จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 257

ดวงตาทะมึนเย็นเยียบของจวินซื่อจื่อเหล่มองโจวคุนเฉิง “เจ้ามีสิ่งใดคู่ควรมาคุยเงื่อนไขกับข้า ต่อให้ฆ่าลูกชายเจ้าไปแล้ว ข้าก็สืบหาความจริงเองได้!”

“ซื่อจื่อ กระหม่อมมิกล้า และมิมีสิ่งใดคู่ควรต่อรองเงื่อนไขกับท่าน แต่กระหม่อมมีลูกชายแค่คนนี้คนเดียว ต่อไปกระหม่อมยินดีรับใช้ซื่อจื่อเท่านั้น ขอเพียงซื่อจื่อละเว้นสายเลือดนี้ให้ตระกูลโจวด้วยเถิด” โจวคุนเฉิงอ้อนวอน

จวินหย่วนโยวส่งสายตาให้หลิงเฟิงที่อยู่ข้างๆ หลิงเฟิงเตะขาของคุณชายใหญ่ตระกูลโจวหักไปข้างหนึ่งทันที

เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น เจ็บปวดแทบขาดใจ ทำเอาคนที่ได้ยินสั่นสะท้านหัวใจไปตามๆกัน

“ท่านพ่อช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากตาย ซื่อจื่อข้าผิดไปแล้ว” คุณชายใหญ่ตระกูลโจวอ้อนวอน

โจวคุนเฉิงปวดใจนัก รีบพูดทันทีว่า “ซื่อจื่อโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าพูดแล้ว ตอนนั้นท่านแม่ทัพมีบุญคุณกับข้า ไฟไหม้ครั้งใหญ่นั่นที่จวนซื่อจื่อ ข้าอยู่ที่นั่นด้วยจริงๆ ตอนนั้นข้าพยายามเข้าไปช่วยคนอย่างสุดชีวิต

เห็นท่านแม่ทัพโดนคนแทงเข้าไปหนึ่งดาบ เพียงแต่ตอนนั้นข้าอยู่ไกลเกินไป คนผู้นั้นเองก็หันหลังให้ข้า เลยมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่ไหล่ของเขาโดนท่านแม่ทัพฟันจนเสื้อผ้าขาด ข้าเห็นมีรอยสักเขี้ยวดำที่ไหล่เขา

ตอนนั้นข้าอยากจะพุ่งเข้าไป แต่ท่านแม่ทัพส่ายหัวให้ข้า ข้าเป็นขุนนางบุ๋นไม่มีวรยุทธ์ เข้าไปก็มีแต่ตายเปล่า ดังนั้นข้าเลยไม่กล้าเข้าไป รอจนคนผู้นั้นจากไปแล้ว ข้าถึงเข้าไป

ตอนนั้นข้าอยากจะช่วยท่านแม่ทัพหนีไป แต่ไฟไหม้ห้องแรงนัก ท่านแม่ทัพให้ข้าพาซื่อจื่อหนีไปแทน และยังมอบป้ายคำสั่งอันหนึ่งให้ข้า บอกว่ารอซื่อจื่อสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเองแล้วค่อยนำมันออกมา

ต่อมาข้าส่งต่อซื่อจื่อให้พ่อบ้านลั่ว แต่ไม่ได้คืนป้ายคำสั่ง เพราะคิดว่า หากวันหนึ่งตระกูลโจวมีภัย อยากขอให้ซื่อจื่อเห็นแก่สัมพันธ์เก่าก่อนไว้ชีวิตตระกูลโจวเราด้วยเถิด”

โจวคุนเฉิงรีบควักป้ายหยกลายมังกรสีม่วงอันหนึ่งออกมาจากในอกเสื้อ “คือสิ่งนี้ ขอซื่อจื่อเห็นแก่ที่ว่ากระหม่อมช่วยชีวิตท่านในตอนนั้น ไว้ชีวิตลูกชายกระหม่อมด้วยเถิด”

จวินหย่วนโยวเห็นป้ายหยกนั่น ดวงตาทุ้มลึกขึ้น หลังจากที่เขาเติบโตขึ้นได้จัดการมรดกของท่านพ่อท่านแม่ เคยเห็นท่านพ่อพกป้ายหยกนี้จากภาพวาดบางภาพจริงๆ

หลิงเฟิงรับมาทันที และยื่นให้ซื่อจื่อ

เขาถือป้ายหยกเย็นชิ้นนั้นไว้ ดวงตาจวินหย่วนโยวเก็บซ่อนความนัยมิดชิด สีหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็ง ไม่พูดอะไรอยู่นาน และไม่ได้ขยับ

