เมื่อหยุนหยางได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องลุกขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
อู๋ต้วนนั้นได้แต่ต้องตอบกลับไปด้วยใบหน้าเหยเก
“เจ้าค่ะท่านหยุนหยาง! ท่านจิงหลานนั้นขอให้ท่านรีบลงมือโดยเร็ว ช้าไปกว่านี้พวกเขาจะไม่อาจต้านทานรับมันไว้ได้แล้ว!”
หยุนหยางนั้นราวกับได้ยินเรื่องราวในนิทาน สี่ยอดขุนศึกนั้นออกไปรบ
มันย่อมจะต้องเป็นพลังระดับที่ทำสงครามทะเลได้แล้ว
ห้ายอดขุนศึกนั้นต่างปกครองทะเลส่วนของตนเอง พวกเขานั้นคือตัวตนที่คนนับล้านๆ ต่างต้องก้มหัวกราบไหว้
การทำให้พวกเขาร่วมมือกันนั้นมันย่อมจะต้องเป็นยอดฝีมือระดับไหน?
จักรพรรดิเซียนขั้นต้นชาวมนุษย์คนหนึ่งกลับรับมือพวกเขาทั้งสี่นั้นได้!
“ให้ตายสิ! นายท่านเองก็อยู่ระหว่างการเก็บตัวเพื่อเผชิญเต๋าทุกข์จักรพรรดิเที่ยง จะออกไปไหนยังไม่ได้! แต่หากจะเชิญขุนศึกของทะเลอื่นมาเราก็คงต้องจ่ายราคามันจนกระอักเลือดแน่ๆ!”
หยุนหยางนั้นเรียกลูกน้องสามคนออกมาก่อนสั่ง “พวกเจ้าทั้งสามไปยังทะเลสี่หอมและทะเลปกเมฆตอนนี้เลย พวกเจ้าต้องเชิญอย่างน้อยๆ สองยอดฝีมือระดับขุนศึกมา! ส่วนเรื่องราคานั้น ตราบเท่าที่พวกเขายอมลงมือ พวกข้าจะยอมจ่ายเป็นโอสถวิญญาณสมุทรสามเม็ดต่อคน!”
สีหน้าของคนทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปทันที
“โอสถวิญญาณสมุทร! นายท่าน โอสถวิญญาณสมุทรนั้นมันเป็นโอสถสวรรค์ ที่ช่วยบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยง จ่ายออกไปง่ายๆ เช่นนี้มันจะดีหรือ?”
หยุนหยางนั้นส่ายหัวตอบกลับไป “มีหรือที่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงมันจะบรรลุได้ง่ายๆ? โอสถวิญญาณสมุทรนั้นมันก็แค่ช่วยเสริมสร้างวิญญาณดั่งเดิมเพิ่มโอกาสบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยง
เท่านั้น แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของพวกมันแล้วมีหรือที่พวกมันจะยอมลงมือหากไม่ได้ราคาที่เกินตัว?
เอาล่ะ พวกเจ้าไปเถอะ หากท่านเฉียนกุยจะลงโทษแล้วข้าจะเป็นคนรับโทษนี้ไว้เอง!”
หยุนหยางนั้นกล่าวเช่นนี้ออกมาแล้ว เหล่าลูกน้องย่อมจะไม่กล้าลังเลอีก
หลังจากที่คนทั้งสามออกเดินทางไปหยุนหยางก็ออกคำสั่งเรียกเหล่าจักรพรรดิเซียนขั้นสุดของทะเล
พันทานตะวันมารวมตัวกันมุ่งหน้าไปยังสนามรบทันที!
ใครที่คิดขัดขืนคำสั่งเรียกตัวนี้จะต้องถูกลงโทษอย่างไม่มีการยกเว้น!
หลังจากคำสั่งนั้นถูกส่งออกไปหยุนหยางก็พาอู๋ต้วนพร้อมจักรพรรดิเซียนขั้นสุดอีกเจ็ดถึงแปดคนมุ่งหน้ากลับไปยังสนามรบบนผิวน้ำอีกครั้ง
…
“ท่านหยุนหยางมาแล้ว!”
“นี่มัน… ทั้งโถงพันทานตะวันมากันหมดสิ้นเลย!”
“หรือว่าคนมากมายขนาดนี้ก็จะยังเอาชนะมันไม่ได้?”
…
ได้เห็นว่าสนามรบนี้มันขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายจักรพรรดิเซียนทั้งหลายที่มาก่อนหน้าต่างก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
เพราะพวกเขานั้นไม่เคยคิดว่านี้จะเป็นเรื่องใหญ่ได้ปานนี้
แค่ฆ่าจักรพรรดิเซียนขั้นต้นคนหนึ่งมันจะยากอะไรมาก?
แต่ตอนนี้ทั้งโถงพันทานตะวันนั้นได้ออกมาจนครบสิ้น!
เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงหลายสายมุ่งหน้ามาตัวเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องกุมขมับ
เพราะเขานั้นปรานีมาตลอดระหว่างที่สู้
หรือว่าเหล่าเผ่าทะเลทั้งหลายมันจะมีแต่คนบ้าเลือด?
หากเขาไม่สังหารคนแล้วอีกฝ่ายก็จะคิดว่าเขานั้นไร้ฝีมือ?
หากมิใช่เพราะเกรงใจจักรพรรดิเที่ยงที่ปกครองทะเลนี้อยู่ตัวเย่หยวนเองก็ย่อมจะไม่สนใจชีวิตของเผ่าทะเล
ทั้งหลายนี้แน่
เหตุผลที่เขายั้งมือมาตลอดก็เพราะว่าเขานั้นไม่อยากจะไปท้าทายจักรพรรดิเที่ยง
แต่เวลานี้ยิ่งเขาออมมืออีกฝ่ายกลับยิ่งโถมกำลังเข้ามา!
หยุนหยางพาจักรพรรดิเซียนขั้นสุดมาอีกราวเจ็ดถึงแปดคนพร้อมเข้าสนามรบกดดันเย่หยวนอย่างหนักหน่วง
เย่หยวนจึงร้องกล่าวขึ้น “พวกเจ้าทั้งหลาย เย่ผู้นี้พยายามยั้งมือมาตลอดพวกเจ้ามองกันไม่ออกหรือ? หากยังทำเช่นนี้กันต่อไปก็อย่าได้หาว่าเย่คนนี้ไม่เกรงใจแล้วกัน!”
จักรพรรดิเซียนขั้นสุดแปดคนนั้นกอปรกับห้ายอดขุนศึกผู้พลังแปลงยอดเต๋ามันย่อมจะเรียกได้ว่า เป็นกองทัพที่น่ากลัวนัก
เย่หยวนนั้นเก่งแต่ก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น
เวลานี้เขาต้องใช้กำลังที่มีออกมาทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว ไม่อาจจะออมมือได้อีก
สิ่งเดียวที่เขายังไม่ได้ทำคือการเอาชีวิต!
เย่หยวนนั้นไม่อยากจะท้าทายเผ่าทะเลจนถึงแก่น แต่คนทั้งหลายนี้มันกลับไม่รู้จักถอย
ปัญหาที่จิงเฟยก่อนั้นเย่หยวนได้ถามมาแล้ว มันไม่มีอะไรที่ถึงชีวิตมิใช่เรื่องที่จะยอมไม่ได้จนต้องตายกันไปข้าง
เพราะเรื่องนี้เองที่ทำให้เย่หยวนยั้งมือมาตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...