เจ้าบ้านี่มันเร็วมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงได้ปากดีเช่นนั้น!
ดูท่าแล้วคำโม้ของมันจะไม่ได้กล่าวขึ้นลอยๆ
เพียงแค่ว่าพวกเขาไม่เข้าใจ ทำไมมาถึงก่อนแล้วไม่เข้าไปให้มันสิ้นเรื่องจะยังรออะไรอยู่?
คนที่ได้เข้าประตูไปคนแรกนั้นมันคือคนที่จะได้รับการยกย่องอย่างมาก!
แต่ว่าเฉียเจินเองก็ต้องถอนหายใจยาวออกมา
เกือบพลาดเพราะเรื่องง่ายๆ ไปแล้ว!
“รอจนเมื่อย? ฮ่าๆ ไอ้หนู เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?” เฉียวหยางนั้นหัวเราะกล่าวถามขึ้น
เย่หยวนยิ้มเย็นเยือกตอบกลับไป “ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่จะบอกพวกเจ้าว่านอกจากข้าแล้ว ห้ามใครผ่านเส้นทางนี้ไปทั้งสิ้น”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนกว่าร้อยที่มาใกล้ถึงประตูมันก็ต้องหัวเราะขึ้นมา
เจ้ามาเล่นตลกหรือ?
เฉียวหยางนั้นหัวเราะลั่นขึ้น “เฉียชิง สมองเจ้ามันพังไปแล้วหรือ? ในศึกคัดเลือกร้อยบุตรนี้มันไม่เคยมีใครที่ผ่านเส้นทางไปได้เพียงแค่คนเดียวมาก่อน! เจ้าจะบอกว่าตัวเจ้าคนเดียวนี้จะหยุดพวกเราทั้งแปดหมื่นไว้หรือ?”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ข้าไม่ได้พูดเช่นนั้น!”
แต่ก่อนที่คนทั้งหลายจะได้หัวเราะเย้ยหยันขึ้นมาเย่หยวนก็กล่าวขึ้นเสริม “ที่ข้าจะบอกคือ…ข้าจะสังหารจนกว่าจะไม่มีใครกล้าเข้าไป!”
หยุด?
เรื่องเช่นนั้นไม่จำเป็น!
ข้านั้นมาเพื่อสังหารเท่านั้น
คนทั้งหลายต้องผงะไปอีกครั้ง
เจ้านี่มันบ้า! กล่าวโม้อะไรให้มันน่าเชื่อถือหน่อยไม่ได้หรืออย่างไร?
“ฮ่าๆๆ…ข้ากลัวนัก! ไอ้หนู มาฆ่าข้าทีเถอะ!”
“ใช่ๆ พวกเราเหล่าจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวนั้นอ่อนแอเกินไป ข้าขอร้องเจ้าล่ะ มาฆ่าพวกเราได้เลย!”
“มาเลย ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะทำอย่างไรให้เราไม่กล้าเข้าไป”
…
เย่หยวนนั้นกลายเป็นดั่งตัวตลก!
คำพูดของเขานั้นมันน่าขันจนถึงที่สุด
ในห้วงมิติเบื้องบนนั้นซู่มู่และเฉียเจียนเองก็ต้องเบิกตามองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อเช่นกัน
พวกเขานั้นไม่เคยจะเห็นเด็กหนุ่มคนใดโอหังได้ปานนี้
แม้ว่าเย่หยวนนั้นจะมีกฎแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำไปมาก แต่มันพอจะหยุดคนแปดหมื่นได้?
ไหนจะยังเรื่องที่ว่าความเร็วนั้นไม่ใช่กำลังอีก!
ไม่ว่าจะอย่างไรเสียเป้าหมายของทุกคนในที่นี้ต่างก็เป็นการผ่านประตูเส้นทางไป
ต่อให้เจ้าจะเร็วแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางหยุดคนนับหมื่นๆ ได้แน่
หากพวกเขาบุกเข้ามาพร้อมๆ กันแล้วเจ้าต้องมีกี่มือถึงจะหยุดพวกเขาได้หมด?
