้าหวงได้แต่ต้องกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางรู้สึกผิด “อาจารย์เย่…มันเป็นต้าหวงเองที่ไร้ประโยชน์จนเกินไป!”
เย่หยวนมองหน้าต้าหวงด้วยรอยยิ้ม “ความแค้นนี้เดิมทีมันก็เป็นเรื่องของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นข้า ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาหมื่นอสูรแม้แต่น้อย แค่พวกเจ้ามาช่วยเหลือนี้เย่ผู้นี้ก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรแล้ว เรื่องครั้งนี้มันมิใช่ความผิดเจ้าหรอก”
“ต แต่อาจารย์เย่ ท่าน…” ต้าหวงนั้นเจ็บปวดไปทั้งใจ
เขานั้นคิดอยากก้าวตามร้อยเท้าของเย่หยวนแต่สุดท้ายแล้วเย่หยวนกลับเป็นคนปกป้องพวกเขาไว้จนต้องบาดเจ็บหนักเอง
หากมิใช่เพราะเรื่องนี้แล้วเย่หยวนก็คงไม่ต้องใช้ดาบสังหารสวรรค์ในการโจมตีหลี่ฉางเซิง
ศึกยุทธมั่นนี้มันทำให้ทั้งทวีปแตกตื่น!
เรื่องเย่หยวนสังหารหลี่ฉางเซิงด้วยดาบเดียวนี้มันถูกเล่ากันปากต่อปากจนทั่วทวีปพิรุณใส
เพราะว่าเรื่องนี้มันคือจุดจบของการปกครองของพันธมิตรโอสถ ทำให้นิกายสวรรค์ทั้งหลายกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง
เวลานี้นามของเย่หยวนจึงได้รับการสรรเสริญไม่มีหยุด
แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าหลังศึกครั้งนี้แล้วเย่หยวนไม่อาจจะบ่มเพาะได้อีก
ไม่ได้รับการยอมรับจากเต๋าสวรรค์นั้นมันก็เท่ากับความพิการ!
เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีหมดหวังใดๆ ยิ้มตอบกลับไป “ข้าเย่หยวนนั้นต่อต้านสวรรค์มาทั้งชีวิต! เต๋าของข้าไม่ต้องให้สวรรค์มายอมรับ!”
ต้าหวงนั้นได้แต่ต้องมองหน้าเย่หยวนอย่างมึนงงไปพักใหญ่ๆ
เพราะว่าท่าทางของเย่หยวนนั้นมันแตกต่างจากที่เขาคาดเดาไว้มาก
ยิ่งเป็นยอดอัจฉริยะแค่ไหนมันก็ยิ่งยากจะยอมรับความมืดมนไร้หนทางเช่นนี้
แต่เย่หยวนนั้นกลับทำท่าเหมือนมันไม่ใช่ปัญหา
นอกจากนั้นเขายังสัมผัสได้ด้วยว่าเย่หยวนนั้นมีท่าทางมั่นใจและมุ่งมั่นหนักกว่าเก่า!
หรือว่าเขาคนนี้จะไม่รู้ว่าตัวเองไม่อาจบ่มเพาะต่อไปได้แล้ว?
“พวกเขาว่าอย่างไรเกี่ยวกับข้อเสนอของข้าบ้าง?” เย่หยวนถามขึ้นมา
ต้าหวงที่ได้ยินต้องขมวดคิ้วแน่นกล่าวอย่างไม่พอใจทันที “ไอ้พวกเนรคุณทั้งหลายนั่น! หากมิได้อาจารย์เย่แล้วพวกมันคงตายลงสิ้น! เวลานี้แค่คำขอเล็กๆ นี้พวกมันกลับไม่ยอมรับเสียอย่างนั้น!”
เย่หยวนนั้นคาดเดาไว้แล้วว่าเรื่องต้องเป็นเช่นนี้จึงได้ถามขึ้น “แล้วพวกเขาว่าอย่างไร?”
ต้าหวงตอบกลับไป “พวกมันบอกว่าผู้บรรลุสวรรค์ก็คือผู้บรรลุสวรรค์! เวลานี้ห้ายอดนิกายสวรรค์นั้นมันเหลือแค่นามแล้วพวกเขาจะคืนที่ของนิกายให้ได้ แต่ดินแดนส่วนอื่นๆ นั้นต้องส่งมอบกลับไป! ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกมันยังบอกว่าจะเป็นคนควบคุมเหล่าผู้บรรลุสวรรค์เองด้วย!”
หลังจากศึกครั้งนั้นเย่หยวนได้เสนอไปว่าทวีปพิรุณใสนั้นไม่ควรจะแยกฝ่ายเป็นผู้บรรลุสวรรค์และคนถิ่นอีกต่อไป ผู้บรรลุสวรรค์นั้นควรจะได้รับการยอมรับเข้านิกายสวรรค์ต่างๆ ตามที่ต้องการ
เวลานี้จากห้านิกายสวรรค์ของดินแดนสวรรค์ห้าแสงนั้นมันเหลือเพียงแค่หลัวหยุนชิงเท่านั้นที่เป็นจักรพรรดิเซียน
ต่อให้จะนับจักรพรรดิเซียนที่เป็นผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหมดเองก็มีแค่สามคนเท่านั้น
แน่นอนว่าเสียงของจักรพรรดิเซียนถิ่นนั้นมันย่อมจะดังกว่าเป็นไหนๆ
เพราะฉะนั้นพวกเขาย่อมจะไม่คิดแบ่งทรัพยากรให้ผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหลายคิดอยากจะรีดเหล่าผู้บรรลุสวรรค์ให้แห้งหมดตัว
แต่ว่าจะอย่างไรเสียพวกเขานั้นก็ยังเกรงใจเขาหมื่นอสูรที่อยู่หลังเย่หยวนทำให้พวกเขานั้นยังไม่กล้าลงมือใดๆ เกินเลย
ตั้งแต่หลี่ฉางเซิงตายลง พวกเขาต่างก็เสียศัตรูร่วมและต่างฝ่ายต่างก็ทำตามใจหาผลประโยชน์ใส่ตัวอีกครั้งหนึ่ง
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นก็คือเรื่องที่เย่หยวนเสียอนาคตไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...