เพราะเดิมทีเขาก็ไม่ได้รู้จักกลุ่มคนทั้งหลายนี้อยู่แล้ว เหตุใดต้องไปสนใจความรู้ของพวกเขาด้วย?
หลังจากพวกจูหยานทั้งหลายนั้นออกไปเย่หยวนก็มุ่งหน้าตรงไปยังห้องสมุดคัมภีร์เพื่อเริ่มศึกษาวิชาพื้นฐานของนิกายยาสุดล้ำในทันที นิกายยาสุดล้ำนั้นเป็นนิกายที่เน้นเรื่องวิชาการโอสถแน่นอนว่าคัมภีร์วิชาของพวกเขานั้นมันย่อมจะมีมากมายจนเกินกว่าจะนับได้
ห้องสมุดคัมภีร์ของนิกายยาสุดล้ำนั้นมันได้แบ่งออกเป็นห้องสมุดวิชายุทธและวิชาโอสถ
และห้องสมุดคัมภีร์วิชาโอสถนั้นมันก็เป็นตึกสูงถึงเจ็ดชั้น!
แน่นอนว่าการจะเข้าไปในแต่ละชั้นนั้นต้องได้รับการอนุญาตที่แตกต่างกัน
ในฐานะศิษย์ของจั่วเฉินนั้นเย่หยวนย่อมจะมีสิทธิ์พอเข้าไปถึงชั้นหกได้ไม่มีปัญหาใด
ในห้องสมุดคัมภีร์โอสถนี้นิกายยาสุดล้ำไม่ได้ตั้งข้อจำกัดไว้มากมาย
เพราะเต๋าโอสถนั้นมันแตกต่างจากเต๋ายุทธ เพราะต่อให้จะได้วิชาลับเหนือล้ำมาไว้ในมือมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขานั้นจะก้าวขึ้นสวรรค์ไปได้ทันที
สิ่งที่บันทึกไว้ในวิชาการโอสถนั้นมันแตกต่างจากวิชายุทธอย่างมาก
บางสิ่งที่ลึกล้ำจริงๆ นั้นต่อให้จะอ่านไปแค่ไหนก็ไม่อาจจะเข้าใจได้
ต่างจากวิชายุทธที่ยังพอเลียนแบบได้
การศึกษาโอสถนั้นมันมีแต่ต้องศึกษาตามระดับจากง่ายไปยากเท่านั้น ที่จะทำให้คนผู้หนึ่งจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้ แต่การศึกษามีข้อจำกัดไม่มากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีข้อจำกัดเลย เพราะชั้นเจ็ดนั้นมันเป็นบันทึกวิชารากฐานของนิกายยาสุดล้ำ มีแต่คนที่มีอำนาจสูงสุดเท่านั้นที่จะขึ้นไปได้
หลังจากเย่หยวนเดินเข้าห้องสมุดคัมภีร์มาเขาก็ไม่คิดหยุดและก้าวเดินตรงไปยังชั้นหกทันที
เย่หยวนนั้นอยู่ห่างจากระดับลึกล้ำไปแค่ครึ่งก้าว แน่นอนว่าสิ่งที่เขาต้องการย่อมจะเป็นอะไรที่มาจุดประกายเรื่องนี้
วิชาพื้นฐานของชั้นล่างๆ นั้นมันย่อมจะยังเป็นประโยชน์กับเขามาก แต่มันทำได้แค่เพิ่มความรู้พื้นฐานของเขาให้หนักแน่นเท่านั้นไม่อาจช่วยบรรลุ
เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องขึ้นมาชั้นหก
วิชาโอสถนั้นมันแตกต่างจากวิชายุทธที่ถูกเก็บไว้แยกเป็นระดับอาณาจักร
เหมือนอย่างคู่มือภาพร้อยสมุนไพรในมือเขานั้นมันมีเรื่องของสมุนไพรสวรรค์เขียนไว้ไม่มากแต่คุณค่าของมันนั้นมากพอจะเอาไปวางบนชั้นเจ็ดได้ง่ายๆ
ในชั้นหกนี้มันย่อมจะมีบันทึกคัมภีร์บางอย่างที่เย่หยวนไม่เข้าใจ
แต่เขานั้นพอจะเข้าใจคัมภีร์ส่วนมากบนนี้ได้เพราะว่าเขานั้นมีความรู้มากพอแล้ว
เหนือจากระดับลึกล้ำไปนั้นมันยิ่งยากเกินกว่าจะเข้าใจ คัมภีร์ล้ำค่าระดับนั้นย่อมจะไม่มีทางถูกเก็บไว้แค่บนชั้นเจ็ด
แน่นอนว่าเย่หยวนรู้ดีว่าคัมภีร์บันทึกที่เหนือล้ำอย่างแท้จริงนั้นมันถูกเก็บไว้ที่หอสุดแสงต่างหาก
ที่แห่งนั้นมันมีแต่เหล่าผู้อาวุโสหอสุดแสงเท่านั้นที่จะเข้าไปอ่านได้
แต่ว่าหนังสือพวกนั้นมันก็ยังเกินมือเกินความเข้าใจเย่หยวนไปมาก ย่อมจะไม่ถือว่าเป็นประโยชน์ใดๆ ต่อตัวเขาในตอนนี้
