“เหมือนจะเป็นเช่นนั้น?” เทียนลู่กล่าวขึ้นตาม
“เขาแปลงยอดเต๋ายังไม่ได้ ทำยังไงถึงผ่านสามเต๋าทุกข์เก้ากฎมาได้กัน? การจะผ่านสามเต๋าทุกข์เก้ากฎนั้นอย่างน้อยๆมันคงต้องมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนขั้นปลาย
และยังต้องเป็นจักรพรรดิเซียนขั้นปลายที่เก่งกาจล้ำด้วย! หรือว่าเขามีพลังระดับนั้นแล้ว?”
พูดไปต้าวหยุนก็อดตัวสั่นขึ้นไม่ได้
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วมันย่อมจะหมายความว่าพลังฝีมือของเย่หยวนไม่ได้ถดถอยลงแต่ก้าวล้ำขึ้นไปแทน!
ต่อให้เขาจะต้องสู้กับหลี่ฉางเซิงอีกครั้ง เย่หยวนก็อาจจะรับมือซึ่งๆหน้าได้!
มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
เทียนลู่นั้นมองหน้าต้าวหยุน ก่อนจะยิ้มแห้งๆ กล่าวขึ้น
“นี่เรา…ไปลบหลู่เขาถึงกระดูกแล้ว?”
เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวเหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายต่างก็ต้องตัวสั่นขึ้นทันที
ต้าวหยุนนั้นส่ายหัวออกมา “ข้าไม่เชื่อว่ามันจะยังบ่มเพาะได้หรอก!”
เทียนลู่นั้นยิ้มตอบไปด้วยใบหน้าเหยเก “จะบ่มเพาะต่อได้หรือไม่แต่ตอนนี้เขาก็มีฝีมืออยู่ตรงนั้นแล้ว! บนทวีปพิรุณใสนี้มันคงไม่มีใครเก่งกว่าเขาอีก!”
คนทั้งหลายหันมามองหน้ากันอย่างไม่รู้ต้องทำอะไร
อีกด้านนั้นพวกมารกระทิงทั้งหลายจากเขาหมื่นอสูรนั้นต้องอ้าปากค้างไปพร้อมๆ กัน
เย่หยวนนั้นกลับผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง!
เพราะพวกเขานั้นคือคนที่ตอกตะปูฝังเย่หยวนตอนที่เขาตกต่ำ
ในเวลานี้เหล่าจักรพรรดิเซียนของเขาหมื่นอสูรนั้นได้แต่ต้องรู้สึกขมขื่นในใจขึ้น
…
ไม่นานนักจักรพรรดิเซียนของสี่ยอดแดนสวรรค์และเขาหมื่นอสูรก็ได้รับจดหมายเชิญ
จดหมายเชิญนี้มันเชิญพวกเขาไปพูดคุยกันที่เจ็ดมหาสมุทร
เหล่าจักรพรรดิเซียนที่ได้รับจดหมายนี้ต่างผงะไปตามๆ กัน
ออกเจ็ดมหาสมุทรไปทำอะไร?
เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายย่อมจะคาดเดาได้ว่าเย่หยวนคงต้องการจะเชิญพวกเขาไปเพื่อแสดงพลังฝีมือ
ของตน
แต่ว่าในเวลานี้พวกเขานั้นก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าเย่หยวนนั้นจะผงาดขึ้นมาจากขี้เถ้าได้จริงๆ หรือไม่ หรือว่าแท้จริงแล้วแค่โม้อวดฝีมือ
บนท้องฟ้าเหนือเกาะไร้นามแห่งหนึ่งมันมีปราณดาบรุนแรงหลั่งไหล
หลัวหยุนชิงที่สัมผัสถึงปราณดาบนี้ได้ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาแต่แฝงไปด้วยความตกตะลึง
เพราะปราณดาบนี้มันสุดแสนบริสุทธิ์ แข็งแกร่งเกินรับ!
ร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้เขาพัฒนาตัวเองไปอย่างก้าวกระโดด
แต่ว่าแปลงยอดเต๋าของเขานั้นมันยังติดอยู่ที่รูปแบบสาม
แต่ว่าปราณดาบที่เหลืออยู่บนเกาะนี้มันแสดงให้เห็นถึงรูปแบบที่ห้า!
ความแตกต่างนี้มันไม่อาจจะเอามาเทียบเคียงกันได้!
“ข้านั้นเดิมตามรอยท่านโฉมาตลอดแต่ไม่รู้เลยว่าตอนที่ท่านออกจากทวีปพิรุณใสไปนั้นท่านจะเก่งกาจได้ปานนี้แล้ว!” หลัวหยุนชิงร้องขึ้นอย่างชื่นชม
เย่หยวนยิ้มตอบไป “โฉปู้ฉุนนั้นมากพรสวรรค์จริงๆ เพราะฉะนั้นบนทวีปพิรุณใสน้อยๆ นี้มันจึงไม่มีอะไรจะมอบให้เขาได้อีกแล้ว เมื่อไม่มีคู่มือ คำว่าไร้เทียมทานมันก็ช่างโดดเดี่ยวเหลือเกิน!”
หลัวหยุนชิงพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยสุดใจ
“เย่หยวน ตอนนี้เจ้าเก่งขึ้นแค่ไหนแล้ว?” หลัวหยุนชิงอดถามขึ้นไม่ได้
เพราะตั้งแต่ผ่านเต๋าทุกข์มาได้นั้นเย่หยวนก็ยังไม่ได้แสดงฝีมือการต่อสู้ออกมาเลย
หลัวหยุนชิงนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนเชิญจักรพรรดิเซียนทั้งหลายมาทำไม
เพราะฉะนั้นเขาจึงอยากรู้ถึงฝีมือของเย่หยวนไว้ก่อน
เย่หยวนยืนมือไพล่หลังก่อนจะยิ้มตอบไป “ท่านจะได้รู้แน่ อ่า จริงด้วย เต๋าดาบของท่านนั้นมันคล้ายกับเต๋าของโฉปู้ฉุน ปราณดาบที่เขาทิ้งไว้นี้มันคงเป็นประโยชน์กับท่านได้มาก ไม่ลองเข้าไปศึกษามันดูหน่อยเล่า?”
หลัวหยุนชิงพยักหน้ารับทันทีก่อนจะพุ่งตัวเข้าเกาะไป
หลัวหยุนชิงนั้นเก่งกาจ!
เขานั้นบุกขึ้นไปจนถึงในเกาะได้ทันที
แต่สุดท้ายเขาก็ยังต้องถอนตัวออกมาในที่สุด
แต่ว่าเขานั้นไม่ได้เกรงกลัวหรือท้อแท้ใดๆ ยังคงพุ่งตัวกลับเข้าไปหลังพักฟื้นแล้วเสร็จ
เช่นนั้น เวลาก็ผ่านไปกว่าหนึ่งเดือน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...