จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 260

ด้านนอกประตู องครักษ์หลายคนเข้ามา จับกุมคนทั้งหมดออกไป

ดวงตาดำขลับของหยุนถิงมีประกายคมวาบผ่าน เขาไม่ได้พูดถึงตระกูลโจว พวกเขาติดหนี้หยุนถิง ไม่ช้าก็เร็วจวินหย่วนโยวจะเอาคืนเป็นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

“ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่ง!” ซวนอ๋องเสริมทันที

ไม่นาน ซูกงกงก็พาตัวหยุนถิงมา หยุนถิงในชุดกระโปรงยาวสีชมพู หาวหวอดๆ พลางเดินโอนเอนเข้ามา

พอเห็นคนในท้องพระโรง หยุนถิงมีสีหน้าประหลาดใจ “ซื่อจื่อ เหตุใดท่านอยู่ที่นี่เล่า ข้ายังนึกว่าท่านกลับไปแล้ว ซวนอ๋องก็อยู่ด้วย?”

“ข้ามาคืนความบริสุทธิ์ให้เจ้า ฝ่าบาททรงสืบทราบความจริงทั้งหมดแล้ว ข้ามารับเจ้ากลับบ้าน” จวินหย่วนโยวเอ่ยขึ้น น้ำเสียงไม่เย็นชาเหมือนเมื่อครู่ ตอนนี้กลับมีอุณหภูมิและความอ่อนโยนเพิ่มเติมเข้ามา

หยุนถิงอดประหลาดใจไม่ได้ อดชื่นชมไม่ได้ “เร็วเพียงนี้ พึ่งผ่านไปสองวันเท่านั้นเอง ซื่อจื่อท่านหล่อมากเลย เก่งมาก”

“ทำให้เจ้าลำบากแล้ว” จวินหย่วนโยวพูดอย่างปวดใจ

“ไม่หรอก ซื่อจื่อต่างหากที่ลำบาก”

พอเห็นทั้งสองคนแสดงความรักใคร่ต่อกันราวกับอยู่กันตามลำพัง ฮ่องเต้ที่อยู่บนบัลลังก์กระแอมออกมาสองคำเพื่อขัดจังหวะความหวานเลี่ยนของทั้งคู่

หยุนถิงพึ่งนึกได้ หัวเราะแหะๆ คารวะฮ่องเต้พลางว่า “หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท”

“เรื่องของจ้าวเหลียงเหรินสืบได้ความโดยละเอียดแล้ว ลำบากเจ้าแล้วล่ะ ข้าจะแต่งตั้งเจ้าเป็นองค์หญิงหยุนถิง ประกาศออกไปว่าเป็นน้องสาวบุญธรรมของข้า พระราชทานหนึ่งหมื่นตำลึงทอง ที่นาพันไร่ และคฤหาสน์หลังหนึ่ง ต่อไปการกินการอยู่ทั้งหมดเทียบเท่าองค์หญิง ถือเป็นการชดเชยของข้าที่มีต่อเจ้า!” ฮ่องเต้พูดเนิบช้า

ฮองเฮาที่อยู่ข้างๆตกใจตะลึง นางไม่คิดเลยว่าฝ่าบาทจะแต่งตั้งหยุนถิงเป็นองค์หญิง และยังรับเป็นน้องสาวบุญธรรม นี่ไม่เคยมีมาก่อนเลย เหตุใดฝ่าบาทให้ความสำคัญกับหยุนถิงมากถึงขนาดนี้?

มันทำให้ฮองเฮาไม่เข้าใจ ถึงจะเข้าใจหยุนถิงผิดเพราะเรื่องของจ้าวเหลียงเหรินจริง ชดเชยของสักหน่อยก็พอแล้ว เหตุใดต้องเอิกเกริกเช่นนี้ด้วย

สายตาฮองเฮามีประกายริษยาและไม่ยอมวาบผ่าน น่าตายนัก เสียจื่อย่วนไปก็ยังจัดการหยุนถิงไม่ได้ ยังทำให้นางได้รับการแต่งตั้งอีก น่าตายจริงๆ

หยุนถิงเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่า ฝ่าบาทจะใจกว้างกับเธอขนาดนี้ “ขอบพระทัยฝ่าบาท”

“เอาล่ะ รีบตามจวินหย่วนโยวกลับไปเถิด” ฮ่องเต้ออกปาก

“เพคะ หม่อมฉันทูลลา” หยุนถิงถวายบังคม จากนั้นก็ตามจวินหย่วนโยวออกไป

ซวนอ๋องเห็นหยุนถิงเดินออกไป ในใจก็แอบถอนหายใจโล่งอก มีแววพอใจที่หว่างคิ้ว เดินออกไปด้วย

“ฝ่าบาท หม่อมฉันก็ขอทูลลาเพคะ” ฮองเฮาถวายบังคมอย่างนอบน้อม

“กลับไปเถอะ”

รอจนท้องพระโรงไม่มีใครแล้ว ซูกงกงถึงเอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท ท่านพระราชทานของให้คุณหนูหยุนสักหน่อยก็พอแล้ว เหตุใดต้องรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรมด้วยล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”

“เจ้าไม่รู้อะไร ถึงหยุนถิงจะเย่อหยิ่งจองหองเอาแต่ใจ แต่นางสามารถช่วยข้าแก้ปัญหายากๆแค่เพียงคำพูดไม่กี่คำ อัจฉริยะที่หาได้ยากเยี่ยงนี้ ข้าต้องเก็บไว้ใช้เองอยู่แล้ว เทียบกับปัญหามากมายที่นางช่วยข้าแก้นั้น มิเท่าไหร่เลย

ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งนางเย่อหยิ่งจองหองเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้คนเคียดแค้นมากขึ้น ยิ่งโดนทิ้งให้โดดเดี่ยว คนเช่นนี้ ต่อให้มีฝีมือเก่งกาจมากแค่ไหนก็ไม่มีผลอะไรมากดอก” สายตาฮ่องเต้ฉายแววเจ้าเล่ห์

ซูกงกงยกนิ้วโป้งให้อย่างนับถือ “ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่ง”

อีกด้านหนึ่ง พอออกจากท้องพระโรง หยุนถิงกระโดดกอดจวินหย่วนโยวอย่างตื่นเต้น “ซื่อจื่อ ท่านเก่งกาจยิ่งนัก”

“ข้าไม่อาจให้เจ้าเจอความทุกข์ยากได้ แต่มีเรื่องหนึ่งข้าคิดว่าเจ้าควรจะรู้ไว้ ยังไงซะเรื่องนี้ข้าผิดต่อเจ้า” จวินหย่วนโยวบอกเรื่องตระกูลโจวกับหยุนถิง

หยุนถิงถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่า “ดังนั้นเมื่อคืนท่านเสียใจเหงาหงอยขนาดนั้น เพราะได้รับป้ายหยกของท่านพ่อท่าน?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