พูดไปเช่นนั้นมันก็ไม่ได้ต่างจากกำลังเล่นตลก
ตูม!
ท่ามกลางเสียงหัวเราะนั้นมันกลับเกิดเสียงระเบิดขึ้นมา หมัดของเย่หยวนถูกต่อยออกจนทำให้คนเบื้องหน้าเขานั้นตัวสลายหายไป!
เย่หยวนกล่าวขึ้น “ในเมื่อเจ้าขอข้าก็ต้องสงเคราะห์ให้แล้ว!”
สีหน้าของเฉียเจินนั้นซีดขาวลงทันที
หมัดนี้มันรุนแรงมาก!
คนที่กล่าวว่า ‘ข้าขอร้องเจ้าล่ะ มาฆ่าพวกเราสิ’ นั้นเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวแต่ว่าเขานั้นกลับไม่มีเวลาแม้แต่จะตั้งรับหมัดนี้
แม้ว่ามันจะเป็นการลอบโจมตีทีเผลอแต่มันก็แสดงถึงพลังของเย่หยวนได้อย่างดี!
เฉียเจินนั้นขมวดคิ้วแน่น “เอาล่ะเจ้าได้พิสูจน์ฝีมือแล้ว! เจ้าเข้าประตูเส้นทางไปได้! ไปเสียเราไม่คิดจะหยุดเจ้าหรอก!”
เขานั้นสัมผัสได้ว่าเย่หยวนคนนี้คงไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตัวเขาเลย
หากต้องสู้กันจริงๆ มันคงจบไม่สวยแน่ๆ
ตอนนี้เขายังไม่อยากจะต่อสู้แบบทุ่มสุดตัว
เขานั้นย่อมจะไม่อยากต่อสู้กับเย่หยวนจนหมดสภาพไปทั้งคู่ตั้งแต่รอบแรก
แต่เฉียวหยางนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นขึ้น “เฉียเจิน เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เฉียเจินตอบกลับไป “มันไม่มีความหมายอะไร สู้กันในด่านนี้ไปมันไม่มีความหมายใด! คิดอยากสู้ก็ค่อยไปสู้กันข้างในเอาเถอะ!”
เฉียวหยางนั้นได้แต่ต้องยืนนิ่งแต่เขาก็สัมผัสได้ว่าฝีมือของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเองเลย
การโจมตีก่อนหน้านั้นเขาลองถามใจตัวเองดูว่าจะโจมตีได้รุนแรงกว่าเย่หยวนไหมและคำตอบที่ได้ก็คือไม่
แม้ว่าเจ้าเด็กนี่มันจะปากดี แต่มันก็มีฝีมือจริง
คนอื่นๆ เองก็หยุดหัวเราะลงทันทีเห็นด้วยกับคำพูดของเฉียเจินอย่างมาก
แต่เย่หยวนกลับยิ้มตอบไป “พวกเจ้าเข้าใจอะไรผิดหรือไม่? ข้าไม่ได้มาอวดฝีมือเพื่อเอาชื่อเสียงใดๆ ข้านั้นแค่อยากสังหารคนเล่นเท่านั้น! พวกเจ้าจะไม่มีใครไปถึงระดับต่อไปได้แน่นอน!”
เฉียเจินนั้นหรี่ตาลงกล่าวขึ้น “เฉียชิง อย่าได้ไม่ไว้หน้ากันเช่นนี้!”
เขาเองก็คับแค้นใจเช่นกัน! เพราะเจ้าเด็กคนนี้มันจะอวดดีจนเกินไปแล้ว!
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรต่อเย่หยวนก็ขยับตัว!
หมัดที่สองของเย่หยวนถูกต่อยออกมาทำลายร่างของจักรพรรดิเที่ยงครึ่งก้าวอีกคนลงทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...