รับรู้ได้ถึงไออันตรายจากด้านหลัง โม่เหลิ่งเหยียนหมุนหลังกลับมาอย่างแรง มือหนึ่งอุ้มจวินเสี่ยวเหยียนไว้ อีกมือซัดฝ่ามือใส่เวินฉิงที่โจมตีเข้ามาอย่างแรง
เวินฉิงไม่คิดว่าโม่เหลิ่งเหยียนจู่ๆก็หันมา นางรับฝ่ามือไปเต็มๆ ตัวลอยกระเด็นออกไป ล้มลงกับพื้นอย่างแรงขยับตัวไม่ได้เลย กระอักเลือดออกมาทันที
ส่วนโม่เหลิ่งเหยียนเพราะว่าคุ้มครองจวินเสี่ยวเหยียน เลยหลบไม่ทันการโจมตีจากคนชุดดำหลายคน โดนฟันด้านหลังไปหนึ่งดาบ
“อ๊าก!” โม่เหลิ่งเหยียนแค่นเสียงต่ำ ซัดฝ่ามือใส่คนชุดดำหลายคนนั้นจนลอยกระเด็น
“ท่านอาซวนอ๋อง ท่านได้รับบาดเจ็บแล้ว!” จวินเสี่ยวเหยียนร้องเสียงดัง
ลูกน้องหันมามอง พากันเป็นห่วงยิ่งนัก “ท่านอ๋อง!” พูดจบก็พุ่งเข้ามาหาทันที และตวัดดาบฆ่าฟันคนชุดดำไม่เลี้ยง
“ข้าไม่เป็นไร อย่ากังวลไปเลย แผลเล็กน้อยเท่านั้น” โม่เหลิ่งเหยียนปลอบเสียงเบา
ถึงเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่มือที่อุ้มจวินเสี่ยวเหยียนไว้ก็ไม่คลายลงเลยสักนิด และไม่ได้วางนางลงด้วย
จวินเสี่ยวเหยียนเห็นแผลที่ด้านหลังของโม่เหลิ่งเหยียน สงสารยิ่งนัก “ท่านอาซวนอ๋องท่านรีบวางข้าลงเร็ว!”
“มิเป็นไร” โม่เหลิ่งเหยียนปลอบ เวลานี้รอบด้านมีแต่คนชุดดำที่มาลอบโจมตี เขาไม่ยอมวางลงเด็ดขาด
คนชุดดำอีกคนพุ่งเข้ามา โม่เหลิ่งเหยียนยกเท้าเตะกระเด็น แต่กลับโดนแผล ถึงเขาจะแค่ขมวดคิ้วน้อยๆ แต่จวินเสี่ยวเหยียนก็เห็นอยู่ดี
จวินเสี่ยวเหยียนกระโดดลงจากอ้อมกอดโม่เหลิ่งเหยียนทันที วินาทีที่เท้าแตะพื้น ใบหน้าน้อยดำทะมึนทันที ถลึงตามองคนชุดดำหลายคนที่ลอบโจมตีโม่เหลิ่งเหยียนเมื่อครู่อย่างดุดัน
“พวกเจ้ากล้าทำร้ายท่านอาซวนอ๋องของข้า น่าตายนัก!” จวินเสี่ยวเหยียนตะคอกดัง
น้ำเสียงเด็กใสแฝงแววเดือดดาลทะลุฟ้า สะท้อนไปทั่วทั้งความมืด เสียงนั้นแหลมปรี๊ดเสียดแก้วหู เย็นชายิ่งนัก
โม่เหลิ่งเหยียนกำลังจะปลอบจวินเสี่ยวเหยียน ก็เห็นหนอนสีดำจำนวนมากคลานมาทางนี้จากทุกสารทิศ ด้วยความเร็วที่น่าตกใจนัก
หนอนตัวสีดำเป็นฝูง ทำเอาคนขนหัวลุก ทุกคนตกใจมาก รีบหลบกันพัลวัน
แต่หนอนเหล่านั้นก็ล้อมคนชุดดำไว้ในพริบตา คนชุดดำตกใจมาก รีบตวัดดาบฟาดฟัน เขาฟันตายไปหลายตัวแต่ก็ยังมีหนอนอีกหลายร้อยตัวคลานเข้าหาเขา โจมตีเขา ภาพนั้นอนาถนัก
“ข้าไม่มีวันยอมให้มันผู้ใดมาทำร้ายท่านอาซวนอ๋องได้!” น้ำเสียงเย็นเยียบของจวินเสี่ยวเหยียนออกมา หนอนสีดำก็โจมตีคนชุดดำเหล่านั้นอย่างรุนแรงทันที
คนชุดดำร้องโหยหวน ครวญครางแทบขาดใจ พลางวิ่งหลบหนีไปทุกทิศ แต่พวกเขาไหนเลยจะเร็วไปกว่าหนอนกู่ แค่พริบตาเดียวร่างของเขาก็เต็มไปด้วยหนอนกู่ ผสานกับการร้องโหยหวนของเขา เขาล้มลงกับพื้นร้องโหยหวนไม่กี่ครั้งก็กลายเป็นโครงกระดูกขาวโพลนร่างหนึ่ง
ภาพนี้ทำทุกคนตกใจนัก ขนาดทหารและลูกน้องจากหอดวงจันทร์ยังตะลึงไปเลย ใครก็ไม่คิดว่า หนอนพวกนั้นมีพลานุภาพรุนแรงขนาดนี้ นี่กลายเป็นโครงกระดูกเห็นจะๆกับตาเลยนะ
