จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2859

สรุปบท ตอนที่ 2859 ยากที่สุดในประวัติศาสตร์!: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 2859 ยากที่สุดในประวัติศาสตร์! จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2859 ยากที่สุดในประวัติศาสตร์! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2859 ยากที่สุดในประวัติศาสตร์!
“ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือ? นี่มันแต้มความดีไม่จำกัดเชียวนะ!”

“หากมีทรัพยากรไม่จำกัดแล้วความเร็วการบ่มเพาะมันก็ย่อมจะรวดเร็วขึ้นมากล้น อีกทั้งยังสามารถเอาสมบัติทั้งหลายมาใช้ได้ตามใจชอบ แต่เขา…กลับไม่อยากได้มัน?”

“บริจาคสมบัติมากมายปานนี้มันก็แค่จะชดใช้แต้มความดีที่ติดค้างห้องสมุดคัมภีร์ไว้? น่าเสียดายแท้! แต่ว่าพวกหวังหลินนั้นก็คงโดนตบจนหน้าชาไปแล้ว!”

พูดอีกก็ถูกอีก

เพราะตอนนี้พวกหวังหลินนั้นแทบอยากจะมุดดินหนีไปให้มันพ้นๆ

ไหนบอกว่าห้าหมื่นแต้มความดีนั้นมันเยอะมาก?

‘ข้าหาได้ห้าแสน ห้าล้าน ห้าสิบห้าร้อยล้านก็ยังได้ แต่ข้าไม่เอา!’

‘ข้าแค่จะคืนให้เจ้าห้าหมื่นตามตกลง!’

‘แล้วเป็นอย่างไรเล่า? รู้สึกหน้าชาขึ้นมาหรือไม่?’

ซ่งชิงหยางนั้นได้แต่อ้าปากค้างเพราะอาจารย์ลุงของเขานี้จะอวดเบ่งได้เก่งเกินไปแล้ว!

แต่ว่าเขานั้นก็ส่ายหัวออกมาในที่สุด “ไม่ได้ หากทำเช่นนั้นนิกายมันคงติดค้างเจ้ามากเกินไป! สมบัตินี้มันล้ำค่าเกินไป!”

หากมันเป็นศิษย์ทั่วๆ ไปนั้นยังพอว่า

แต่เย่หยวนคือใคร? เขานั้นคืออาจารย์ลุง!

ต่อให้จะเอาให้ซ่งชิงหยางก็ไม่กล้ารับมันไว้!

เย่หยวนย่อมเข้าใจความคิดของซ่งชิงหยางจึงยิ้มตอบกลับไป “หากท่านเจ้านิกายคิดว่ามันมากเกินไป ข้าก็มีข้อเสนอหนึ่งให้ ท่านเจ้านิกายจะช่วยรับฟังได้หรือไม่?”

ซ่งชิงหยางตอบกลับทันที “ว่ามาเถอะ!”

เย่หยวนกล่าวขึ้นต่อ “ตอนนี้ศัตรูร้ายมันมาระรานถึงหน้าบ้านพวกเรา หากพวกเรายังเอาแต่เก็บตัวเห็นถึงแค่ประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้าแล้วมันก็เท่ากับการฆ่าตัวตายโดยแท้ ในเมื่อนิกายยาสุดล้ำเรานั้นคือผู้ปกครองด้านการโอสถเราก็ต้องทำตัวให้เหมือนเจ้าคนนายคนหน่อย ข้าว่าทรัพยากรบางอย่างของนิกายเรานั้นมันสามารถเปิดให้คนทวีปสวรรค์แรกเข้ามาใช้ได้! อย่างเช่นห้องสมุดคัมภีร์นี้หรือลานฝึกหลายๆ ลานของเราที่มักว่างอยู่เสมอ”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมามันก็ย่อมจะเกิดเสียงฮือฮาขึ้นตาม

เพราะนี่มันคือเรื่องใหญ่!

