พอคำนี้ออกมา ทำทุกคนตกตะลึง จากนั้นทุกคนพากันมองมาอย่างเหยียดหยามเสียดสี
“ซ่างกวนหรูนี่เสียหนักจริงๆ ความบริสุทธิ์โดนย่ำยี ยังโดนอีกฝ่ายรังเกียจอีก ช่างเสียทั้งขึ้นทั้งล่องจริงๆ ทำตนเองแท้ๆ” มีเสียงคนหนึ่งพูดขึ้นด้านนอกประตู
“นางน่ะเป็นต้นตระกูลของนางจิ้งจอกเลย เมื่อครู่อยากให้ร้ายจวินซื่อจื่อ พอเห็นจวินซื่อจื่อไม่อยู่ ตอนนี้ก็มาบอกว่าตนไม่รู้เรื่องโดนข่มเหง ความสามารถในการกลับผิดเป็นชอบนี่คนธรรมดาเทียบไม่ได้จริงๆ”
“เสียแรงที่ก่อนหน้านี้ข้าเลื่อมใสนาง รู้สึกว่านางรูปโฉมงามมีวิชา เป็นอัจฉริยะยอดหญิงงามที่หาได้ยากยิ่ง ข้ามันตาไม่มีแววจริงๆ”
“เป็นหญิงงามเมืองแล้วยังคิดจะอยากตั้งป้ายคุณธรรม ถุยถุยถุย ช่างหน้าด้านเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าจริงๆ นี่ต่างหากถึงเป็นใบหน้าที่แท้จริงของนาง”
ทุกคนพูดจากระซิบกระซาบใส่กัน พูดจาน่าเกลียดยิ่งนัก ทำเอาซ่างกวนเจิ้นโกรธจนหน้าเขียวหน้าดำ ดุดันยิ่งนัก แต่มันเป็นเรื่องจริง เขาก็ไม่อาจพูดอะไรได้
ฮ่องเต้เองก็ได้ยินเช่นกัน เหล่มองซ่างกวนหรูที่สลบอยู่บนเตียงอย่างรังเกียจ เคียดแค้นเดือดดาลนัก บรรยากาศรอบตัวพลันเย็นเยียบอันตราย กลิ่นอายอำมหิตที่สามารถทำลายฟ้าสะท้านดินค่อยๆแผ่กระจายออกไป
“กล้ามากระทำการต่ำช้าไร้ยางอาจในวังหลังของข้า หาเรื่องตายชัดๆ ทหาร พาชายผู้นี้ออกไปโบยหนึ่งร้อยที แล้วห้าม้าแยกร่างมันซะ ซ่างกวนหรูมิเคารพศีลธรรมจรรยา ไม่ว่าจะโดนให้ร้ายหรือวางแผน แต่นางทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงเช่นนี้ในวังหลวงออกมา จะละเว้นมิได้ ลงโทษให้ซ่างกวนหรูอยู่บ้านสำนึกผิดสามเดือน ไม่มีคำอนุญาตจากข้าห้ามนางออกไปไหนเด็ดขาด ต่อไปงานเลี้ยงของวังหลวงห้ามมิให้นางมาร่วมงานเด็ดขาด!” ฮ่องเต้ตะคอกดัง
“ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยพระกรุณาของฝ่าบาท” ซ่างกวนเจิ้นรู้ว่าฝ่าบาทเห็นแก่หน้าเขา ถึงยอมละเว้นชีวิตบุตรี เขารีบห่อผ้าห่มอุ้มตัวซ่างกวนหรูออกไปทันที
องครักษ์สองคนเข้ามา หามตัวผู้ชายคนนั้นออกไปสำเร็จโทษ เสียงร้องโหยหวนดังสนั่นเรือน ทำเอาผู้ที่ได้ฟังขนหัวลุกอยู่นานไม่ยอมหาย
