ปัง!
สีหน้าของผู้เข้าแข่งขันนั้นต่างซีดขาวลงอย่างมาก สายตาที่พวกเขาใช้มองดูเย่หยวนนั้นมันเหมือนกับว่าเย่หยวนเป็นยมทูตแห่งความหายนะก็ไม่ปาน
บนสังเวียนนั้นศัตรูของเขาล้วนต้องตายลงก่อนจะได้ยอมแพ้
เย่หยวนนั้นได้กลายเป็นฝันร้ายของว่าที่ร้อยบุตรจักรพรรดิเซียนทั้งหลายไปแล้ว
ใครก็ตามที่ไปเจอเขาเข้า จะถือว่าเป็นคนที่อับโชคอย่างมหาศาล
ในสังเวียนอีกแห่งหนึ่งสองว่าที่ร้อยบุตรกำลังต่อสู้กันอยู่อย่างสุดตัว สู้กันจนไม่เหลือพลังใดๆ แทบไม่มีแรงยกแขนขึ้นมาต่อยกัน
“ข้าขอล่ะ ยอมแพ้ให้ข้าเถอะ!”
“ข้า…ต่อให้ข้าแพ้ข้าก็จะไม่ยอมแพ้ หากข้าแพ้เจ้าไปแล้วข้าก็คงต้องไปเจอเจ้าปีศาจนั่นพอดี!”
“ในเมื่อคิดเช่นนั้นก็สู้กันจนกว่าจะตายไปข้าง!”
“จนกว่าจะตายไปข้าง!”
…
อีกสังเวียนหนึ่งมันก็มีภาพของสองว่าที่ร้อยบุตรกล่าวยอมแพ้ขึ้นมาพร้อมๆ กัน
“ข้ายอมแพ้!”
“กรรมการ ข้ายอมแพ้ก่อนมัน!”
“พูดจาไร้สาระ! ข้าเป็นคนที่ยอมแพ้ก่อน!”
…
สุดท้ายคนทั้งสองก็เริ่มสู้กันอีกครั้ง
ระหว่างคนทั้งสองนี้ ใครชนะขึ้นสายบนจะต้องไปเจอกับเย่หยวน
ตอนนี้การคัดเลือกร้อยบุตรนี้เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับเย่หยวนมันได้กลายเป็นความเละเทะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
กรรมการทั้งหลายนั้นแทบอยากจะฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ
เจ้าหมอนี่มันมาก่อเรื่องชัดๆ!
ในศึกครั้งนี้ศัตรูของเย่หยวนนั้นคือเฉียซวยผู้ที่ถูกกล่าวว่าเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งของงาน
ในที่สุดยอดฝีมือทั้งสองก็จะได้เผชิญหน้ากันแล้ว
ศึกในครั้งนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมาให้ความสนใจ ไม่เว้นแม้แต่เยียหวู่กวย
เฉียซวยนั้นมีฝีมือที่แข็งแกร่ง เขาย่อมจะเก่งกาจสมชื่ออันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าตอนนี้เย่หยวนคือราชาที่ไร้บัลลังก์ ใครมาเจอเขานั้นต้องกลัวจนตัวสั่นกันสิ้น
มันมิใช่เพราะว่าเขาเก่งกาจ แต่เพราะว่าเขานั้นโหดเหี้ยมสังหารคนลงทันทีที่ได้ลงมือ
เย่หยวนมองหน้าเฉียซวยก่อนจะยิ้มขึ้นกล่าว “พวกมันว่าเจ้าคืออันดับหนึ่งของงานคัดเลือกรอบนี้ เจ้าคงไม่เหมือนพวกมันที่คิดยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้สู้หรอกใช่ไหม?”
เฉียซวยนั้นยืนนิ่งมองหน้าเย่หยวนอย่างไม่คิดตอบอะไรกลับมา
เย่หยวนได้แต่ต้องถอนหายใจยาวกล่าวขึ้นต่อ “หากเจ้าเองก็คิดจะยอมแพ้เหมือนพวกมันแล้ว งานนี้คงน่าเบื่อเกินไป!”
ฟุบ!
วินาทีเดียวกันนั้นเย่หยวนก็พุ่งเข้ามาหยุดตรงหน้าเฉียซวยอย่างไม่มีใครมองทัน
ความเร็วของเขานี้มันเหนือกว่าสายตาของใครๆ!
เย่หยวนนั้นรู้ว่าเฉียซวยเก่งกาจ เขาย่อมจะไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ขยับตัวก่อน
“ข้ายอมแพ้!”
แต่ว่าวินาทีเดียวกับที่เย่หยวนพุ่งตัวมาถึงนั้นเฉียซวยก็ได้ร้องประกาศออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เขานั้นยอมแพ้ออกมาอย่างไม่คิดละอาย!
หมัดของเย่หยวนมันจึงได้แต่ต้องง้างค้างไว้กลางอากาศ
เพราะเมื่อยอมแพ้แล้ว เขาก็ย่อมไม่อาจจะโจมตีได้อีก
เฮ!
เสียงร้องลั่นดังขึ้นมาจากรอบด้าน!
“เฉียซวยนั้นกลับยอมแพ้ได้!”
“เก่งโคตร! เขาเป็นคนแรกเลยที่ยอมแพ้ต่อหน้าเฉียชิงได้!”
“อ่า สมชื่อว่าเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ! ฝีมือของเขานั้นแข็งแกร่งถึงขั้นที่สามารถยอมแพ้ได้ทีเดียว!”
…
สิ่งที่ทำให้คนทั้งหลายเฮขึ้นมานั้นมิใช่เรื่องที่เฉียซวยยอมแพ้ แต่เป็นเรื่องที่เฉียซวยสามารถกล่าวยอมแพ้ออกมาได้!
เยียหวู่กวยได้แต่ต้องกุมขมับ!
มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
เผ่าเลือดของข้านั้นมีใครบ้างที่เคยกลัวความตาย?
วันนี้คนผู้หนึ่งกลับถูกยกย่องเพราะว่าสามารถยอมแพ้ได้?
นี่พวกเจ้าจะไม่มีความกล้ากันหน่อยเลยหรือ?
เจ้าเฉียซวยก็อีกคน จะไม่คิดต่อยตีกันสักสองสามกระบวนท่าเลยหรือ?
มันต้องยอมแพ้ง่ายๆ ปานนี้?
แม้ว่าเย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนเขาเฉียซวยก็ไม่ได้อ่อนแอ!
นี่กลับไม่คิดแม้แต่จะลอง?
ความเป็นจริงแล้วฝีมือของเฉียซวยนั้นไม่เป็นรองใครจริงๆ
ก่อนที่เย่หยวนจะปรากฏขึ้นตัวมานั้น เขาคืออันดับหนึ่งในความคิดของทุกคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...