ยังคงเป็นวิชาในตำนาน!
พวกนี้มีแต่ของในตำนานทั้งสิ้น!
เชินเฟยเหวินนั้นหยิบมันขึ้นมาดูเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าที่เหมือนได้เห็นผีหลายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ!
กองแผ่นหยกเบื้องหน้าเขานี้มันมีแต่บันทึกโบราณที่สาบสูญ!
เช่นนั้นแล้วของที่อยู่ด้านในเล่า?
เชินเฟยเหวินหยิบแผ่นหยกด้านในไปอ่านและยิ่งเห็นว่ามันเหนือล้ำกว่าด้านนอกไปมาก
มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อมาก่อน!
แต่ว่าหากดูตามสิ่งที่เขียนไว้ในแผ่นหยกนี้แล้ว เขาก็เข้าใจถึงความล้ำค่าของมันได้อย่างทันที!
ได้เห็นสภาพนั้นของเชินเฟยเหวินพวกหวังหลินที่ก่อนหน้ายังว่าเย้ยหยันเย่หยวนก็เริ่มหน้าเสีย
นี่เขาคงไม่ได้เห็นแก่หน้าหลานศิษย์จนเล่นละครตามน้ำเย่หยวนไปหรอกนะ?
หนึ่งหรือสองยังพอเชื่อ!
สามหรือสี่ยังพอทำใจ!
แต่จะบอกว่ากองภูเขาแผ่นหยกนี้มันมีแต่บันทึกล้ำค่าอยู่หรือ?
จากนั้นไม่นานเชินเฟยเหวินก็หยุดมือลงก่อนจะหันไปมองหน้าเย่หยวนและกล่าว “หลานศิษย์เย่ เรื่องนี้มันใหญ่เกินไปส่งผลถึงความเจริญรุ่งเรืองของนิกาย ข้าคนเดียวไม่อาจตัดสินได้อีกต่อไป! ข้าขอตัวไปรายงานท่านเจ้านิกายก่อนให้ท่านเป็นคนตัดสินใจ!”
พูดจบเขาก็เดินหายเข้าไปในห้วงมิติทันทีทิ้งคนทั้งโถงคุณงามให้อ้าปากค้าง
นี่มัน…ถึงขั้นส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของนิกายหรือ?
อาจารย์ลุงท่านจะไม่พูดเกินไปหน่อยหรือ?
แค่แผ่นหยกกองเดียวมันจะมีค่าอะไรขนาดนั้น?
ไม่นานจากนั้นซ่งชิงหยางก็มาถึงพร้อมฟานหลี่และเหล่ายอดคนระดับสูงของนิกายด้วยใบหน้าแตกตื่น!
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองของนิกายนั้นมันย่อมจะต้องเป็นพวกเขาที่ลงมาดูเอง!
เรื่องของเย่หยวนนั้นซ่งชิงหยางได้แต่ต้องกุมขมับ
‘บรรพบุรุษตัวน้อยของข้า ท่านช่วยทำตัวเงียบๆ หน่อยไม่ได้หรือ?’
‘ทำไมขยับตัวแต่ละครั้งมันก็กลายเป็นเรื่องที่สั่นสะท้านนิกายไปได้ทุกครั้งเช่นนี้?’
ได้เห็นสายตานั้นของซ่งชิงหยางเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยักไหล่ตอบ
‘ข้าก็ไม่ได้อยากทำ!’
‘แต่ในเมื่อมันมีคนบังคับข้าก็มีแต่ต้องยอมทำแต่โดยดีเท่านั้น’
เพราะของพวกนี้มันน่าจะช่วยทำให้เขาสามารถทำอะไรตามใจในนิกายได้หลังจากใช้หนี้แต้มความดีคืน
เมื่อซ่งชิงหยางและพวกผู้อาวุโสมาถึงโถงคุณงามพวกเขาก็ต่างหยิบแผ่นหยกกันขึ้นมาอ่านคนละชิ้นแต่ยิ่งอ่านไปเท่าไหร่สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งซีดขาวจนสุดท้ายต้องหันมามองเย่หยวนเป็นตาเดียว
นี่เจ้าเด็กคนนี้มันไปปล้นเต๋าโอสถจากทั้งสามสิบสามสวรรค์มาหรือ?
จะเกินเหลือเชื่อไปแล้ว!
แผ่นหยกแต่ละชิ้นนั้นมันมีค่าเหมือนสมบัติที่ไม่อาจจะวัดเป็นเงินได้
แน่นอนว่าวัดเป็นแต้มความดีเองก็ไม่ได้เช่นกัน!
มีบันทึกโอสถทั้งหลายนี้อยู่ในมือ เขาคงสามารถไปสร้างนิกายยาสุดล้ำอีกแห่งได้ไม่ยาก!
จะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ซ่งชิงหยางนั้นไม่อาจจะหาคำใดมาอธิบายคนอย่างเย่หยวนได้แล้ว
เพราะแค่คำว่าเหลือเชื่อมันยังไม่พอจะอธิบายถึงความน่าทึ่งนี้ของเย่หยวน
ได้เห็นเหล่าคนเบื้องบนหน้าถอดสีเช่นนั้นพวกหวังหลินก็ต้องทรุดลงทันที
ตอนนี้มันไม่มีใครปฏิเสธได้แล้วว่าแผ่นหยกของเย่หยวนนั้นมันล้ำค่านัก
แม้แต่พวกหวังหลินเองก็ไม่กล้าปฏิเสธ!
ช่างน่าคับแค้นใจ!
ซ่งชิงหยางนั้นวางแผ่นหยกลงก่อนจะค่อยๆ ปรับลมหายใจตัวเอง “เย่หยวน แผ่นหยกทั้งหลายนี้มันทรงคุณค่าจนเกินไป! เอาเช่นนี้ไหม? นิกายจะไม่ใช้ระบบแต้มความดีใดๆ กับเจ้าอีกแล้ววันหน้าหากเจ้าอยากได้อะไรก็บอกนิกายมาได้เลย! ไม่ว่าจะทรัพยากรใดนิกายก็จะจัดหามาให้อย่างไม่สิ้นสุด!”
เมื่อได้ยินคำนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้าง!
ป…ปานนั้น?
รางวัลนี้มันยิ่งใหญ่จนเกินไป!
ระบบแต้มความดีนั้นคืออะไร?
มันคือระบบที่ทุกนิกายต่างใช้เพื่อควบคุมทรัพยากร!
ภายในนิกายนั้นมันย่อมจะต้องใช้แต้มความดีนี้แทนเงินตรา!
เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเจ้านิกายผู้อาวุโสหรือแม้แต่ท่านทั้งหลายในหอสุดแสงหรือแม้แต่เจ้าโลกเองก็ยังไม่อาจวางตัวเหนือระบบนี้ไปได้!
เจ้านิกายนั้นต้องใช้แต้มความดีแลกเวลาต้องการอะไรด้วยหรือ?
แน่นอน!
หากเจ้านิกายนั้นต้องการอะไรจากนิกายเป็นของตัวเองแล้วเขาก็ต้องเอาแต้มความดีของตนออกมาแลก!
แต่คำพูดของซ่งชิงหยางนั้นกลับบอกว่าจากวันนี้ไปเย่หยวนนั้นจะไม่ต้องอยู่ในระบบแต้มความดีนี้อีก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...