ส่วนลูกน้องจากหอดวงจันทร์ก็ยิ่งตกใจจนไม่กล้าหอบหายใจเลยด้วยซ้ำ ครั้งก่อนที่เห็นภาพนี้ก็คือซื่อจื่อเฟย หากเด็กอายุสี่ขวบเบื้องหน้าคนนี้กลับมีวิธีการที่น่าตกใจเช่นนี้ มันทำให้ตนตกตะลึงจริงๆ
เหล่าทหารยิ่งบื้อไปกันใหญ่ ยังไม่รอที่พวกเขาจะรู้สึกตัว คนชุดดำที่มาโจมตีทั้งหมดก็โดนกัดกินจนเป็นโครงกระดูกสีขาว ซากศพแต่ละร่างล้มลงกับพื้น มันดูน่าสยดสยองมาก
ส่วนเวินฉิงที่อยู่ข้างๆก็ตะลึงพรึงเพริดไปเลย นางนิ่งไปนาน นางมองดูคนชุดดำที่มาโจมตีตายอนาถ ตกใจจนเหงื่อแตกซิก อยากจะหลบหนี แต่นางโดนฝ่ามือของโม่เหลิ่งเหยียนซัดจนบาดเจ็บสาหัส ขยับตัวไม่ได้เลย
หนอนสีดำคลานเข้าหาเวินฉิงอย่างรวดเร็ว เวินฉิงตกใจจนหน้าซีดเผือด ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดเพื่อหลบ แต่นางคลานไม่ไหวเลย หนอนตัวหนึ่งคลานขึ้นมาบนตัวนาง ทำเอาเวินฉิงตกใจจนลนลานไปหมด
“ไม่ ไม่เอา หรันจู๋ซีช่วยข้าเร็ว!” เวินฉิงตะโกนเสียงดัง
“ขอรับ!” ทุกคนน้อมรับคำสั่งอย่างนอบน้อมทันที
คืนนี้ภาพนี้มันช่างตกตะลึงยิ่งนัก เด็กสี่ขวบคนหนึ่งสามารถควบคุมหนอนสีดำที่ดุร้ายได้ขนาดนี้ ฝีมือน่ากลัวเช่นนี้ทำให้คนหวาดหวั่นพรั่นพรึงจริงๆ
หากเป็นเด็กคนอื่นต้องโดนหาว่าเป็นตัวประหลาดแน่ แต่นางเป็นลูกสาวของจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟย ฝีมือเช่นนี้ทำให้คนทั้งตกใจและทอดถอนใจจริงๆ
“หากใครกล้าแอบพูดออกไป ข้าจะให้หนอนพวกนี้กินมันซะ!” จวินเสี่ยวเหยียนพูดออกมา
ทุกคนหันมองใบหน้าไร้เดียงสา วินาทีนี้รู้แต่เพียงว่านางเป็นจอมมารน้อย วิธีสยดสยองเช่นนี้พวกเขาไม่อยากทดลองดอก
“ท่านอาซวนอ๋อง พวกเรากลับไปกันเถอะ ท่านได้รับบาดเจ็บ ต้องรีบให้ท่านปู่หมอยมบาลช่วยท่านทำแผลนะ” จวินเสี่ยวเหยียนมองมาอย่างเป็นห่วง
“ได้!” โม่เหลิ่งเหยียนพยักหน้า จูงมือจวินเสี่ยวเหยียนจากไป
เขาไม่ได้ให้คนฆ่าหรันจู๋ซีเสีย เพราะนับจากวินาทีที่หรันจู๋ซีละทิ้งที่จะช่วยเวินฉิง โม่เหลิ่งเหยียนก็รู้แล้วว่า ตระกูลหรันคือจุดอ่อนของเขา
จวบจนพวกโม่เหลิ่งเหยียนจากไปแล้ว หรันจู๋ซีเดินข้ามโครงกระดูกมากมายไปที่ข้างกายเวินฉิง เขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกมาห่อหุ้มโครงกระดูกร่างนั้นเอาไว้ มีน้ำตาไหลรินจากหางตาอย่างไร้เสียง
หรันจู๋ซีไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้รังเกียจ เขาอุ้มโครงกระดูกของเวินฉิงขึ้นมาทั้งๆที่มีเสื้อคลุมห่อหุ้มไว้ หมุนตัวจากไป ไม่นานก็หายเข้าไปในความมืด มองไม่เห็นเลย
อีกด้านหนึ่ง โม่เหลิ่งเหยียนพาจวินเสี่ยวเหยียนกลับมายังจวนซื่อจื่อ หมอยมบาลได้ยินว่าซวนอ๋องได้รับบาดเจ็บ ก็รีบมาช่วยทำแผลให้เขาทันที
จวินเสี่ยวเหยียนเห็นเลือดเนื้อเจิงนองเต็มหลังโม่เหลิ่งเหยียน ใบหน้าน้อยๆเต็มไปด้วยความปวดใจ “ท่านอาซวนอ๋อง เจ็บมากกระมัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...