ศัตรูร้ายได้เพิ่มขึ้นมาคนแล้ว!
“เฉียวหยาง เจ้ามากับเขาด้วยหรือนี่!” เฮ่อหมิงนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก
“ทำไมเล่า? เจ้าเข้ามาได้หรือว่าข้าจะเข้ามาไม่ได้?” เฉียวหยางกล่าวขึ้นมาถาม
“ฮ่าๆ แน่นอนว่าเจ้าเข้ามาได้แต่ด้วยนิสัยของเจ้านั้นข้าก็คิดไปเสียว่าเจ้าจะหนีไปเส้นทางอื่น” เฮ่อหมิงหัวเราะตอบกลับไป
“เฮอะ! เส้นทางนี้มันจะต้องเป็นของข้าแน่นอน!” เฉียวหยางนั้นยืดอกกล่าวขึ้น
เขานั้นมั่นใจในฝีมือของตนเอง
แต่ว่าเมื่อสายตาของเขามันเหลือบเห็นเย่หยวนเข้าเขาก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้นด้วยจิตสังหารที่รุนแรง
ตอนนี้เส้นทางมันยังไม่เปิดพวกเขาจึงยังไม่อาจจะลงมือต่อกันได้
ไม่เช่นนั้นเขาคงสังหารเย่หยวนลงไปแล้ว
ได้เห็นสายตานั้นของเฉียวหยางมันก็ย่อมจะทำให้ยอดฝีมือคนอื่นๆ ต้องหันมามองที่เย่หยวนเป็นตาเดียว
หรือว่าเฉียวหยางนั้นจะเข้าเส้นทางที่หนึ่งมาเพื่อแค่ตามล่าจักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนนี้?
ไม่น่ามั้ง?
แต่แม้จะถูกสายตาของคนทั้งหลายนั้นจ้องมอง มันย่อมจะไม่ทำให้เย่หยวนคิดสนใจใดๆ
“เขามีความแค้นกับเจ้า?” เฮ่อหมิงถามขึ้นมา
เฉียวหยางตอบกลับไป “หากพวกเจ้าได้ยินว่ามันพูดอะไรเจ้าก็จะมีความแค้นกับมันเหมือนกัน!”
คำพูดนี้มันย่อมจะดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือหลายคน
เฮ่อหมิงจึงเลิกคิ้วขึ้นถาม “หือ? มันกล่าวว่าอะไรเล่า?”
เฉียวหยางนั้นค่อยๆ เล่าย้อนกลับไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจนทำให้คนทั้งหลายหันมามองเย่หยวนด้วยความรุ่มร้อนสุดใจ
มีใครในนี้บ้างที่ไม่เก่งกาจล้นฟ้า?
พวกเขาคนใดบ้างที่จะยอมให้คนมาเย้ยหยามหน้าได้?
พวกเขานั้นกล้าที่จะพูดว่าตำแหน่งของกลุ่มนี้เป็นของตัวเองทั้งสิ้น!
แต่มันไม่มีใครที่จะอวดอ้างตัวได้ถึงขั้นบอกว่าสิบตำแหน่งของเมืองนั้นจะเป็นของเขาแค่คนเดียว!
คำพูดเช่นนั้นมันโอหังและย่อมจะทำให้เกิดความไม่พอใจขึ้นรอบทิศ!
เหล่ายอดฝีมือสวรรค์เลือกทั้งหลายนั้นสุดแสนเก่งกาจ เก่งกาจจนทำให้ประชาชนคนทั้งหลายต้องอิจฉา
อย่าว่าแต่จักรพรรดิเซียน แม้แต่จักรพรรดิเที่ยงเองก็ยังไม่กล้าจะพูดเช่นนั้นออกมา!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเส้นทางหมายเลขหนึ่งนี้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นมันไม่ได้ด้อยไปกว่าจักรพรรดิเที่ยงทั่วๆ ไปเลย!
หากถูกยอดฝีมือมากมายเช่นนั้นไล่สังหารแล้ว ใครจะทนรับได้?
