จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2988

สรุปบท ตอนที่ 2988 โศกนาฏกรรม!: จอมเทพโอสถ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2988 โศกนาฏกรรม! – จอมเทพโอสถ โดย Internet

บท ตอนที่ 2988 โศกนาฏกรรม! ของ จอมเทพโอสถ ในหมวดนิยายAction เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2988 โศกนาฏกรรม!

คุกน้ำนี้เหมือนกรงขนาดใหญ่ที่ซอยแยกเป็นส่วนๆ ออกนับพันห้อง

เมื่อมองดูแล้วมันคงสามารถรับนักโทษได้กว่าหมื่นๆ คน เรียกว่าเป็นเมืองใต้ดินก็ยังไม่ผิดนัก

ที่แห่งนี้ไม่มีแสงของตะวันให้เห็นตลอดปีตลอดชาติราวกับว่าเป็นนรกบนดิน

เย่หยวนนั้นเห็นว่าคนที่ถูกจับมาทรมานนั้นมันแทบไม่มีใครเหลือรูปร่างเดิมอีกต่อไป

และคนที่ถูกจับมานั้นมันไม่ได้มีแค่ภูตแท้แต่รวมไปถึงมนุษย์มากมายด้วย

เพียงแค่ว่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นได้แต่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างอดสูนอนกลิ้งไปมาอย่างเจ็บปวดทรมาน

“อ้ากก!?! ข้าขอร้องเถอะ ฆ่าข้าเถอะ!”

“เจ้าพวกมารนรก ต่อให้ข้าจะตายกลายเป็นผีข้าก็จะไม่ปล่อยพวกเจ้าไป!”

“เจ็บ! เจ็บเจียนตายแล้ว! ข้า…ข้าจะระเบิดแล้ว!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินเสียงกรีดร้องนั้นต้องหันไปมองและพบร่างของมนุษย์ผู้หนึ่งที่กำลังพองขึ้นเรื่อยๆ

จากนั้นมันก็ระเบิดออกทิ้งหมอกเลือดไว้ทั่วกรงขัง

คนทั้งหลายที่ได้เห็นต่างต้องปากสั่นหน้าซีดไปตามๆ กัน เพราะพวกเขาแต่ละคนนั้นผ่านศึกมานับพัน

แต่ก็ไม่เคยเห็นภาพที่น่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อน

คนทั้งหลายที่ถูกจับมานี้มันน่าอดสูเสียยิ่งกว่าสัตว์!

“นี่…นี่มันที่ไหนกัน? ทำไมทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์ถึงได้คิดทำเรื่องราวชั่วร้ายเช่นนี้?” หลงยี่อดถามขึ้นไม่ได้

“ฮ่าๆ นี่มันคืออนาคตของเผ่ามังกรเราต่างหาก! หากเราสามารถเข้าใจถึงการวิวัฒนาการสายเลือดได้แล้วเผ่ามังกรทุกคนก็จะกลายเป็นเจ้าโลกได้สิ้น! เผ่ามังกรของเรานั้นจะได้กลายเป็นยอดเผ่าที่ปกครองสวรรค์ในที่สุด! แค่คิดข้าก็ยังตื่นเต้นแล้ว! เกาะมังกรเลือดนั้นมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ สายเลือดของพวกเจ้านั้นจะได้กลายเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนของงานวิจัยใหญ่ครั้งนี้ สร้างอนาคตให้แก่เผ่ามังกรเรา!” ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นกล่าวขึ้นมาด้วยความภาคภูมิ

“ท…ทุกคนกลายเป็นเจ้าโลก?” หลงยี่สั่นสะท้านไปทั้งกายเมื่อได้ยิน

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์กล่าวขึ้นตอบ “ใช่แล้ว! เกาะมังกรเลือดนี้มันถูกสร้างขึ้นมานานถึงหนึ่งแสนปีแล้ว! แสนปีที่ผ่านมานั้นงานวิจัยของเราคืบหน้าไปอย่างมากล้น! วันที่คนทั้งหมดทั้งหลายจะได้เป็นเจ้าโลกมันอยู่ไม่ไกลแล้ว!”

