จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2850

สรุปบท ตอนที่ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้!: จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้! – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ

ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2850 ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้!
เดิมทีแล้วเย่หยวนไม่ได้อยู่ในบ้านอย่างแน่นอน

คนมากมายขนาดนี้ล้อมไว้รอบด้านหน้าหลังแล้วเย่หยวนโผล่ออกมาได้อย่างไร?

แม้แต่จูหยานมหาจักรพรรดิคนนี้เองก็ยังไม่อาจจะอดสะท้านได้เพราะเขานั้นไม่รู้เลยว่าเย่หยวนผ่านพวกเขาไปตอนไหน

แต่เรื่องนี้มันทำให้พวกหวังหลินทั้งหลายยิ้มกว้างขึ้นมา

คนร้ายออกมาแล้ว!

‘จั่วเฉินเก่งกาจมาหรือ? รักศิษย์คนนี้มากมิใช่หรือ?’

‘วันนี้ข้าจะตบหน้าเจ้าให้คนทั้งนิกายดู!’

หวังหลินนั้นมองหน้าจูหยานด้วยความเย้ยหยัน “เจ้าบอกว่ามันไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เวลานี้จะยังพูดอะไรได้อีกไหม?”

จูหยานนั้นได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกมองดูเย่หยวนด้วยความคับแค้นใจที่เขาไม่อาจตอบสนองความหวังของศิษย์พี่ทั้งหลายได้

‘เจ้าไม่รู้จักการซ่อนตัวหรือ?’

ออกมาตอนนี้มันจะไม่เท่ากับยอมรับเรื่องที่เป็นเต่าหัวหดหรือ?

หลู่เต้าอี้นั้นหันไปมองเย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ “เจ้าคือเย่หยวน? ข้าก็นึกว่าเจ้านั้นจะเป็นยอดอัจฉริยะจากที่ไหน เสียเวลาไปเป็นวันสุดท้ายนั้นกลับเป็นแค่เต่าหัวหด!”

เย่หยวนมองหน้าหลู่เต้าอี้ก่อนจะถามขึ้น “เจ้าเป็นใคร?”

หลู่เต้าอี้ยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไม่รู้จักข้า? อย่างนั้นก็ฟังให้ดี ข้านั้นคือหลู่เต้าอี้ นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าอันดับหนึ่งของนิกายยาสุดล้ำ! ไม่นานจากนี้ข้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของระดับหกด้วย! ข้านั้นมีเป้าหมายแค่อย่างเดียวคือท่านบรรพบุรุษโจวซ่งฉวน! ข้านั้นจะก้าวขึ้นระดับลึกล้ำก่อนบรรลุมหาจักรพรรดิเป็นคนสองของนิกาย!”

คำแนะนำตัวนี้มันช่างเหนือล้ำฟ้าดินอวดอ้างตัวเองอย่างมาก

เพราะว่าการตั้งโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายนั้นมันเป็นสิ่งที่เกินมือคนทั้งหลายไปมาก

แต่ว่าหลู่เต้าอี้คนนี้มีค่าพอจะกล่าว

ในตอนนี้เขานั้นเป็นเพียงแค่จักรพรรดิเซียนขั้นสุดและกลับสามารถเอาชนะยอดฝีมืออย่างฮั่วจงลงได้

เมื่อเขาก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้วมันย่อมจะไม่แปลกหากเขาบรรลุระดับลึกล้ำได้

หากให้พูดแล้วหลู่เต้าอี้นั้นคงถูกคนมากมายรังเกียจเพราะความโอหัง

แต่ว่ามันกลับไม่มีเรื่องเช่นนั้น!

“หลู่เต้าอี้นั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงหลังออกจากการเก็บตัวมา! ข้าไม่นึกเลยว่าเขาจะเอาท่านโจวซ่งฉวนเป็นเป้าหมายเช่นนี้!”

“แม้มันจะฟังดูโอหังอย่างมากล้นแต่ว่ามันก็ไม่เกินจริงเลย! ข้าได้ยินมาว่าบรรพบุรุษโจวซ่งฉวนท่านเองก็สามารถเอาชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกได้ตั้งแต่ตอนยังเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าเช่นกัน!”

“อาจารย์ลุงฉินชานนั้นได้ศิษย์ที่ดีมาเข้าสำนักจริงๆ! แม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ระดับเจ็ดแต่หากไม่ระวังเราก็อาจจะถูกเขาไล่ทันได้จริงๆ!”

ในศึกก่อนหน้านั้นหลู่เต้าอี้ได้แสดงฝีมือออกมาอย่างเหนือล้ำ

หลังจากเก็บตัวไปนานถึงสิบปีนั้นเขาก็ได้เปลี่ยนแปลงราวกับกลายเป็นคนละคนทำให้คนทั้งนิกายต้องอ้าปาก ค้าง!

ต่อให้จะเป็นตัวโจวซ่งฉวนในตอนหนุ่มๆ นั้นก็คงไม่ได้เก่งกว่าหลู่เต้าอี้ไปมากมาย

บางทีแล้วเมื่อหลู่เต้าอี้บ่มเพาะถึงอาณาจักรจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแล้วเขาอาจจะบรรลุระดับลึกล้ำได้จริงๆ ก็ได้

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นในใจไม่ได้

ระดับลึกล้ำมันยากมาก?

เขากล่าวตอบไป “เก่งปานนั้น? ในเมื่อเจ้าเป็นอันดับหนึ่งแล้วเจ้าจะมาหาข้าเพื่อ?”