“วันนี้ข้าเหนื่อยแล้ว ซวนอ๋องทำหน้าที่รับรองแขกเหรื่อแทนข้าแล้วกัน ข้ากลับละ!” ฮ่องเต้พูดด้วยสีหน้าทะมึน พูดจบสะบัดชายเสื้อเดินไปทันที
จี๋ผินรีบตามไปทันที นางไม่อยากให้ฝ่าบาทเข้าใจผิดว่านางสองใจนี่นา
ในใจฮองเฮายังคิดถึงเรื่องสาวใช้คนนั้น เลยหาข้ออ้างออกไปเช่นกัน นางต้องจัดการปิดปากสาวใช้นางนั้นให้เร็วที่สุด มิเช่นนี้เก็บนางไว้มีแต่จะเป็นอันตราย
“ทุกคนอยากร่วมงานเลี้ยงต่อ ก็กลับไปที่ท้องพระโรง หากไม่อยากร่วมแล้ว กลับไปได้เลย!” น้ำเสียงเย็นยะเยือกของซวนอ๋องโม่เหลิ่งเหยียนดังมา
เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ใครก็ไม่มีกะจิตกะใจกลับไปกินดื่มแล้ว ต่างพากันถวายบังคมซวนอ๋องและพากันจากไป
สาวใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากด้านนอก และส่ายหน้าให้เหมยเฟยเบาๆ
เหมยเฟยถอนหายใจโล่งอก หาไม่เจอเป็นข่าวที่ดีที่สุด นางพาสาวใช้จากไป
พอเดินออกมาได้ไกลมาก สาวใช้ถามขึ้น “พระสนม พวกเราไม่หาคุณหนูหยุนแล้วรึ?”
“ไม่ต้องดอก หาไม่เจอแสดงว่าหยุนถิงไม่เป็นอะไร ต้องมีคนไปหาแทนพวกเราแน่” เหมยเฟยตอบ
นางไม่คิดว่าหยุนถิงจะได้ใจผู้คนขนาดนี้ องค์ชายสี่ ฟู่อี้เฉินทั้งสองคนล้วนช่วยหยุนถิงกับจวินหย่วนโยว แม้แต่ซวนอ๋องก็เช่นกัน ถึงเขาจะดูเย็นชาเข้มงวด ไม่ลำเอียง แต่เหมยเฟยรู้ว่าเขาเข้าข้างหยุนถิง เพราะก่อนหน้านี้ไม่นานหยุนถิงพึ่งช่วยพี่สาวกับหลานเขาไป
หากตนทำการเสาะหาอย่างตั้งใจ ด้วยนิสัยขี้ระแวงของฝ่าบาทจะต้องสงสัยแน่
ซวนอ๋องส่งกองทัพหลวงของพระราชวังออกไป โม่ฉือหานก็พาคนทั้งหมดไปตามหาด้วยเช่นกัน เพียงแต่พลิกค้นตามหาทั่วทั้งพระราชวังไปหนึ่งรอบ ก็ยังหาตัวหยุนถิงไม่เจอ แม้แต่จวินหย่วนโยวก็ไร้ร่องรอย ราวกับหายไปกลางอากาศ
“หรือว่าพวกเขาสองคนกลับไปจวนซื่อจื่อแล้ว?” ฟู่อี้เฉินถาม
“เป็นไปไม่ได้” โม่ฉือชิงบอกอย่างมั่นใจ
ทั้งๆที่เขาเห็นหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวอยู่ในห้องนี้ชัดๆ ไม่มีเวลาหนีแม้แต่นิด จะหายไปได้อย่างไร เมื่อครู่โม่ฉือชิงก็หาทั่วห้องไปหนึ่งรอบแล้ว ขนาดในตู้ใต้เตียง ก็ไม่มีคนเลย เหลือเชื่อจริงๆ
“งั้นเจ้าว่าพวกเขาไปไหนกันล่ะ?” ฟู่อี้เฉินเบ้ปาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...