“จำเป็นนี่นา หยุนถิงสั่งการมา ข้าต้องรีบทำให้เร็วสิ ตอนนี้พวกเราเริ่มกันเลยเถอะ” โม่ฉือชิงเร่งเร้า
หยุนถิงหันมองจวินหย่วนโยว “ซื่อจื่อ ข้าร่วมมือกับองค์ชายสี่เปิดร้านของทอด ข้าแค่เสนอสูตรอาหาร เรื่องอื่นให้เขาจัดการ พวกเราแบ่งกำไรกันครึ่งต่อครึ่ง”
นางเคยพูดว่า จะเปิดอกทุกอย่างกับซื่อจื่อ ไม่ปิดบังอันใดต่อกัน
“หยุนถิงเจ้าอธิบายให้เขาฟังทำไมกัน สูตรของเจ้าเจ้าตัดสินใจเองสิ” องค์ชายสี่พูดอย่างไม่พอใจ
“ร่วมมือได้ แต่กำไรจะแบ่งกันครึ่งต่อครึ่งไม่ได้ ต้องสี่หก เจ้าได้หกส่วน” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็นใส่
“นี่ จวินหย่วนโยวเจ้าถือโอกาสปล้นรึ หยุนถิงเป็นคนเสนอแบ่งกันครึ่งต่อครึ่งเอง เจ้าอาศัยสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องนี้กัน?” โม่ฉือชิงพูดอย่างโกรธกริ้ว
“สิทธิ์ที่ข้าเป็นสามีนาง”
คำพูดเดียวทำองค์ชายสี่เถียงไม่ออก
โม่ฉือชิงหันมองหยุนถิงอย่างน่าสงสาร “หยุนถิงเจ้าอย่าฟังเขาพล่ามไร้สาระนะ ก่อนหน้านี้พวกเราตกลงกันแล้วว่าแบ่งกันครึ่งต่อครึ่ง”
“ข้าเองก็รู้สึกว่าซื่อจื่อพูดมีเหตุผล กำลังคนและข้าวของเป็นเรื่องเล็ก สูตรต่างหากที่เป็นส่วนสำคัญ งั้นทำตามที่ซื่อจื่อบอก แบ่งสี่หกแล้วกัน” หยุนถิงพูดอย่างไว้หน้าอย่างมาก
โม่ฉือชิงเหล่มองจวินหย่วนโยวอย่างแรง “เจ้ามีสูตร เจ้าตัดสินใจได้ เจ้าหมอนี่เป็นตัวร้าย”
“ในเมื่อองค์ชายสี่ไม่พอใจ เช่นนั้นก็สามเจ็ด---“ น้ำเสียงเย็นชาของจวินหย่วนโยวลอยมาอีกครั้ง
ครั้งนี้องค์ชายสี่ไม่รอจวินหย่วนโยวพูดจบ ก็ดึงหยุนถิงออกไป “สี่หกก็สี่หก พวกเรารีบไปทำกันเถอะ ร้านน่ะอีกห้าวันก็จะเสร็จแล้ว ตั้งแต่เรียนรู้จนเชี่ยวชาญ กว่าจะดำเนินกิจการได้จริงๆ ยังไงก็ต้องใช้เวลาหลายวันอยู่ดี”
หยุนถิงรู้ดีว่า เขากลัวซื่อจื่อจะต่อรองราคาอีก เลยเดินตามไปเลย
สุดท้ายเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงตะคอกด้วยความโกรธของจวินหย่วนโยวดังมาจากด้านหลัง “โม่ฉือชิงปล่อยฮูหยินของข้า หากมือของเจ้าอยู่ไม่เป็นที่อีก ข้าจะให้คนตัดมือเจ้าซะ!”
โม่ฉือชิงตกใจตัวสั่นเทา รีบปล่อยมือ และยังถอยหลังไปสองก้าวอย่างรู้ตัว เว้นระยะห่างกับหยุนถิง
“นี่เจ้าก้อนน้ำแข็งใหญ่ เจ้าน่ะต้องงกเพียงนี้รึ ข้าไม่สนใจฮูหยินเจ้าดอก” โม่ฉือชิงเบ้ปากบอก
“ทำเช่นนั้นดีที่สุด หากมีครั้งต่อไป มือข้างนี้ของเจ้าก็ไม่ต้องนำกลับไปแล้ว!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงหยัน
โม่ฉือชิงตกใจจนตัวสั่นเทา ถอยหลังไปอีกสองก้าว รักษาระยะห่างให้ปลอดภัยกับหยุนถิง ถึงได้เดินตามไป
จวินหย่วนโยวย่อมไม่วางใจอยู่แล้ว เขาลุกขึ้นเดินตามไป
พอคนในห้องครัวเห็นว่าเป็นฮูหยิน ทั้งหมดพร้อมกันยืนสองข้างทางอย่างเคารพ และพากันคารวะ
“ไอ้โหย ดูไม่ออกเลยว่า หยุนถิงจะคุ้นเคยกับห้องครัวของจวนซื่อจื่อ ขนาดนี้นะ” โม่ฉือชิงเบ้ปากบอก
“พูดอะไรน่ะ ห้องครัวของบ้านข้า คนพวกนี้ล้วนเป็นครอบครัวของข้า ข้าจะไม่คุ้นเคยรึ?” หยุนถิงย้อนถาม
“พูดไปก็ถูก”
หยุนถิงเดินเข้าไป และให้เหล่าคนครัวของจวนซื่อจื่อยืนดูอยู่ข้างๆ “ทุกคนเข้ามาล้อมวงกัน ฟังอย่างตั้งใจ เรียนอย่างตั้งใจ ไก่ทอดและหมูทอดนี่ต้องหมักบ่มก่อนล่วงหน้า ต้องใช้เครื่องปรุงมากมายหลายชนิด เวลาและฝีมือในหมักบ่มเป็นตัวตัดสินสัมผัสในการกินโดยตรง”
โม่ฉือชิงมองเหม่อ ไหนเลยจะเป็นขยะไร้ค่าคนนั้นเช่นก่อนอีก นางในตอนนี้สายตาแน่วแน่ สีหน้าตึงเครียด ท่าทางตั้งอกตั้งใจอย่างจริงจัง ทำให้คนเลื่อมใสยิ่ง
โม่ฉือชิงพึ่งเคยเห็นหยุนถิงเป็นแบบนี้ครั้งแรก ดูใบหน้าดำเมี่ยมของนางแล้ว พลันคิดถึงใบหน้าที่แท้จริงของนางที่เผยออกมาตอนล่องเรือที่นอกเมือง
ไม่เข้าใจหยุนถิงจริงๆ ทั้งๆที่รูปโฉมกลับมาแล้วทำไมยังแสร้งทำอัปลักษณ์อยู่อีก สตรีปกติมิใช่รักสวยรักงามกันรึ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...