จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 212

หยุนถิงรู้สึกถึงความอ่อนโยนของซื่อจื่อ รอยยิ้มตรงหว่างคิ้วก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น นึกถึงซื่อจื่อทำลายล้างสำนักราตรีภายใต้ความโกรธ เพื่อตัวเอง หยุนถิงก็ยิ่งซาบซึ้งใจมากขึ้น

สำนักราตรีก่อตั้งมาสิบกว่าปี ล้วนเป็นพวกชั่วช้าสามานย์สุดขีดทั้งนั้น คิดจะทำลายล้างไม่ใช่เรื่องง่ายดาย

แม้ว่ากำลังขององครักษ์เงามังกรจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็หลีกเลี่ยงการสังหาร หลั่งเลือดและการสังเวยชีวิตไม่ได้ แต่เพื่อตัวเองแล้วเขากลับยินดี ส่งองครักษ์เงามังกรที่ติดตามเขาออกไประบายความแค้นให้กับตัวเอง จวินหย่วนโยวที่เป็นเช่นนี้จะให้หยุนถิงไม่รักได้อย่างไร

หลายวันที่ตัวเองได้รับบาดเจ็บ จวินหย่วนโยวก็ดูแลนางตลอด ป้อนข้าวป้อนน้ำ นวดและอยู่พูดคุยเป็นเพื่อนนาง เอาอกเอาใจไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นหยุนถิงจึงไม่ได้แสร้งทำกิริยาเกินงาม ยื่นมือไปโอบคอของจวินหย่วนโยว ตอบรับจูบของเขา

จวินหย่วนโยวรู้สึกถึงการตอบสนองของนาง รอยยิ้มในดวงตาของเขาก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น มือใหญ่ที่โอบเอวของนางใช้แรงมากยิ่งขึ้น โจมตียึดครอง เรียกร้องอย่างบ้าคลั่ง

ได้ยินว่าโม่เหลิ่งเหยียนพาตัวหยุนถิงไป จวินหย่วนโยวจิตใจร้อนรนยากที่ทนได้ ถึงแม้จะรู้ว่าหยุนถิงไปรักษาหญิงคลอดบุตร แต่จวินหย่วนโยวก็ไม่วางใจ ระหว่างทางที่มาก็รู้สึกเป็นห่วงอยู่ตลอด จนกระทั่งได้ยินคำพูดของแม่ทัพภักดี จวินหย่วนโยวถึงได้วางใจลง

รู้สึกถึงร่างกายที่อ่อนนุ่ม ได้กลิ่นที่คุ้นเคยจากร่างกายของนาง ทำให้จวินหย่วนโยวลุ่มหลง มัวเมา ไม่เป็นตัวเอง

ชาตินี้ เขาไม่เคยหวั่นไหวกับผู้หญิงคนไหนเช่นนี้มาก่อน

หยุนถิงคือคนแรก และเป็นเพียงคนเดียวเช่นกัน

ไม่ไกลออกไป โม่เหลิ่งเหยียนจัดการธุระเสร็จเดินเข้ามา แต่แล้วก็เห็นทั้งสองคนกอดจูบกันอยู่ สีหน้าของโม่เหลิ่งเหยียนดำมืดไปหมด รูม่านตาดำที่ดำมืดราวเที่ยงคืนมองมาอย่างเย็นชา นานพักใหญ่ โม่เหลิ่งเหยียนถึงได้หันหลังจากไป

นาทีที่เขาหันหลังกลับมา นัยน์ตาของจวินหย่วนโยวมีความได้ใจแว๊บผ่านไปเล็กน้อย

หลังจากนั้นนานพักใหญ่ จวินหย่วนโยวถึงได้จบการจูบนี้ลง มองดูริมฝีปากบางที่บวมแดง ดวงตาดุจตาข่ายรักอันหนาแน่นยึดครองใจคน จวินหย่วนโยวหัวเราะเบาๆ

“ฮูหยิน เจ้าดูสวยมากจริงๆ”

หยุนถิงฝังศีรษะลงไปบนหน้าอกของเขาอย่างเขินอาย ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หอบหายใจแรงเท่านั้น

จวินหย่วนโยวไม่ได้เอ่ยปาก เพียงแค่กอดนางเอาไว้แน่นๆ บรรยากาศเงียบสงบไร้ที่เปรียบ ทว่าแสนจะอบอุ่น

ทางด้านนี้ โม่เหลิ่งเหยียนเดินย้อนกลับไปด้วยอารมณ์หดหู่ ได้ยินเสียงดังมาจากลานหลังพอดี

“นายท่าน ท่านต้องออกหน้าแทนข้าด้วย ซวนอ๋องตบตีข้าเช่นนี้ นี่เป็นการตบหน้าของท่านนะ” อนุภรรยาร้องไห้ปรับทุกข์ด้วยความน้อยใจ

โหวฉิงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “หุบปาก ต่อไปห้ามพูดเช่นนี้อีก หากเจ้าไม่พูดว่าปกป้องเด็ก ซวนอ๋องจะทำเช่นนี้กับเจ้าหรือ”

“ท่านพี่ ข้าก็ทำเพื่อจวนแม่ทัพภักดีทั้งนั้น หากนายท่านตกลงให้ข้ามีลูกตั้งแต่แรก ตอนนี้ก็ไม่เป็นเช่นนี้หรอก”

“หุบปาก ฮูหยินคือภรรยาหลวงที่แต่งเข้าบ้านของข้า นางยังไม่มีลูก เจ้าจะมีได้อย่างไร ข้าจะทำผิดต่อฮูหยินไม่ได้ รีบกลับไปเดี๋ยวนี้อย่ามาขวางหูขวางตาของข้าที่นี่ ยิ่งห้ามไปรบกวนฮูหยินด้วย” โหวฉิงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา เดินตรงเข้าไปในเรือน

อนุภรรยาโกรธจนใบหน้าซีดขาว มองไปทางเรือนด้วยความโกรธแค้น ดวงตาคู่สวยมีความโหดเหี้ยมและความริษยาแว๊บผ่านไปเล็กน้อย

ผู้หญิงอายุมากและทรุดโทรมไปตามวัยอย่างนางก็ทำให้นายท่านโปรดปรานเช่นนี้แล้ว หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางมีบุตรยาก ไม่แน่ว่าตัวเองอาจจะให้กำเนิดไปหลายคนแล้ว

นึกถึงตอนที่ซวนอ๋องตบตัวเองต่อหน้าสาธารณชน อนุภรรยาโกรธแค้นอย่างมาก ได้ยินมาว่าฮูหยินให้กำเนิดลูกชาย เช่นนั้นต่อไปก็จะเป็นบุตรชายภรรยาเอก ลูกของนางก็จะเป็นเพียงบุตรที่เกิดจากอนุภรรยา บัดซบจริงๆ

อนุภรรยาหันหลังก็จากไปเลย เดินตรงไปทางห้องครัว

โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ไม่ไกลออกไปเห็นภาพฉากนี้ นัยน์ตาสีดำที่แหลมคมเหลือบมองไปทางแผ่นหลังของนาง ก้าวเท้าเดินตามไปทันที

เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพี่สาว ไม่ว่าใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น

ห้องครัว

บรรดาบ่าวรับใช้กำลังทำตามวิธีการที่หยุนถิงกำชับเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทำอาหารอยู่ไฟหลังคลอดให้กับฮูหยิน จากนั้นก็เห็นอนุภรรยาเดินเข้ามาด้วยความโมโห บ่าวรับใช้ทำความเคารพทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