บนชั้นหกนี้มันมีคนอ่านคัมภีร์อยู่ไม่มากนักและทั้งหมดก็ล้วนเป็นมหาจักรพรรดิ
เมื่อเย่หยวนก้าวขึ้นประตูมามันก็ย่อมจะทำให้สายตามากมายหันมาหา มันไม่ใช่ว่านักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าไม่มีสิทธิ์ขึ้นมาบนนี้เพราะตัวหลู่เต้าอี้นั้นเองก็มีสิทธิ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน
แต่หลู่เต้าอี้ก็ไม่ขึ้นมาบนชั้นหกนี้
คัมภีร์โอสถบนนี้มันเกินมือเขาไปมาก
เพราะฉะนั้นเมื่อได้เห็นจักรพรรดิเซียนก้าวขึ้นมาเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายก็เกิดความสงสัยกันไม่น้อย
เย่หยวนนั้นไม่สนใจสายตาของคนทั้งหลายนั้นและเดินเข้าไปยังชั้นคัมภีร์ทันที
บนชั้นนั้นมันมีแผ่นหยกมากมายวางเรียงกันอยู่และข้างๆ ของแผ่นหยกนั้นมันก็มีตัวอักษรเขียนไว้ว่าเป็นคัมภีร์บันทึกเรื่องใด
เย่หยวนนั้นมองดูผ่านตาไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็หยิบเอา ‘คำอธิบายโอสถสวรรค์ระดับลึกล้ำอย่างละเอียด’ ขึ้นมาอ่าน
“เจ้าหนุ่ม ทำอะไรเกินตัวนั้นมันไม่มีประโยชน์หรอกนะ! โอสถสวรรค์ระดับลึกล้ำนั้นมันมิใช่สิ่งที่เจ้าในตอนนี้จะเข้าใจได้ กลับไปวางรากฐานให้ดีก่อนเถอะ ทำเช่นนั้นถึงจะได้ประโยชน์!” จู่ๆ มันก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูเย่หยวน
เมื่อหันไปมองดูเขาก็พบชายแก่ในชุดคลุมสีดำ
เย่หยวนก้มหัวลงคารวะก่อนจะยิ้มตอบ “ขอบพระคุณบรรพบุรุษท่านที่ชี้แนะ ศิษย์ทราบแล้ว!”
แต่แม้เขาจะตอบเช่นนั้นไปเย่หยวนก็ยังไม่วางแผ่นหยกในมือลง
ชายแก่ชุดดำนั้นมีพลังเหนือล้ำ เย่หยวนไม่อาจจะมองออกได้แต่ก็เดาว่าคงเป็นถึงมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์แน่
เพราะฉะนั้นเย่หยวนถึงต้องเรียกว่าเป็นบรรพบุรุษ
ชายแก่ชุดดำคนนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ไอ้หนุ่ม เจ้าจะทำหูทวนลมกับคำของข้า?”
เย่หยวนได้แต่ต้องเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “บรรพบุรุษท่าน ศิษย์แค่มาเพื่อบรรลุระดับลึกล้ำเท่านั้น”
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายก็ต้องหยุดขำกันออกมาเป็นแถบๆ จักรพรรดิเซียนตัวน้อยคนหนึ่งมันกลับคิดจะมาบรรลุระดับลึกล้ำ มันช่างน่าขันเพราะพวกเขาเหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายที่ยังอยู่ในนี้มันยังไม่มีใครบรรลุระดับลึกล้ำได้แม้สักคน
หากไม่พูดก็ไม่เท่าไหร่แต่เมื่อพูดออกมาแล้วชายแก่ก็ต้องดุว่าขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม “นอกจากจะทำอะไรเกินตัวแล้วเจ้ายังโอหังหลงตัวเองอีก! อาจารย์เจ้าคือใครกัน?”
เย่หยวนได้แต่ต้องตอบไปตามตรง “อาจารย์ข้านั้นคือท่านจั่วเฉิน!”
ชายแก่ชุดดำคนนั้นหัวเราะตอบกลับมา “จั่วเฉินไอ้เด็กนั่นมันตาบอดไปแล้วหรืออย่างไร? ทำไมถึงไปเก็บศิษย์ที่โอหังหลงตัวไม่สมเป็นมันเช่นนี้? เจ้าไปในที่ที่เจ้าควรไปเสีย อย่าได้มารบกวนคนเขาอ่านคัมภีร์กันที่นี่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...