ไม่คิดว่าท่านพ่อจะเหลือป้ายหยกเช่นนี้ไว้ให้เขา นี่เป็นมรดกของท่านพ่อ และเป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ ตอนนี้จวินหย่วนโยวทั้งตื่นเต้น ดีใจ ทุกข์ทรมาน เสียใจ เคียดแค้น---หลากหลายความรู้สึกปนเป บอกไม่ถูกเลยจริงๆ

โจวคุนเฉิงเห็นซื่อจื่อไม่ขยับหรือพูดอะไรเลย เขาตกใจไม่กล้าหายใจแรง เหมือนเป็นนักโทษประหารที่รอโดนลงโทษก็ไม่ปาน

ผ่านไปอยู่นาน จวินหย่วนโยวถึงลุกขึ้น “เห็นแก่ที่เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้เมื่อตอนนั้น วันนี้ข้าจะละเว้นคุณชายใหญ่ตระกูลโจว หากมีครั้งหน้าอีก ข้าจะฆ่าล้างตระกูลโจวของเจ้าให้สิ้นซาก!”

น้ำเสียงองอาจ โหดเหี้ยมกระหายเลือด ทำเอาคนขนหัวลุก

โจวคุนเฉิงค่อยคลายสบายใจลง รีบโขกศีรษะกับพื้น คุณชายใหญ่ตระกูลโจวตกใจละล่ำละลักโขกศีรษะขอบคุณเช่นกัน

พวกจวินหย่วนโยวออกจากจวนซื่อจื่อ มุ่งตรงไปพระราชวัง ตอนนี้จวินหย่วนโยอยากเจอหยุนถิงให้เร็วที่สุด

ในพระราชวัง

ชางหลันเย่ย่อมได้ยินเรื่องที่หยุนถิงฆ่าจ้าวเหลียงเหริน สตรีที่รักอิสระ กล้าได้กล้าเสีย เกลียดความชั่วร้ายยิ่งนักเช่นนั้น หากอยากจะสั่งสอนใครจริงๆคงลงมือไปนานแล้ว มีหรือจะเหลือความผิดพลาดโง่งมเช่นนี้ไว้

“นายท่าน ตอนนี้ควรจะทำอย่างไรดี พวกเราจะช่วยคุณหนูหยุนหรือไม่?” องครักษ์ลับถาม

“ก่อนหน้านี้เจ้าสืบได้มาว่าจ้าวเหลียงเหรินลักลอบคบชู้มิใช่รึ จำตัวชายผู้นั้นมาส่งไปหาจวินหย่วนโยว” ชางหลันเย่ออกคำสั่ง

หลายปีมานี้ที่เขาอยู่ในแคว้นต้าเยียน ได้ลอบให้ลูกน้องสืบเรื่องสนมในวังหลัง รวมถึงทุกคนในเมืองหลวงและราชสำนักโดยละเอียดไว้หมดแล้ว จุดอ่อนและความผิดพลาดของทุกคนเขารู้ดี เพื่อให้วันหนึ่งสามารถต่อกรกับต้าเยียนได้

หยุนถิงช่วยเขาหลายครั้ง ตอนนี้หยุนถิงเกิดเรื่อง ชางหลันเย่ย่อมไม่อาจนิ่งดูดายได้

รอจนจวินหย่วนโยวกำลังไปที่คุกหลวง ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งสลบห่างไปไม่ไกลที่พื้น ขวางทางเขาไว้ คนผู้นั้นถูกมัดมือเท้า ขยับตัวไม่ได้ หน้าอกกลับมีจดหมายฉบับหนึ่งวางไว้

จวินหย่วนโยวสีหน้าเย็นชาลง องครักษ์เงามังกรด้านหลังรีบระแวดระวัง แต่กลับไม่พบผู้ใดหรือความเคลื่อนไหวอะไรเลย

“ซื่อจื่อ ระวังเป็นกลลวง ข้าน้อยเอง” รั่วจิ่งเตะคนผู้นั้นอย่างระมัดระวัง เห็นเขาไม่รู้สึกตัว ถึงหยิบจดหมายออกมาเปิดอ่าน พอแน่ใจว่าไม่มีพิษถึงส่งให้ซื่อจื่อ

พอเห็นเนื้อหาในจดหมาย ดวงตาคมปลาบของจวินหย่วนโยวมีประกายแสงวาบผ่าน “เอาเขาไปขังคุก”

“ขอรับ!”

ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว หยุนถิงที่อยู่ในคุกหลวงหลับแล้ว พอได้ยินความเคลื่อนไหวจากด้านนอก หยุนถิงลืมตาโพลงทันที คว้าเข็มเงินจากในมิติออกมาโดยพลัน

เพียงแต่พอเห็นคนที่มาคือจวินหย่วนโยว หยุนถิงอดแปลกใจไม่ได้ “ซื่อจื่อ ทำไมเป็นท่านได้ล่ะ?”

“คิดถึงเจ้า นอนไม่หลับ เลยมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า” จวินหย่วนโยวเดินเข้ามากอดหยุนถิง

พอได้กลิ่นกายอันคุ้นเคยของนาง ความอบอุ่นของร่างกายนาง จวินหย่วนโยวถึงผ่อนลมหายใจออก

โม่ฉือชิงที่หลับอยู่โดนปลุก กำลังจะอ้าปาก ก็โดนรั่วจิ่งซัดหนึ่งฝ่ามือใส่จนสลบไป จากนั้นโดนคนหามไปไว้ห้องขังอื่น เวลานี้พวกเขามิอนุญาตให้ผู้ใดรบกวนซื่อจื่อกับฮูหยินเด็ดขาด

และคนที่สลบเมื่อครู่ ก็โดนรั่วจิ่งส่งเข้าห้องขังอีกห้องหนึ่ง

หยุนถิงสังเกตเห็นความผิดปกติของจวินหย่วนโยว “ซื่อจื่อ เกิดอะไรขึ้นรึ?”

“ไม่มีอะไร เพียงแต่สตรีของตนเองยังปกป้องไม่ได้ ข้าไม่คู่ควรเป็นสามีเจ้า” จวินหย่วนโยวรู้สึกผิด

“ซื่อจื่อท่านอย่าพูดเช่นนี้เลย ท่านทำดีมากแล้ว ข้ารู้ว่าท่านพยายามสืบมาตลอด” หยุนถิงปลอบโยน

มือที่กอดหยุนถิงไว้ของจวินหย่วนโยวแน่นยิ่งขึ้น ก็มีแต่วินาทีที่กอดหยุนถิงไว้ จวินหย่วนโยวรู้สึกว่าไม่ได้ปวดใจขนาดนั้น รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย

ทั้งสองคนโอบกอดกันและกันไว้เงียบๆ ใครก็ไม่ได้พูดอะไร ห้องขังที่กว้างใหญ่เงียบถึงขนาดได้ยินเสียงหัวใจเต้นเลยทีเดียว

ผ่านไปอยู่นาน จวินหย่วนโยวถึงปล่อยนางออก พลางดึงนางไปที่เตียง

“ซื่อจื่อ เตียงมันเล็กเกินไป ยกเตียงองค์ชายสี่มาต่อดีไหม?” หยุนถิงถาม

“เขานอนไปแล้ว สกปรก” จวินหย่วนโยวรังเกียจ พลางเอนร่างลงนอนดึงหยุนถิงเข้าอ้อมกอด

เตียงเดี่ยวที่เดิมไม่ใหญ่ พอนอนลงไปสองคนก็แออัดไปหน่อย ทำได้แค่นอนตัวตรงนิ่งๆ

“แบบนี้กำลังดี นอนเถอะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเป็นจังหวะของจวินหย่วนโยวลอยเข้าหู เขากอดหยุนถิงพลางหลับตาลง

หยุนถิงเห็นซื่อจื่อเหนื่อยแล้วจริงๆ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาในคืนนี้ดูโดดเดี่ยวและเหงาหงอยยิ่งนัก ในเมื่อซื่อจื่อไม่อยากพูด หยุนถิงเองก็ไม่ถาม และหลับตาลงเช่นกัน

เสวี่ยเชียนโฉวที่อยู่ห้องขังข้างๆเห็นภาพนี้ทั้งหมด เขาไม่คิดว่าจวินหย่วนโยวที่เย็นชากระหายเลือดและโหดเหี้ยมมาตลอดจะมีด้านที่อ่อนโยนเช่นนี้ด้วย

เช้าวันต่อมา หลิงเฟิงก็มารายงาน บอกว่าจับสตรีผู้หนึ่งได้ที่ตำหนักของจ้าวเหลียงเหรินเมื่อคืน

จวินหย่วนโยวมองดูหยุนถิงที่ยังหลับสนิท ช่วยห่มผ้าให้นาง ลุกขึ้นจากไปทันที “พาคนทั้งหมดไปเฝ้าฝ่าบาท คืนความบริสุทธิ์ให้หยุนถิง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