แต่จู่ๆ เย่หยวนก็ชี้ไปยังกรงขังหนึ่งและถามขึ้น “เจ้าพูดถึงสภาพเช่นนั้น?”

ภายในกรงเหล็กหนานั้นมันมีร่างของครึ่งคนครึ่งสัตว์ประหลาดจ้องมองออกมายังกลุ่มคนทั้งหลายด้วยดวงตาที่แดงก่ำทำให้คนทั้งหลายต้องขนลุกตั้งทันที

แค่ดูสภาพนี้ก็พอเข้าใจได้ว่าเดิมทีแล้วเขาคงเป็นมนุษย์แต่ตอนนี้บนหลังของเขามีปีกงอกขึ้นมา หูของเขานั้นแหลมตั้งจนไม่เหมือนคน ปากของเขาเองก็มีฟันที่เล็กแหลมเข้ามาแทนที่ฟันมนุษย์ทั่วไป

มันเป็นสภาพที่ไม่น่ามองดูอย่างยิ่ง

นอกจากนั้นแขนขาทั้งสี่ของเขานั้นมันยังมีสภาพเหมือนเป็นแขนของสัตว์ไม่อาจจะเรียกว่าเป็นแขนขาคนได้อีก

แต่ว่าสิ่งที่เย่หยวนรู้สึกหลังจากได้เห็นนั้นกลับมิใช่ความน่ากลัวแต่เป็นความอัปยศอดสู!

เขานั้นมีคลื่นกำเนิดเลือดและย่อมจะสัมผัสได้ว่าในร่างของชายคนนี้มันมีเลือดของภูตแท้อย่างน้อยๆ สิบเผ่าพันธุ์ไหลเวียนอยู่

และสายเลือดที่แตกต่างกันนั้นมันก็ย่อมจะไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ทำให้ภายในร่างของเขานั้นเหมือนเป็นสนามรบไป

เขานั้นรู้สึกได้เลยว่าเจ้าของร่างคนนี้คงกำลังจมอยู่ในห้วงความทรมานอย่างถึงที่สุด

แน่นอนว่าคนผู้นี้ย่อมจะไม่เหลือสติรับรู้ความเจ็บปวดใดๆ และตอนนี้ร่างกายของเขานั้นมันมีแต่จิตสังหารแผ่ออกมาเท่านั้น

ครึ่งคนครึ่งสัตว์ประหลาดตัวนี้กลับมีพลังถึงอาณาจักรเจ้าโลก!

รอบๆ ตัวเขานั้น ‘สัตว์’ ในกรงอื่นๆ ต่างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงด้วยความหวาดกลัว

ดูแล้วเขาคงเป็นตัวอันตรายอย่างมาก

แต่เย่หยวนที่ได้เห็นนั้นก็ต้องเดือดดาลขึ้นมาด้วยจิตสังหารท่วมใจเช่นกัน

เจ้าพวกมารร้ายทั้งหลายนี้มันช่างทำเรื่องได้โหดร้ายจนเหนือจินตนาการ!

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นวางท่าภาคภูมิใจอย่างมากและกล่าวขึ้น “ใช่แล้ว! เจ้าหมอนี่มันคือจ้าวเยว่ เดิมทีแล้วมันเป็นแค่ขยะคนหนึ่งที่บ่มเพาะมาถึงมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แล้วก็ไม่อาจจะพัฒนาตัวเองได้อีก! ถือว่าเป็นโชคของมันที่เราได้ให้ชีวิตใหม่นี้ทำให้มันกลายขึ้นมาเป็นยอดฝีมือล้ำฟ้าได้!”

“โฮ่ก!”

