โม่เหลิ่งเหยียนมองไปยังใบหน้าอันเต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วงของจวินเสี่ยวเหยียน หัวใจอันเย็นชาพลันอบอุ่นขึ้นมา “ไม่เจ็บเลยสักนิดเดียว ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
หมอยมบาลที่ช่วยทำแผลให้เขาอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้น “เสี่ยวเหยียนวางใจเถอะ ท่านอาซวนอ๋องของเจ้าน่ะเก่งมาก แผลแค่นี้ไม่กี่วันก็หายแล้ว”
จวินเสี่ยวเหยียนถึงได้วางใจ “ในเมื่อท่านปู่หมอยมบาลพูดถึงขนาดนี้แล้ว งั้นข้าเชื่อ แต่หลายวันนี้ท่านห้ามโดนน้ำนะ และยิ่งห้ามกินปลากุ้ง ต้องพักผ่อนให้มาก”
โม่เหลิ่งเหยียนอดแปลกใจไม่ได้ “เรื่องพวกนี้เจ้ารู้ด้วยรึ?”
“ใช่สิ ก่อนหน้านี้ท่านปู่หมอยมบาลก็บอกกับคนเจ็บแบบนี้” จวินเสี่ยวเหยียนตอบ
โม่เหลิ่งเหยียนยิ้มมุมปาก ยื่นมือไปลูบหัวน้อยๆของจวินเสี่ยวเหยียน “ฉลาดมาก เหนื่อยมาทั้งคืนแล้วเจ้ารีบไปนอนเถอะ”
ซูหลินรีบเดินเข้ามาหาทันที “เสี่ยวเหยียน พวกเราไปนอนกันเถอะ”
“ท่านน้า ข้าไม่อยากไปนอน ข้าอยากเฝ้าท่านอาซวนอ๋อง เขาได้รับบาดเจ็บเพราะข้า ข้านอนกับเขาได้หรือไม่?” จวินเสี่ยวเหยียนถามอย่างไร้เดียงสา
คำพูดเดียวทำทุกคนตกตะลึง
“ท่านน้ารู้ว่าเจ้าชอบท่านอาซวนอ๋องมาก แต่เขาได้รับบาดเจ็บ หากเจ้าอยู่ที่นี่ เขาก็ต้องแบ่งใจมาดูเจ้า ก็จะพักผ่อนไม่ดี แบบนี้แผลก็จะหายช้า” ซูหลินอธิบายอย่างใจเย็น
จวินเสี่ยวเหยียนยังไม่อยากไปอยู่ดี “งั้นข้าจะเฝ้านอนอยู่ที่นี่” พูดจบ ก็นอนลงบนเตียงข้างๆเลย จากนั้นก็ยื่นมือไปจับชายเสื้อโม่เหลิ่งเหยียนไว้
คราวนี้ซูหลินไปไม่เป็นเลย พวกเขารู้ดีว่าจวินเสี่ยวเหยียนชอบซวนอ๋องมาตั้งแต่เล็ก ตอนนี้ซวนอ๋องได้รับบาดเจ็บเพราะปกป้องเสี่ยวเหยียน จวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยก็ไม่อยู่ พวกเขาเลยไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมยังไงดี
“ในเมื่อเสี่ยวเหยียนอยากอยู่ที่นี่ ก็ให้นางอยู่เถอะ” หมอยมบาลบอก
“ท่านปู่หมอยมบาลดีที่สุดเลย” จวินเสี่ยวเหยียนยิ้มแหะๆ หลับตาลงทันที
ซูหลินก็พูดอะไรไม่ได้ นางหยิบผ้าห่มมาห่มให้เสี่ยวเหยียน ก่อนจะออกไป
โม่เหลิ่งเหยียนมองดูมือน้อยอวบอูมที่จับชายเสื้อตนไว้ ความรู้สึกที่มีคนพึ่งพาและต้องการนี้มันดีมากเลย
แต่เล็กจนโตเขาอยู่คนเดียวมาตลอด นับตั้งแต่เขาจำความได้ก็ถูกส่งไปค่ายทหาร ฝึกฝนอย่างทรมาน การรบราฆ่าฟันในสงคราม ความสงบร่มเย็นของแคว้นต้าเยียน....ทำให้เขาแทบไม่เคยยิ้มเลย
แต่เด็กหญิงน้อยตรงหน้านี้ช่วยสงบจุดที่เย็นที่สุดในส่วนลึกของใจเขา ประหนึ่งแสงตะวันที่อาบหัวใจเขาจนอบอุ่น
อาจเพราะเหนื่อยมากเกินไป ไม่นานจวินเสี่ยวเหยียนก็หลับไป ฟังเสียงหายใจแผ่วเบาของนาง คิ้วตาของโม่เหลิ่งเหยียนเต็มไปด้วยความรักใคร่อ่อนโยน
“เจ้าคิดจะทำอย่างไรต่อไปกับนังหนูนี่?” หมอยมบาลพลันถามโพล่งออกมา
โม่เหลิ่งเหยียนไม่เข้าใจ “ทำอะไร?”
“นังหนูนี่พึ่งพาเจ้ามากผิดปกติ เหนือกว่าจวินหย่วนโยวไปแล้ว หากต่อไปเจ้าแต่งงานมีเรือน มีลูกของตัวเอง บางทีอาจจะห่างเหินนังหนูนี่ก็ได้” หมอยมบาลถอนหายใจยาว
“ไม่มีทางแน่นอน” โม่เหลิ่งเหยียนตอบโดยไม่คิดทันที
หมอยมบาลเห็นเขาพูดออกมาอย่างไม่คิดเลยก็พอใจมาก จากนั้นแววตาก็เต็มไปด้วยความกังวลเข้ามาแทนที่
“เจ้ากับหยุนถิงไร้วาสนาต่อกันในชาตินี้ นังหนูนี่ก็ชอบเจ้ามากขนาดนี้ เจ้าไม่เคยคิดรึว่า ต่อไปจะ...กับเสี่ยวเหยียน” หมอยมบาลยังพูดไม่ทันจบก็โดนโม่เหลิ่งเหยียนแทรกทันที
“ผู้อาวุโสหมอยมบาล ท่านพูดเหลวไหลอะไรน่ะ ข้าเป็นพ่อเสี่ยวเหยียนได้แล้วนะ จะกระทำการผิดจารีตเช่นนั้นได้อย่างไรกัน!” น้ำเสียงโม่เหลิ่งเหยียนเย็นชาลงหลายส่วน
หมอยมบาลเบ้ปาก “ทำไมต้องจริงจังขนาดนี้เล่า ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้น เจ้าดูเริ่นเซวียนเอ๋อร์กับกู้จิ่วเยวียนสิ พวกเขามีความสุขมากนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...