นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกกล่าวออกมา
พริบตาต่อมามันก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นมาทันที!
“นี่มันเป็นชัยชนะติดต่อกันครั้งที่สิบแปดแล้ว! พระเจ้าช่วย นี่หลู่เต้าอี้จะต่อต้านสวรรค์จริงๆ หรือ!”
“นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั้งหลายนั้นพ่ายให้แก่เขาจนเกือบสิ้น! ความเก่งกาจของเขานี้ไม่ใช่คำโม้เลย! บางทีเขาคนนี้อาจจะเดินตามรอยเท้าท่านโจวซ่งฉวนได้จริงๆ ก็ได้!”
“เยี่ยมยอด! มหาจักรพรรดิฉินชานนั้นได้ศิษย์ที่ดีมาจริงๆ!”
“จะว่าไปแล้วมหาจักรพรรดิฉินชานนั้นเดิมทีก็เทียบเคียงกับมหาจักรพรรดิจั่วเฉินได้ แต่ดูท่าตอนนี้แล้วช่องว่างมันคงขยายตัวอย่างมหาศาลแล้ว! ศิษย์ของพวกเขาทั้งสองนั้นมันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว!”
…
ครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้หลู่เต้าอี้นั้นเอาชนะการประลองติดต่อกันมาสิบแปดครั้งจนทำให้ทั้งนิกายแตกตื่น
หลู่เต้าอี้ที่ออกมาจากการเก็บตัวคราวนี้มันช่างเก่งกาจล้ำฟ้าสู้คนทั้งนิกายยาสุดล้ำได้อย่างไม่รู้จักพ่ายแพ้
คนทั้งสิบแปดที่เขาเอาชนะมานี้มันต่างมิใช่แค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั่วๆ ไป
หลู่เต้าอี้นั้นเอาชนะมาได้ทุกครั้งมันย่อมจะแสดงถึงฝีมือที่แท้จริงของเขา
ต่อให้จะเอาไปเทียบกับโจวซ่งฉวนเมื่อตอนหนุ่มมันก็คงไม่ด้อยกว่าเลย
ก่อนนั้นโจวซ่งฉวนนั้นเองก็เอาชนะนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหกทั้งหลายได้ตอนที่ยังเป็นแค่ระดับห้าขั้นสุด
เทียบกันระหว่างศิษย์ของมหาจักรพรรดิฉินชานและมหาจักรพรรดิจั่วเฉินแล้วมันย่อมจะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
แม่นั้นอวดลูก อาจารย์นั้นอวดศิษย์!
หากพวกเขาสามารถเลี้ยงดูศิษย์ให้ขึ้นไปถึงระดับเจ้าโลกได้แล้วมันย่อมจะเป็นเกียรติที่เกินคาดคิด
“นี่ พวกเจ้าได้ยินกันมาหรือไม่? ศิษย์คนใหม่ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินคนนั้น เจ้าเย่หยวนมันเข้าห้องสมุดคัมภีร์และประกาศว่าจะบรรลุระดับลึกล้ำ! อาจารย์ลุงฟานหลี่อุตส่าห์หลังดีบอกให้มันลงไปอ่านชั้นล่างๆ ก่อนแต่มันกลับไม่ฟังและสวนกลับจนอาจารย์ลุงฟานหลี่ไปต่อไม่เป็น ข้าล่ะอยากจะหัวเราะดังๆ!”
“มันกลับมีเรื่องเช่นนั้นด้วย? ฮ่าๆๆ ศิษย์ของอาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นมันเหนือล้ำกว่าศิษย์ของอาจารย์ลุงฉินชานมาตลอดหากมิใช่เพราะว่าศิษย์พี่เมิ่งหยูเถียนตายลงไปในสงครามแล้วพวกเขาก็คงเอาชนะสำนักฉินชานได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้มันกลับตาลปัตรไปสิ้น!”
“ก็ว่า! ตอนที่เจ้าเย่หยวนนั้นเข้าห้องสมุดคัมภีร์ไปมันก็มุ่งหน้าขึ้นชั้นหกทันที เป็นการอวดดีอย่างสุดตัวโดยแท้! นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้ากลับคิดจะก้าวขึ้นระดับลึกล้ำ หากมันทำได้จริงสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้คงแตกตื่นกันแน่!”
“ฮ่าๆๆ น่าขัน! ไอ้เด็กนี่มันน่าสนใจจริงๆ!”
…
พูดถึงเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายต่างก็หัวเราะกันขึ้นมาไม่ขาดสาย
เพราะว่าสายสัมพันธ์ของฉินชานและจั่วเฉินนั้นมันย่อมจะทำให้คนเอาหลู่เต้าอี้มาเทียบกับเย่หยวน
หากไม่ได้เทียบนั้นยังพอว่าแต่พอเทียบแล้วมันช่างต่างหันราวฟ้ากับเหว
คนหนึ่งนั้นเหมือนดวงตะวันยิ่งใหญ่เจิดจ้าส่วนอีกคนนั้นเหมือนเป็นแค่เศษดินที่ดินรองเท้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิสัยของเย่หยวนนั้นมันยิ่งทำให้คนเย้ยหยัน
การอวดอ้างเกินตัวมันก็ต้องมีราคาของมันที่ต้องจ่ายนั่นคือกลายเป็นตัวตลกในสายตาทุกผู้คน
บนโลกนี้นอกจากตัวเขาเองแล้วเขาคงไม่คิดว่ามีใครเหนือกว่าตัวเองแน่
“วันพรุ่งนี้ข้าจะไปท้าทายศิษย์พี่หวางจี้! ถึงตอนนั้นหวังว่าศิษย์พี่ทั้งหลายจะไปร่วมเป็นสักขีพยานให้ข้าด้วย!” จู่ๆ หลู่เต้าอี้ก็ประกาศขึ้นมา
เท่านี้มันก็ยิ่งทำให้คนตกตะลึงมากขึ้น
“เขากลับจะไปท้าทายหวางจี้อย่างนั้นหรือ!”
“สุดยอด! หวางจี้นั้นคือศิษย์ของบรรพบุรุษเป่ยเจินเชียวนะ เรียกได้ว่าในระดับหกนั้นเขาถือเป็นสิบอันดับแรกเลย!”
“ดูท่าหลู่เต้าอี้จะยังไม่ได้เอาจริงเลย! เท่านี้มันก็คงมีอะไรสนุกๆ ให้ดูแน่แล้ว!”
เดิมทีนั้นคนที่หลู่เต้าอี้ท้าทายล้วนเป็นศิษย์ของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับแปดทั้งสิ้น
แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับเก้าบางคนก็มีศิษย์จักรพรรดิเที่ยงอยู่เช่นกัน! แน่นอนว่ามาตรฐานของพวกเขานั้นย่อมจะสูงล้ำคนที่เข้าเป็นศิษย์ได้ย่อมจะสุดแสนเก่งกาจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...