คลื่นพลังรุนแรงนั้นปะทุขึ้นพร้อมร่างของจ้าวเยว่ที่พุ่งเข้ามาหากลุ่มคนทั้งหลาย

ต่อให้คนทั้งหลายนั้นจะเป็นยอดอัจฉริยะมาจากไหน แม้จะรู้ว่าจ้าวเยว่นั้นคงไม่มีโอกาสจะแหกกรงขังออกมาได้แต่พวกเขานั้นก็กลัวจนต้องก้าวถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัวทันที

“เอ่ง!”

หมี่เทียนเงียบลงไปอีกครั้งและเย่หยวนก็พอจะรู้สึกถึงความสับสนในหัวใจของเขาได้

ตอนนี้เย่หยวนพอที่จะคาดเดาเรื่องราวต่างๆ ได้บ้างแล้ว

แต่ในเมื่อหมี่เทียนยังไม่อยากพูดเขาก็ไม่คิดจะถามอะไรให้มากมาย

“ฮ่าๆ ดูสภาพเขานั้นเป็นได้แค่สัตว์ร้ายไร้จิตใจ ดูท่าแล้วพวกเจ้าคงไม่อาจจะควบคุมเขาได้ด้วยซ้ำ เพราะเหตุนั้นถึงต้องเอาเขามาขังไว้ในกรงมิใช่หรือ? หากเจ้าปล่อยเขาออกมาคนแรกที่เขาจะสังหารนั้นมันคงเป็นเจ้ามากกว่า!” เย่หยวนมองหน้าทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นและกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มอันเย็นเยือก

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นยิ้มตอบกลับมา “แล้ว? ตอนนี้เราเจอวิธีที่จะควบคุมมันได้แล้ว อีกไม่นานมันเชื่อฟังเราแน่! พวกเจ้าทั้งหลายนั้นก็มากพรสวรรค์ บางทีวันหน้าพวกเจ้าอาจจะได้ก้าวขึ้นไปถึงสายเลือดระดับโกลาหลในตำนานก็ได้!”

สายตาที่ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์ใช้มองหน้าคนทั้งหลายนั้นมันทำให้พวกเขาต้องขนลุกตั้ง

ไม่มีใครอยากจะเป็นอย่างจ้าวเยว่!

มีพลังของยอดเจ้าโลกแต่กลับกลายเป็นสัตว์ร้ายไร้สติมันจะยังมีค่าใดอีก?

เย่หยวนมองหน้าทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วยจิตสังหารรุนแรงอย่างไม่คิดปิดบัง

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นยิ้มกล่าวขึ้นต่อ “เย่หยวน ข้านั้นคิดว่าเจ้าเองก็คงทำได้เช่นกัน! ดูจากการทดลองก่อนๆ ของเรานั้นร่างมนุษย์มันมีความเข้ากันได้กับสายเลือดสูงมาก! อีกไม่นานเจ้าคงไม่ใช้สายตาเช่นนี้มองข้าแล้ว เจ้าจะต้องขอบคุณข้าแน่!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “อีกไม่นานเจ้าต่างหากที่จะได้ขอบคุณข้า!”

ทูตมังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นหัวเราะลั่นขึ้นมา “ไอ้หนู เจ้านี่มันนิสัยได้ใจข้าจริงๆ ข้าชอบ! หวังว่าวันหน้าเจ้าจะเก่งกาจกว่ามันได้! พาตัวพวกมันไปขัง!”

คนทั้งหลายถูกลากตัวออกมา

แต่เมื่อเย่หยวนเดินผ่านกรงของจ้าวเยว่มาอีกครั้งและเห็นสภาพอันน่าสมเพชนั้นเขาก็ต้องร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้งอย่างสุดใจ

แต่จู่ๆ สายตาของเขาและจ้าวเยว่มันก็ประสบกันและนั่นทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย

เพราะเขานั้นเห็นได้ถึงความเจ็บปวดทรมานอันน่าอดสูในสายตาที่ดุร้ายนั้น

มันเป็นสายตาที่เหมือนร้องขอความตายอยากจะหลุดพ้นจากสภาพนี้

จ้าวเยว่ผู้นี้กลับยังเหลือเศษเสี้ยวของสติปัญญาอยู่?

————————

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