หลู่เต้าอี้ตอบกลับไป “ข้านั้นเพิ่งออกมาจากการเก็บตัวเมื่อไม่กี่วันก่อนและได้ยินว่ามียอดอัจฉริยะไร้เปรียบเข้านิกายมา ข้าย่อมจะต้องมาเพื่อเอาชนะเจ้าด้วย! ไม่เช่นนั้นแล้วตำแหน่งอันดับหนึ่งของข้ามันจะไม่มีใครยอมรับกันพอดี! แต่ได้เห็นเจ้าแล้วข้าก็ผิดหวังนัก! เจ้าไม่มีค่าพอจะเป็นคู่ปรับของข้าเลย!”

คำพูดนี้มันมีทั้งที่เขาคิดจริงๆ และที่พูดเพื่อท้าทาย

เขานั้นดูถูกเย่หยวนจริงๆ คิดว่าเย่หยวนไม่มีค่าพอจะเป็นศัตรูของเขาเลย

แต่คำพูดอีกส่วนนั้นก็กล่าวขึ้นมาเพื่อท้าทายเย่หยวนจะได้ตบหน้าเขาต่อหน้าคนได้อย่างถนัด

ทำเช่นนั้นได้มันคงสะใจอย่างมาก!

แต่ใครจะคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไปง่ายๆ “คิดอย่างนั้นแล้วจะมายืนอยู่หน้าบ้านข้าทำไมอีก? ไสหัวไปได้แล้ว”

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองหน้าเย่หยวนพร้อมๆ กัน

ขี้ขลาดปานนี้?

แม้แต่จูหยานนั้นเองก็ยังผงะไป

จากนั้นมันก็ตามมาด้วยความอับอาย

ทำไมอาจารย์ของเขาถึงไปรับคนเช่นนี้มาเป็นศิษย์? ช่างเป็นคนที่ขี้ขลาดนัก

หากหลู่เต้าอี้นั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยงนั้นยังพอว่าแต่หลู่เต้าอี้นั้นเป็นแค่จักรพรรดิเซียนเช่นกัน!

ต่อให้เขาจะรู้ว่าฝีมือสู้ไม่ได้มันก็ไม่ควรถึงขั้นยอมแพ้ตั้งแต่ไม่ทันสู้เช่นนี้ไม่ใช่หรือ?

หวังจากที่พวกหวู่เจียงทั้งหลายถูกขับไล่ออกไปแล้วพวกเขาก็มองเย่หยวนดีขึ้นมาหน่อยแต่ตอนนี้มันกลับไปเป็นการดูถูกเหมือนเดิมแล้ว

ไม่สิ มันแย่เสียยิ่งกว่าตอนแรกอีก!

เพราะนี่มันมิใช่แค่หน้าเจ้าที่เสียหาย แต่ชื่อเสียงของอาจารย์ด้วย!

หลู่เต้าอี้หัวเราะขึ้น “ศิษย์พี่จูหยาน อาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นฉลาดมาทั้งชีวิตไม่นึกเลยว่าจะมีเวลาที่เขาตามืดบอดเช่นนี้ด้วย! ขยะเช่นนี้ข้าหลู่เต้าอี้ไม่สนใจที่จะตบหน้ามันแล้ว! ศิษย์พี่หวัง ไปเถอะ!”

หวังหลินนั้นยิ้มตอบ “ก็จริง คนเช่นนี้ให้ศิษย์น้องลงมือมันคงมีแต่เสียชื่อเปล่าๆ ไปเถอะ!”

พูดจบพวกหวังหลินก็พาคนสำนักฉินชานจากไป

ตอนนี้มันไม่ต้องแข่งขันใดๆ แล้ว

เพราะนี่มันดีเสียยิ่งกว่าการเอาชนะเย่หยวน

สำนักจั่วเฉินนั้นจะต้องก้มหน้ารับคำเย้ยหยันไปอีกนานหลายปีแน่นอน

ที่สำคัญไปกว่านั้นหลู่เต้าอี้ยังเอาชนะฮั่วจงมาได้จนสะท้านนิกายแล้วด้วย!

เป้าหมายของพวกเขานั้นมันลุล่วงลงอย่างสวยงาม

ในที่พักนั้นจูหยานอดไม่ไหวต้องร้องขึ้นมา “ศิษย์น้องเย่ เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้านั้นต้องรู้นะว่าเจ้าไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว ชื่อเสียงของอาจารย์ท่านนั้นอยู่บนบ่าของเจ้าด้วย! หากเจ้ายอมแพ้มันก็ยังพอว่าแต่นี่เจ้าไม่ยอมแพ้แล้วกลับไม่รับคำท้าด้วย ชื่อเสียงของอาจารย์ต้องมาเสื่อมเสียเพราะเจ้าแล้ว!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ศิษย์พี่สาม ข้านั้นไม่สนใจจะประลองกับหลู่เต้าอี้จริงๆ แข่งกันไปก็เสียเวลาเปล่าๆ!”

จูหยานที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ เช่นนั้นแล้วจะบอกว่าตัวเองเก่งกาจกว่ามันมาก?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “แน่นอน”

จูหยานนั้นหัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาต่อ “ในเมื่อเจ้าเก่งกว่ามันแล้วทำไมไม่ประลองกับมันให้คนได้เห็นเล่า?!”

เย่หยวนตอบกลับไป “เพราะมันอ่อนแอเกินไป!”

จูหยานนั้นอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ฮ่าๆๆ แม้แต่ข้าที่เป็นศิษย์พี่ของเจ้านี้ก็ยังไม่กล้าบอกว่าหลู่เต้าอี้มันอ่อนแอเลย! เจ้ากลับบอกว่ามันอ่อนแอเกินไป? ศิษย์น้อง เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมากจนเกินไปแล้ว! ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้!”

พูดจบจูหยานก็เชิดหน้าเดินออกไปอย่างผิดหวัง

……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