เฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยืนมั่นอยู่กลางอากาศด้วยคลื่นพลังที่ยังพุ่งทะยานรุนแรงไม่จางหายไปพร้อมๆ กับพลังชีวิต
จิตต่อสู้อันดุดันนั้นมันกลับพยุงร่างของเขาไม่ให้ร่วงตกลงมาได้
เขานั้นยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าหอสุดแสงด้วยดวงตาที่จ้องมองดูหน้าเผ่าเลือดทั้งหลายอย่างดุร้าย
เขานั้นเหมือนดั่งเป็นวัชระแห่งสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดที่เฝ้าหัวใจของสวรรค์ไว้
วินาทีนี้ทุกคนที่ได้เห็นต่างไม่มีใครกล้าบุกเข้าไป แม้แต่ตัวเฉียนั้วเองก็ตาม
ทั้งสนามรบนั้นมันตกสู่ห้วงความเงียบงันเพราะความตายของเขาคนนี้
อี้เฉียนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “จิตต่อสู้หลอมรวมเป็นหนึ่งไม่จางหายเรียกพลังแห่งยอดเต๋าลงมา หากเขายังไม่ตายแล้วเขาคงสามารถบรรลุยอดเจ้าโลกได้แน่นอน คนผู้นี้ช่างเก่งกาจมากนัก!”
แม้แต่ยอดฝีมือฝ่ายตรงข้ามอย่างอี้เฉียเองก็ยังรู้สึกเสียดายขึ้นมา
ตอนนี้แม้แต่เผ่าเลือดทั้งหลายเองก็ยังอดมองดูร่างของเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นด้วยความเคารพไม่ได้
แม้ว่าจะสิ้นใจไปแล้วแต่จิตวิญญาณของเขายังคงอยู่!
หมี่เทียน หยุนซาน โฉปู้ฉุนและยอดฝีมือคนอื่นๆ นั้นต่างได้แต่ต้องกัดฟันแน่น
“เจ้าเมืองเฟิง ลาก่อน! เราจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวังแน่!”
“เราจะทำให้สุนัขเลือดมันได้ชดใช้!”
“เจ้าเมืองเฟิง งานที่ค้างคาของท่านนั้นเราจะต้องช่วยทำให้มันสำเร็จแน่นอน!”
…
ยอดฝีมือทั้งหลายต่างหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่อาจห้าม
พวกเขานั้นส่งวิญญาณของเฟิงเสี่ยวเถียนไป ส่งไปอย่างสุดหัวใจ!
อี้เฉียหันไปกล่าวกับหมี่เทียน “สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้มันช่างมีแต่ยอดคนจริงๆ! สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้แล้วเจ้ายังคิดจะแลกชีวิตอีกหรือไม่? ตราบเท่าที่เจ้ายอมแพ้ดีๆ ข้าก็สัญญาได้ว่าจะไปขอร้องบรรพบุรุษท่านให้ไว้ชีวิตพวกเจ้าได้!”
หมี่เทียนที่ได้ยินต้องหัวเราะลั่นขึ้น “อี้เฉีย เจ้าล้อข้าเล่นแล้ว? ศพของเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นยังไม่ทันเย็นลงเลย เขานั้นแลกชีวิตย้อมแผ่นฟ้าด้วยเลือดมองดูพวกเราอยู่บนสวรรค์! เจ้าคิดว่าเป็นเช่นนี้แล้วมันจะยังมีใครกล้ายอมแพ้อีก?”
อี้เฉียเองก็ไม่ได้คิดว่าคำพูดของเขามันจะได้รับการตอบกลับที่ดีนักแต่สุดท้ายก็ยังอดกล่าวขึ้นไม่ได้
ได้ยินคำตอบของหมี่เทียนนั้นอี้เฉียจึงยิ้มตอบกลับไปและค่อยๆ ปล่อยคลื่นพลังรุนแรงออกมาเตรียมปะทะอีกครั้ง “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราก็คง…ต้องตายกันไปข้าง! พวกเจ้าฟังคำข้าสังหารสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดอย่าให้เหลือแม้แต่หมาแมวสักตัว! เฉียนั้ว เจ้าบุกเข้าห้วงมิติของหอสุดแสงไปเอาคัมภีร์สวรรค์ออกมา!”
ฟุบ!
ด้วยคำสั่งนี้สงครามที่ชะงักลงจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
วินาทีนั้นมันจึงเกิดเสียงระเบิดลั่นสวรรค์ขั้นทั่วทิศอีกคราว
เฉียนั้วมองดูร่างของเฟิงเสี่ยวเถียนและกลับไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปตรงๆ!
เพราะสภาพของเฟิงเสี่ยวเถียนในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นจิตต่อสู้หรือคลื่นพลังนั้นมันก็ยังคงสมบูรณ์พร้อมไม่มีท่าทีจะจางหายไปเลย!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่ดุร้ายนั้นมันยังคงมองมาราวกับว่าเจ้าตัวนั้นยังมีชีวิต
หากพูดกันถึงพลังแล้ว เขาเป็นฝ่ายแพ้ไปแล้ว!
เขานั้นกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะกัดฟันพูดขึ้นมา “เฟิงเสี่ยวเถียน เจ้าคิดว่าตายไปแล้วจะยังทำให้ข้ากลัวได้อีกหรือ?”
พูดจบเฉียนั้วก็พุ่งตัวยกหมัดเข้าโจมตีร่างของเฟิงเสี่ยวเถียนทันที
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นคลื่นกำเนิดอันรุนแรงก็ปะทุออกมาจากตัวของเฟิงเสี่ยวเถียนทั้งๆ ที่ไม่มีใครควบคุมมัน!
ตูม!
เสียงระเบิดดังลั่นส่งร่างของเฉียนั้วนั้นปลิวออกไปทันที
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้าง
“นี่มัน…เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกัน?”
“เฟิงเสี่ยวเถียนตายไปแล้วมิใช่หรือ? ทำไมเขายังโจมตีออกมาได้กัน? นอกจากนั้นมันยังรุนแรงปานนี้ด้วย?”
“จ…จะบ้าหรืออย่างไร! คนตายก็ยังโจมตีออกมาได้ด้วยหรือ!”
…
คนที่ได้เห็นนั้นแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตน!
เพราะคนตายนั้นกลับโจมตีเจ้าโลกระดับสูงอย่างเฉียนั้วจนปลิวได้!
นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน
นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังสัมผัสได้ว่าเฟิงเสี่ยวเถียนนั้นไม่ได้ใช้ปราณเทวะใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย
พลังที่โจมตีออกมานั้นมันเป็นพลังโดยตรงจากฟ้าดิน!
เฉียนั้วต้องร้องลั่นขึ้นมา “เฟิงเสี่ยวเถียน เจ้าจะบอกว่าต่อให้เจ้าตายไป ข้าก็ยังเอาชนะเจ้าไม่ได้หรือ? มีหรือที่เฉียนั้วคนนี้จะยังแพ้ให้แก่คนตายอีก? โจมตีมันพร้อมกัน! ข้าอยากรู้นักว่าพลังที่หลงเหลือนี้มันจะทนไปได้แค่ไหน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...