“ช่างเป็นคำพูดที่หลงตัวเองเสียจริง! เฮอะๆ ตอนนี้เส้นทางมันก็ใกล้จะเปิดเต็มที ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าน้องชายคนนี้จะเก่งกาจได้แค่ไหน! จริงด้วย! เฉียเจินดูท่าวันนี้เจ้าคงจะเอาชนะไปไม่ได้แล้วมั้ง!” เฮ่อหมิงพูดยุขึ้นมา
เฉียเจินนั้นแข็งแกร่งกว่าใครๆ ในที่นี้
เพราะฉะนั้นมันจึงไม่แปลกหากเขานั้นจะได้ตำแหน่งไป
แน่นอนว่าเรื่องนั้นมันก็แค่พูดถึงความเป็นไปได้
เพราะในยอดฝีมือทั้งหลายนั้นมันมีคนที่ถนัดวิชามากมายแตกต่างกันไป มีใครกล้าพูดบ้างว่าจะไม่เจอยอดฝีมือที่ตัวเองแพ้ทาง?
หากเป็นตัวต่อตัวนั้นมันยังพอว่า
เฉียเจินนั้นไม่คิดแม้แต่จะหันไปมองเย่หยวน “แค่คนโง่ เจ้าจะลดตัวไปเล่นกับมันเพื่อ?”
“ฮ่าๆๆ ก็จริงของเจ้า! คนโง่ เจ้าจะไม่เห่าอะไรตอบมาหน่อยหรือ?” เฮ่อหมิงนั้นหันไปหัวเราะเย้ยหยันเย่หยวน
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและหลับตาพักต่อไป
เขานั้นไม่ได้ว่างมากถึงขนาดที่จะเอาเวลาบ่มเพาะอันมีค่าไปคุยต่อปากต่อคำกับศัตรูอย่างไร้ประโยชน์ เขานั้นสามารถใช้เวลานี้ทบทวนและฝึกฝนเต๋าโอสถเต๋าค่ายกลไปได้มากมาย เหตุใดต้องไปเสียเวลาด้วย?
แต่ว่าการเมินเฉยของเขานั้นมันกลับทำให้คนทั้งหลายมองเห็นเป็นความหวาดกลัว
“ฮ่าๆ ไอ้เด็กนี่มันคงกลัวจนลืมภาษาแล้ว? ไม่พูดอะไรเลย!”
“ขอร้องเถอะ! ยอดฝีมือกว่ายี่สิบคนยืนล้อมรอบด้านเช่นนี้หากเป็นเจ้าแล้วเจ้าจะกล้าพูดเถียง? หากพูดโม้ด้านนอกมันยังพอว่าแต่เข้ามาในเส้นทางแล้วมันย่อมมีแต่ต้องก้มหัว!”
“ก็จริง ถูกยอดฝีมือมากมายหมายหัวเช่นนี้มันย่อมจะมีแต่ตายกับตาย! ไม่นานข้าคงได้เห็นคนร้องไห้แน่แล้ว ฮ่าๆๆ!”
…
มิติแห่งนี้มันยิ่งใหญ่มากจนสามารถจุคนแปดหมื่นไว้ได้อย่างไม่เบียดเสียดใดๆ โดยพวกเขาต่างถูกล้อมไว้ด้วยม่านแสง
ก่อนที่จะเปิดเส้นทางนั้นพวกเขาจะไม่อาจขยับตัวผ่านม่านแสงนี้ไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะมีแต่ต้องตาย
ตอนนี้มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์สองคนแห่งเมืองข่ายยักษ์ เฉียเจียนและซู่มู่นั้นกำลังมองดูเส้นทางที่หนึ่งด้วยความสนใจ
เพราะว่าที่แห่งนี้มันคือแหล่งรวมดาวอย่างแท้จริง
“เฉียเจินนั้นคงได้ที่หนึ่งแน่นอนแล้ว ไอ้เด็กคนนี้มันไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้าเลย!” ซู่มู่ยิ้มกล่าวขึ้น
เฉียเจินนั้นเป็นทายาทของเฉียเจียน มีฝีมือเก่งกาจกว่าจักรพรรดิเซียนคนใดๆ
เขานั้นคือความภาคภูมิใจของเฉียเจียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...