“นายท่านของเราคือชางหลันเย่ เขารู้ว่าซื่อจื่อเฟยและจวินซื่อจื่อมายังแคว้นเทียนจิ่ว กลัวว่าพวกท่านจะมีอันตราย เลยสั่งให้นำทหารหนึ่งแสนนายมาช่วยอารักขา
ท่านแม่ทัพส่งคนส่วนหนึ่งลอบปะปนเข้าไปในเมืองหลวงของแคว้นเทียนจิ่ว ส่วนคนอื่นแบ่งกันไปตามทิศเหนือใต้ออกตกทั้งสี่ทิศของแคว้นเทียนจิ่ว
ขอเพียงซื่อจื่อเฟยมีอันตราย แม่ทัพจะสั่งการให้เข้าไปช่วยซื่อจื่อเฟยทันที นายท่านบอกว่าห้ามผู้ใดเผยร่องรอยเด็ดขาด อันที่จริงสองครั้งนี้ที่มีคนของแคว้นเทียนจิ่วมาลอบโจมตี ทางเราก็คอยจับตาดูอยู่อย่างลับๆ
เพียงแต่ซื่อจื่อเฟยช่างเก่งกาจยิ่งนัก ไม่ต้องให้พวกเราจัดการคนที่มาลอบโจมตีเลย ดังนั้นพวกข้าเลยไม่ได้ปรากฏตัว
วันนี้พวกข้ารับผิดชอบคอยคุ้มครองซื่อจื่อเฟยอย่างลับๆกลางถนน ไม่คิดเลยว่าจะถูกซื่อจื่อเฟยจับได้ ซื่อจื่อเฟย ท่านอย่าบอกแม่ทัพของเรานะ ไม่อย่างนั้นกลับไป นายท่านต้องลงโทษพวกเราอย่างหนักแน่” ทั้งหมดอธิบายทันที
หยุนถิงมองมาอย่างสงสัย “เจ้าบอกว่าชางหลันเย่ส่งทหารหนึ่งแสนนายมาคุ้มครองข้า?”
“ใช่ขอรับ นี่เป็นทหารทั้งหมดที่แคว้นชางเยว่ของเราสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว” หนึ่งในนั้นตอบ
“เขาไม่กลัวแคว้นต้าเยียนหรือแคว้นเป่ยลี่มาโจมตีตอนนี้หรือไง หากให้คนอื่นรู้ว่าตอนนี้แคว้นชางเยว่ไร้ซึ่งกำลังทหาร ไม่เสี่ยงต่อการสิ้นแคว้นรึ?” จวินหย่วนโยวเลิกคิ้วมองมา
“นายท่านบอกว่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของซื่อจื่อเฟยแล้ว ขอเพียงซื่อจื่อเฟยปลอดภัย เรื่องอื่นล้วนไม่สำคัญทั้งสิ้น!” พอคนผู้หนึ่งพูดจบ พลันรู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายบางอย่างค่อยๆแผ่ซ่านในอากาศ
วินาทีนี้เขารู้ตัวทันทีว่าตนพูดผิดแน่แล้ว ถึงท่านแม่ทัพจะบอกว่าฝ่าบาททรงตรัสอย่สงนี้ แต่มาพูดต่อหน้าจวินซื่อจื่อก็ดูไม่สมควรจริงๆ
“จวินซื่อจื่อขออภัยด้วย ความหมายของเขาคือ ความปลอดภัยของซื่อจื่อเฟยและท่านสำคัญที่สุด” อีกคนออกมาจบสวยให้
จวินหย่วนโยวรู้สึกหึง เขาไม่คิดว่าชางหลันเย่จะส่งทหารหนึ่งแสนนายมาคุ้มครองถิงเอ๋อร์
จะดีใจที่ชางหลันเย่มีสำนึก ไม่ลืมบุญคุณที่ช่วยชีวิตของหยุนถิง หรือจะบอกว่าเขาบ้าเกินไปดี
กษัตริย์ของแคว้นหนึ่งทำอย่างนี้กับผู้หญิงของตน ในใจจวินหย่วนโยวรู้สึกอึดอัดชอบกล แต่ไม่ได้พูดอะไร
“ชางหลันเย่ส่งทหารหนึ่งแสนนายมาคุ้มครองข้า น่าซาบซึ้งใจนัก สมเป็นเพื่อนตาย แต่ข้ากับสามีจัดการเรื่องแคว้นเทียนจิ่วเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้ารีบเรียกทหารทั้งหมดของแคว้นชางเยว่กลับไปเถอะ” หยุนถิงบอกอย่างซาบซึ้ง
ทั้งหมดทำหน้าลำบากใจ กำลังจะพูดอะไร ก็มีชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งก้าวออกมาจากที่มืด “คารวะซื่อจื่อเฟย พวกเขาเป็นลูกน้องของข้า นี่เป็นการเข้าใจผิดกัน”
หยุนถิงเหล่คนที่มา รูปร่างแข็งแกร่ง ใบหน้าเย็นชา มีรอยแผลที่หางตาซ้าย มีแววเข้มงวดสุขุมแฝงอยู่ในแววตา แค่ดูก็รู้ว่าเป็นทหารที่กรำศึกสงครามมานานปี
“เจ้าคือแม่ทัพของพวกเขา?” หยุนถิงถาม
“ขอรับ ซื่อจื่อเฟยมีสิ่งใดจะสั่งการหรือไม่?” หนานเฟิงจิ่นตอบอย่างนอบน้อม
คนที่ฝ่าบาทให้เขามาคุ้มครอง เขาย่อมไม่มีทางไม่เคารพแน่
“ขอบใจชางหลันเย่แทนข้าด้วย แต่พวกข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว อีกสองวันจะไปจากแคว้นเทียนจิ่วละ พวกเจ้ากลับไปเถอะ ตอนนี้ทั่วทั้งแคว้นชางเยว่กลายเป็นเมืองร้าง หากมีใครมาลอบโจมตี ข้ากลัวชางหลันเย่จะมีอันตราย” หยุนถิงบอก
หนานเฟิงจิ่นสีหน้าตึงเครียดขึ้นมาทันที “แต่ฝ่าบาทสั่งพวกข้าห้ามจากไปเด็ดขาด”
“ดื้อรั้น แม่ทัพที่นำทัพด้านนอกควรต้องเลือกตามเหตุสมควร ตอนป๋อจิ้งลอบโจมตี ข้ายังไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเจ้าเลย ตอนนี้เขาตายแล้ว พวกเจ้าอยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ หากชางหลันเย่เจออันตรายจริงๆ พวกเจ้าไม่กลายเป็นคนผิดของแคว้นรึ!” หยุนถิงบอก และยื่นเป้ที่หิ้วติดตัวมาไปให้
“นำสิ่งนี้ไปให้ชางหลันเย่ ในนี้เป็นยาทั้งนั้น หวังว่าเขาจะไม่ได้ใช้”
หนานเฟิงจิ่นรู้สึกว่าหยุนถิงพูดมีเหตุผล เขายื่นมือมารับมัน “ขอบคุณซื่อจื่อเฟยมาก ข้าต้องนำไปให้แน่นอน ในเมื่อซื่อจื่อเฟยพูดเช่นนี้ เช่นนั้นข้าจะนำคนทั้งหมดกลับไป”
“ระหว่างทางระวังตัวด้วย”
อีกด้านหนึ่ง แคว้นชางเยว่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...