เขารู้ตัวทันทีว่าตนนั้นไม่อาจปัดป้องหมัดนี้ได้!
“พ่อจ๋าช่วยด้วย!” เฉียเจินร้องลั่นขึ้นมา
ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่มันได้มีเสียงหนึ่งดังลงมาจากเบื้องบน “เฉียชิง ปล่อยเฉียเจินไปเสียแล้วจะถือว่าข้าติดค้างเจ้าเรื่องหนึ่ง”
ตูม!
หมัดของเย่หยวนทำลายร่างของเฉียเจินไปจนไม่เหลือแม้แต่ฝุ่นเลือด
‘โทษที ใครนะ?’
‘ติดค้างเจ้านี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่โตมาก?’
เมื่อสังหารเฉียเจินที่เก่งกาจที่สุดลงได้แล้วคนที่เหลือก็ย่อมจะไม่มีใครเหลือพลังต่อต้านใดๆ อีก
ฝีมือของเขานี้เรียกได้ว่าไร้เทียมทานในระดับเดียวกันขึ้นมาทันที
เพราะแม้ว่าเส้นทางนี้มันจะมีคนอยู่มากมายแค่ไหนแต่ตอนนี้จำนวนมันไม่อาจจะชิงเอาความได้เปรียบจากเย่หยวนได้แล้ว
เขานั้นเหมือนเสือที่หลุดมาในฝูงแกะ ผ่านไปที่ไหนมันก็มีศพตายอยู่ที่นั่น
แต่เผ่าเลือดนั้นมันไม่มีศพ ร่างของพวกเขานั้นถูกทำลายลงอย่างไร้ชิ้นดี!
เผ่าเลือดนั้นไม่อาจจะเหลือศพไว้ได้!
“ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ! ฮ่าๆ จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งกลับกล้าทำเหมือนข้านี้ไม่มีตัวตน!” เสียงร้องลั่นนั้นดังขึ้นมาจากด้านบนอย่างคับแค้นใจ
มหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นั้นกลับถูกเมินอย่างไม่คิดแม้แต่จะหันมอง!
เจ้าเด็กนามว่าเฉียชิงคนนี้มันไม่คิดเห็นเขาอยู่ในสายตาเลย!
ที่ด้านข้างตัวเขานั้นซู่มู่เองก็ได้แต่ต้องกล่าวขึ้นมาห้ามด้วยความสงสาร “ใจเย็นๆ มันก็แค่เด็กคนหนึ่ง ตายไปก็ตายไปเถอะ”
เฉียเจินนั้นเก่งกาจมากพรสวรรค์จริง
แต่ไม่ว่าจะมากพรสวรรค์แค่ไหนมันก็แค่จักรพรรดิเซียน
ไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องร้องลั่นขึ้นมาอย่างคับแค้นใจเช่นนี้
เฉียเจียนนั้นมีทายาทอยู่มากมาย พวกเขาย่อมจะมีคนที่เก่งกาจเกิดขึ้นมาได้ในอีกไม่ช้า
จะหาเรื่องไปเพื่อ?
อย่าได้คิดถึงมันเลย!
เพราะตอนนี้ผู้ดูแลจากเบื้องบนยังมองดูการแข่งขันนี้อยู่!
การแข่งขันหาร้อยบุตรนั้นมันเป็นงานสำคัญของวิหารโลหิตเทวา แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะส่งคนมาดูแลการคัดเลือกของแต่ละเมือง
เพื่อที่จะทำให้การแข่งขันนั้นมันเกิดขึ้นได้อย่างยุติธรรม
แม้ว่าเขานั้นจะคับแค้นใจแค่ไหนแต่เฉียเจียนก็ไม่กล้าลงมือใดๆ ต่อเย่หยวน!
หากเย่หยวนนั้นมีฝีมือแค่พอใช้มันยังพอว่าแต่นี่เขากลับเก่งกาจกว่าใคร คนเช่นนี้ย่อมจะเข้าเป็นร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนได้อย่างแน่นอน!
ยอดอัจฉริยะเช่นนี้มีหรือที่เฉียเจียนจะมีสิทธิ์ไปแตะต้องได้?
เย่หยวนเองนั้นก็เข้าใจในจุดนี้ดีถึงได้กล้าล้างบางสังหารอยู่ตอนนี้
สภาพของเย่หยวนในตอนนี้มันเหมือนคนที่บ้าเลือด!
จักรพรรดิเซียนเกือบแปดหมื่นนั้นต่างวิ่งหนีกันในห้วงมิตินี้อย่างที่ไม่มีใครกล้าจะหันหลังกลับมาปะทะเย่หยวนใดๆ
เพราะพวกเขานั้นเข้าใจแล้วว่าเย่หยวนนั้นอยู่คนละชั้นกับพวกตนอย่างสิ้นเชิง
สู้ตรงๆ นั้นมันเท่ากับตายเพียงอย่างเดียว
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดจะปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ
การเคลื่อนไหวของเขานั้นมันรวดเร็วอย่างมากที่ใดที่ผ่านไปนั้นมันจะมีแต่ฝุ่นเลือดของเผ่าเลือดคลุ้งเต็มไปหมด
จำนวนคนในเส้นทางหมายเลขหนึ่งนั้นมันลดลงอย่างทันตาเห็น
ในเส้นทางนั้นมันไม่มีทางถอยกลับมีแต่ทางออกเท่านั้น
เมื่อตอนที่เย่หยวนไล่ล่าคนทั้งหลายไปมันก็ย่อมจะมีคนที่คิดหนีผ่านประตูเส้นทางออกไปด้านนอกด้วย
แต่สิ่งที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขานั้นมันคือพลังหมัดที่ต่อยออกมาจากเส้นขอบฟ้า
ภาพแปลกประหลาดนี้มันเกิดขึ้นในเส้นทางหมายเลขหนึ่งอย่างต่อเนื่องยาวนาน
เย่หยวนคนเดียวนั้นไล่ล่าจักรพรรดิเซียนแปดหมื่นและสังหารพวกเขาลงจนทำให้คนดูที่กำลังจับตามองการแข่งอยู่นั้นแทบนั่งไม่ติดเบาะ
“เจ้าบ้านี่มันมาจากไหนกัน? นี่…มันจะไม่เก่งเกินไปหรือ?”
“ข้าคงเห็นภาพหลอนอยู่แน่ๆ! เส้นทางหมายเลขหนึ่งนั้นมีครั้งใดบ้างที่มันมิใช่การต่อสู้อย่างรุนแรงจนสวรรค์เปลี่ยนสี? แต่ว่าวันนี้มันกลับเป็นคนผู้เดียวไล่ล่าคนแปดหมื่นไปหรือ?”
“ม้ามืด! ม้ามืดโดยแท้! เจ้าบ้านี่มีฝีมือพอที่จะติดห้าอันดับแรกของร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!”
“จะบ้าเกินไปแล้ว! เก่งกาจเกินไปแล้ว! เมืองข่ายยักษ์เราคงได้ทำให้วิหารโลหิตเทวาสั่นสะท้านแน่!”
…
ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบจะลืมหายใจ
เดิมทีพวกเขานั้นคิดหวังจะดูการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดสาดแต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกเขาได้เห็นนั้นกลับกลายเป็นการไล่ล่าสังหารล้าง!
เวลานั้นค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ เย่หยวนก็ยิ่งกลายเป็นดั่งจอมมารในสายตาคนทำให้คนในเส้นทางหมายเลขหนึ่งนั้นกลัวเขาจนฉี่ราด
…
ในมิติชั้นที่สองนั้นมันมีคนมากมายที่ผ่านประตูเส้นทางออกมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...