สิ่งที่นิกายมีเหนือล้ำกว่าคนอื่นนั้นมันก็คือความรู้และทรัพยากรนี้

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นนิกายใดพวกเขาก็ล้วนปกปิดไม่เปิดเผยวิชาต่อกัน

เย่หยวนนั้นเข้าห้องสมุดคัมภีร์ไปได้ง่ายๆ แต่ก็เพราะว่าเขานั้นมีสถานะที่สูงพอ

สำหรับศิษย์ทั่วๆ ไปแล้วนั้นแค่การเข้าห้องสมุดคัมภีร์ไปแค่วันเดียวมันก็ถือว่าเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยเกินตัวแล้ว ไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย

ตอนนี้เย่หยวนนั้นกลับเสนอออกมาว่าจะให้เปิดห้องสมุดคัมภีร์ให้คนนอกในทวีปสวรรค์แรกได้เข้าใช้ มันจะบ้าเกินไปแล้ว!

ศิษย์ทั้งหลายนั้นหันมามองหน้าเย่หยวนราวกับเป็นคนโง่ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?

มันใช่หน้าที่เจ้าหรือที่จะมาบอกว่านิกายต้องทำอะไรอย่างไร?

วินาทีเดียวกันนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งชี้หน้าด่าว่าเย่หยวนขึ้น “โอหังนัก! เย่หยวน เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน? นิกายเรามีวิธีการอย่างไรนั้นมันใช่หน้าที่เจ้าหรือที่จะมาบอก? ทรัพยากรทั้งหลายนั้นมันคือรากฐานของนิกายยาสุดล้ำ เปิดมันให้คนทวีปสวรรค์แรกเข้าดูมันย่อมเท่ากับทำลายรากฐานของนิกาย! เจ้ามีแผนร้ายต่อนิกายแล้ว!”

คนผู้นี้ย่อมจะมิใช่ใครอื่นนอกจากฉินชาน!

มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นออกโรงเองแล้ว

แต่ว่าเย่หยวนย่อมจะไม่รู้จักอีกฝ่ายและต้องถามกลับไปด้วยใบหน้ามึนงง “เจ้าบ่มเพาะจนสมองเน่าไปแล้ว? หากข้าคิดทำลายรากฐานนิกายข้าจะเอาแผ่นหยกพวกนี้ออกมาให้เพื่ออะไร?”

ฉินชานนั้นหน้าดำตอบกลับมาทันที “ไอ้เด็กโอหัง! ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโสพูดจาสามหาว คนอย่างเจ้ามันต้องโดนลงโทษ!”

ในตอนนั้นเองที่มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์คนหนึ่งก็ได้กล่าวขึ้นมาเสริม “เจ้านิกาย ไอ้เด็กคนนี้มันโอหัง! ไม่สนใจไว้หน้าผู้เฒ่าผู้แก่ สมควรถูกสังหาร!”

เขานั้นคือเจียงเหยียนเตาหนึ่งในกระดูกสันหลังของฝ่ายอนุรักษ์

คำพูดของเย่หยวนนั้นย่อมจะทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก

และมิใช่แค่เขาเท่านั้นคำพูดของเย่หยวนมันได้ทำให้ฝ่ายอนุรักษ์แทบทุกคนไม่พอใจตามๆ กัน

ตอนนี้เหล่ามหาจักรพรรดิทั้งหลายนั้นจึงเริ่มด่าว่าเย่หยวนออกมาอย่างไม่ขาดปาก

ตอนนี้คนที่เหลืออยู่ในนิกายยาสุดล้ำส่วนมากมันจะเป็นคนจากฝ่ายอนุรักษ์

เพราะฉะนั้นคำพูดเดียวของเย่หยวนนี้มันจึงทำให้เกิดการด่าว่าอย่างไม่มีใครขึ้นมาห้ามได้!

ออกมาจากปากพวกเขานั้นเย่หยวนกลายเป็นคนร้ายหมายทำลายบ้านเมืองคิดทำลายขายนิกายให้คนภายนอกและเรียกร้องให้ใช้โทษประหารเท่านั้น

คนทั้งหลายนั้นต่างมองว่าเย่หยวนคงจบสิ้นลงตรงนี้แล้ว!

