“แล้วอย่างไร ขอเพียงสามารถล้างแค้นให้ลูกชายข้าได้ ถึงแม้จะให้ทั่วทั้งตระกูลฉีถูกฝังไปด้วยแล้วอย่างไร? ตอนนี้ตระกูลฉีเหลือยายแก่อย่างข้าแค่คนเดียวเท่านั้น ข้าก็มีชีวิตอยู่จนเพียงพอแล้ว จับตัวเจ้าได้ข้าตายก็ไม่เสียดายแล้ว!” ฮูหยินเฒ่าฉีกล่าวอย่างไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
ฉีเทียนเจียวไม่เต็มใจ ไม่เต็มใจถูกป๋อจิ้งหลอกใช้ ยิ่งไม่เต็มใจที่ป๋อจิ้งฆ่าบรรดาพี่น้องเหล่านั้น พวกเขาไม่ได้มีความผิด ทั้งหมดเป็นเพราะตนเองทั้งนั้น
“คนที่ฆ่าลูกชายของเจ้าคือพวกเขา เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย เจ้าถือสิทธิอะไรมาโทษข้าเรื่องนี้?” ฉีเทียนเจียวคำรามอย่างบ้าคลั่งเล็กน้อย
“เพราะเจ้าคือลูกนอกคอกของพวกเขา ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด!” ฮูหยินเฒ่าฉีกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“เจ้าจะฆ่าข้าก็ได้ แต่ให้เวลาข้าสองสามวันได้ไหม ขอเพียงให้ข้าล้างแค้นให้บรรดาพี่น้องแล้ว ก็แล้วแต่เจ้าจะลงโทษตามต้องการ!” ในน้ำเสียงของฉีเทียนเจียวมีการอ้อนวอนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
สิ่งเดียวที่นางไม่ยินยอม ก็คือพี่น้องที่ตายอย่างอนาถเหล่านั้น
“ฮึ ข้าตามหาเจ้ามาสิบกว่าปี ไม่ง่ายกว่าจะหาเจ้าเจอ ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด เด็กๆกุมตัวนางไปที่ลานหลัง ทรมานให้สาหัส สิ่งที่ลูกชายของข้าได้รับในตอนนั้นข้าจะเอาคืนกับนางเป็นสองเท่า!” ฮูหยินเฒ่าฉีออกคำสั่งด้วยความโกรธแค้น
“ขอรับ!”
และป๋อจิ้งที่ออกจากตระกูลฉี ยังไม่ทันได้ออกจากกำแพงของตระกูลฉี ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องครวญครางดังมาจากในลานเป็นพักๆ ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกหวาดกลัว
เขารู้ว่า นั่นคือการทรมานฉีเทียนเจียวของฮูหยินเฒ่าฉี และป๋อจิ้งก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“นายท่าน ท่านจะไม่สนใจนางจริงหรือ?” คนสนิทที่อยู่ด้านข้างกระซิบถาม
เขารู้ว่าฉีเทียนเจียวจงรักภักดีต่อนายท่านมาโดยตลอด ขจัดสิ่งกีดขวางให้นายท่านไปไม่น้อย สามารถกล่าวได้ว่าเป็นทหารที่กล้าหาญคนหนึ่งเลย
“ผู้ทำการใหญ่ย่อมต้องมีการเสียสละ ไปกันเถอะ” ป๋อจิ้งทิ้งคำพูดเอาไว้ประโยคหนึ่ง จากไปอย่างไม่หันกลับมามองเลย
“ขอรับ!” คนสนิทติดตามไปทันที
และในพระราชวัง
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวกินอิ่มและดื่มจนพอใจแล้ว ก็เดินเล่นอยู่ในพระราชวัง “ท่านพี่ พระราชวังของแคว้นเทียนจิ่วค่อนข้างโอ่อ่าจริงๆ ไม่ด้อยไปกว่าพระราชวังของแคว้นต้าเยียนเลยแม้แต่น้อย”
“หากว่าเจ้าชอบ ข้าจะสร้างพระราชวังให้เจ้า” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างตามใจ
“อย่าเลย คนไม่รู้จะคิดว่าข้าต้องการวางแผนชิงบัลลังก์ พระราชวังจะดีขนาดไหนข้าก็ไม่ชอบ จวนซื่อจื่อของเราดีกว่า” หยุนถิงตอบ
“เช่นนั้นเสร็จธุระแล้วเราก็รีบกลับกันเถอะ” จวินหย่วนโยวยื่นมือไปจับมือของหยุนถิงเอาไว้
“ตกลง!”
“ข้าว่าพวกเจ้าสองคนออกจากแคว้นต้าเยียน มาถึงถิ่นของข้าแล้วยังหวานเลี่ยนขนาดนี้อีก ทนไม่ไหวจริงๆ นี่เป็นบ้านของเสด็จอาเก้ากับข้า มันอบอุ่นและหวานซึ้งขนาดไหน พวกเจ้าจะไปรู้อะไร” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เบะปาก
หยุนถิงมองมา ก็เห็นกู้จิ่วเยวียนอุ้มเริ่นเซวียนเอ๋อร์เอาไว้ “พวกเจ้าสองคนก็หวานเลี่ยนกันไม่ใช่หรือ”
“ข้ากับเสด็จอาเก้านี่คือข้าวใหม่ปลามัน ความสัมพันธ์ย่อมต้องดีอยู่แล้ว ตั้งแต่แต่งงานกับเสด็จอาเก้าข้าก็ไม่ต้องเดินเองแล้ว ไปไหนเสด็จอาเก้าก็อุ้มข้าตลอด อิจฉาหรือเปล่าล่ะ?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์กล่าวอย่างได้ใจ
หน้าผากของหยุนถิงมีเส้นสีดำสามเส้นแว็บผ่านไป “เช่นนั้นเวลาเจ้าเข้าห้องน้ำล่ะ?”
เริ่นเซวียนเอ๋อร์กรอกตามองบน “เจ้านี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ”
“เสด็จอาเก้าของเจ้าทำให้เจ้ากลายเป็นคนพิการแล้ว ยังหวานซึ้งอะไรกัน นานขนาดนี้ยังไม่ตั้งครรภ์อีก เจ้าต้องออกกำลังให้มากๆแล้ว” หยุนถิงกล่าวจี้ใจดำ
เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถูกแทงใจดำ รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย “เสด็จอาเก้าท่านรีบวางข้าลงเถอะ”
กู้จิ่วเยวียนวางนางลง “ก็ไม่ได้อุ้มเอาไว้ทุกวัน ไม่น่ามีผลกระทบกระมัง”
เริ่นเซวียนเอ๋อร์เดินไปทางหยุนถิง ยื่นข้อมือเข้ามาให้ “หยุนถิงเจ้าช่วยจับชีพจรให้ข้าหน่อย เหตุใดนานขนาดนี้แล้วข้ายังไม่ตั้งครรภ์อีก เสด็จอาเก้าของข้าเหนื่อยจนร่างกายเสื่อมทรุดแล้ว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...