โม่ฉีเฟิงสีหน้าชะงัก “เจ้ารู้เรื่องแล้ว?”
“แน่นอนสิ เรื่องท่านแบกจี้อวี๋ไปน่ะ ตอนนี้แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงหมดแล้ว พี่ใหญ่ ท่านคงไม่ได้ชอบจี้อวี๋หรอกนะ?” โม่หลานเบ้ปากถาม
“อย่าพูดเหลวไหล” โม่ฉีเฟิงย้อน
“งั้นท่านแบกนางไปไหนล่ะ อย่าบอกว่าแบกไปบ้านเรานะ?” โม่หลานถามอย่างสงสัย
“ข้าจับนางขังคุกแล้ว นางเป็นแม่ทัพหญิงแห่งแคว้นต้าเยียน แต่กลับทำตัวไม่เหมาะสมกับฐานะต่อหน้าทุกคน ย่อมไม่อาจลดหย่อนผ่อนโทษได้” โม่ฉีเฟิงตอบ
พอเห็นท่าทางหน้าตึงเถรตรงของพี่ใหญ่แล้ว โม่หลานกลับเห็นใจจี้อวี๋ขึ้นมาตะหงิดๆ ถึงปกติจะไม่ค่อยชอบขี้หน้านาง แต่มาชอบคนอย่างพี่ใหญ่ตนนี่ จี้อวี๋คงโดนคนจริงเข้าให้แล้วล่ะ
“พี่ใหญ่ทำได้ไม่เลว เช่นนั้นข้าก็วางใจละ ข้ากลับไปดูลูกก่อนนะ” โม่หลานพูดจบ หมุนตัวจากไปทันที
เฉินอ๋องโม่ฉือชิงยกนิ้วโป้งให้โม่ฉีเฟิง “ท่านพี่เมีย เก่งนัก เยี่ยมมาก!” พูดจบก็ไล่ตามโม่หลานไป
ฮ่องเต้ที่อยู่ในวังหลวงได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน ซูกงกงพูดอย่างตกใจ “ฝ่าบาท แม่ทัพโม่ทำเกินไปหรือไม่ ถึงแม่ทัพจี้จะเป็นสตรี แต่อย่างไรก็เป็นแม่ทัพใหญ่คนหนึ่ง โดนขังในคุกไม่เหมาะสมกระมัง?”
ฮ่องเต้กลับส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ “โม่ฉีเฟิงที่บื้อเป็นท่อนไม้นี่รู้งานเสียแล้ว น่าสนุกจริงๆ โม่หลานเองก็มีลูกแล้ว โม่ฉีเฟิงกลับยังโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่เลย เขาควรจะมีครอบครัวได้แล้ว”
“ความหมายของฝ่าบาทคือ แม่ทัพโม่กับจี้อวี๋ เท่าที่หม่อมฉันรู้มา แม่ทัพโม่ดูจะไม่ชอบแม่ทัพจี้นะเพคะ?” ฮองเฮาถามความสงสัยของตนเองออกมา
“ว่ากันว่ารักไม่รู้เริ่มต้น ณ ตรงไหน บางทีโม่ฉีเฟิงอาจยังไม่รู้ใจตัวเอง ไม่อย่างนั้นแม่ทัพใหญ่อย่างเขามีการมากมายนัก จะไปยุ่งเรื่องจี้อวี๋ทำไมกัน” ฮ่องเต้อธิบาย
“หม่อมฉันคิดไม่ถึงเลย ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่ง! หม่อมฉันว่าวันนี้อากาศไม่เลว หม่อมฉันไปเดินเล่นในอุทยานเป็นเพื่อนฝ่าบาทดีหรือไม่เพคะ?” ฮองเฮาบอก
ฮ่องเต้เหล่หน้าต่างของตำหนัก จนแน่ใจว่าฟ้าโปร่ง “ได้ ข้าเองก็ไม่ได้ไปเดินเล่นหลายวันแล้ว”
ฮองเฮาพยุงฮ่องเต้ออกจากตำหนักทันที ซูกงกงตามไปรับใช้ด้านหลังอย่างระมัดระวัง
เพียงแต่ทั้งสองยังเดินไปได้ไม่ไกลนัก ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของสตรีผู้หนึ่งจากด้านหลังภูเขาปลอมในอุทยาน
“ตวนเจี๋ยอวี๋ เจ้าร้องไห้ทำไมน่ะ?” เซียวผินถาม
(เจี๋ยอวี๋ เป็นชื่อตำแหน่งพระสนม อยู่ที่ระดับสาม)
ตวนเจี๋ยอวี๋เช็ดน้ำตาบนหน้า “ข้าคิดถึงองค์ชายห้า เขายังเล็กขนาดนั้นก็ต้องถูกส่งไปจวนซื่อจื่อแล้ว การฝึกซ้อมของจวนซื่อจื่อน่ะคนธรรมดายังรับไม่ไหวเลย ข้ากลัวองค์ชายห้าจะไม่ไหวเอา”
“ฝ่าบาทหวังดีกับเหล่าองค์ชายและองค์หญิงนะ หวังว่าพวกเขาจะมีความสามารถในการคุ้มครองตนเอง เจ้าอย่าเป็นห่วงไปเลย” เซียวผินปลอบ
“ข้าย่อมเข้าใจในความหวังดีของฝ่าบาทอยู่แล้ว แต่องค์ชายห้าไม่เคยออกจากวังเลย ข้ากลัวเขาจะปรับตัวไม่ได้” ตวนเจี๋ยอวี๋สีหน้ากังวล
“หากเจ้าไม่วางใจจริงๆ ไปดูที่จวนซื่อจื่อสิ แต่ห้ามไปรบกวนพวกเขานะ” เซียวผินเตือนเสียงเบา
“จริงด้วย ทำไมข้าคิดไม่ถึงนะ ข้าจะกลับไปเตรียมของที่องค์ชายห้าชอบกินเอาไปมอบให้เขา” ตวนเจี๋ยอวี๋ลุกขึ้นจะไป เซียวผินก็ตามไปด้วย
ฮ่องเต้สีหน้าไม่พอใจมาก “คนว่ากันว่า แม่ตามใจลูกเกินไปจะเสียคน หากทุกคนเป็นอย่างตวนเจี๋ยอวี๋กันหมด อนาคตขององค์ชายและองค์หญิงจะมิน่ากังวลรึ”
“ฝ่าบาทอย่ากริ้วไปเลย ตวนเจี๋ยอวี๋เป็นแม่คน เป็นห่วงลูกเป็นเรื่องปกติมาก ให้นางไปดูหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้นก็เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่ในวัง จะส่งผลต่ออารมณ์ของฝ่าบาทด้วย” ฮองเฮาปลอบ ยื่นมือมาช่วยลูบหลังให้ฮ่องเต้เบาๆ
ฮ่องเต้ไม่ได้ย้อน เท่ากับยอมรับไปในตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...