กลายเป็นเป้าหมายของคนมากขนาดนี้ต่อให้จะเป็นจั่วเฉินเองก็คงปกป้องไม่ได้แล้ว!

เจิ้งเฉียนกล่าวขึ้นมาขัดเมื่อได้ยิน “หึๆ พูดจาอวดดีเสียจริงๆ! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้กล้าดูถูกโอสถสวรรค์ของนิกาย? อย่าได้ลืมว่าเจ้านั้นแค่ระดับห้า! บรรลุระดับลึกล้ำแล้วทำไม? เจ้าหลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิระดับลึกล้ำได้หรือ? น่าหัวเราะนัก!”

หวังหลินกล่าวขึ้นมาตาม “หึๆ ในนิกายยาสุดล้ำนี้มันไม่ได้มีแค่เจ้าที่บรรลุระดับลึกล้ำมาได้นะ! ยอดฝีมือระดับลึกล้ำนั้นมันมีอยู่มากมาย!”

เย่หยวนหันมามองหน้าหวังหลินก่อนจะยิ้มถามขึ้น “ศิษย์พี่หวัง หน้าท่านหายชาหรือยัง?”

หวังหลินที่ได้ยินนั้นต้องกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าแดงก่ำทันที

เขานั้นเสียท่าจริงๆ!

คิดเล่นงานเย่หยวนกี่ครั้งสุดท้ายก็ถูกตบหน้ากลับมาทุกครั้ง!

น่าอับอายนัก!

“พวกเจ้าพูดอะไรก็พูดไปเถอะ แต่คำที่ออกมาแล้วเจ้าต้องรับผิดชอบมันด้วยเล่า!” เย่หยวนยิ้มเย็นเยือกตอบกลับไป

คำพูดของเขานี้มันช่างโอหัง เป็นการข่มขู่โดยแท้!

เข้านิกายมาสิบปีนี้เย่หยวนทำเรื่องใหญ่โตไปแล้วกี่ครั้ง?

ตั้งแต่วันแรกที่มาถึงนั้นเย่หยวนก็ได้ทำให้นิกายต้องสั่นคลอนและเรื่องใหม่แต่ละครั้งนั้นมันก็ยิ่งใหญ่กว่าครั้งก่อนๆ ไปอย่างสิ้นเชิง

จนถึงวันนี้นิกายยาสุดล้ำนั้นเหมือนกำลังหมุนรอบตัวเย่หยวนก็ไม่ปาน

ขยะผู้บ่มเพาะนอกรีตคนนี้มันมีดีอะไรกันแน่?

“มันเอาสมุนไพรสวรรค์ใดไปบ้าง?” ฉินชานถามขึ้น

“ชาลึกล้ำเข็มกระเรียน ฝนศักดิ์สิทธิ์ห้าทิศ…” หวังหลินค่อยๆ รายงานชื่อของสมุนไพรสวรรค์ที่เย่หยวนเอากลับไปด้วยท่าทางเย้ยหยัน

ฉินชานนั้นอดเบิกตากว้างขึ้นไม่ได้ “โอสถวงจรอนันต์?!”

หวังหลินยิ้มตอบกลับอาจารย์ไป “ใช่แล้ว! ไอ้เด็กคนนี้มันคงไม่รู้จักฟ้าดิน! เพิ่งบรรลุระดับลึกล้ำมาได้สิบปีมันก็คิดว่าจะหลอมโอสถวงจรอนันต์ได้แล้ว นี่มันคือโอสถสวรรค์ที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์! ฮ่าๆๆ…หยางชิงมันคงได้ตายห่าเพราะความโอหังของเย่หยวนมันแล้ว!”

ฉินชานนั้นเองก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ไอ้เด็กนี่ มัน…โอสถวงจรอนันต์ ต่อให้จะเป็นข้า ข้าก็คงพอหลอมได้แค่ถึงระดับแท้เท่านั้น! มันคิดว่ามันเป็นใครถึงกล้าเลือกหลอมโอสถสวรรค์นี้?”

………………………………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