หยุนถิงมองดูจวินหย่วนโยวที่โกรธจัด รู้สึกเอ็นดูสงสารอย่างยิ่ง แต่ก็ยื่นมือมาจับแขนของเขาเอาไว้“ซื่อจื่อ อย่าให้เสียการใหญ่เพราะเรื่องเล็กเลย ในเมื่อรู้แล้วว่าเป็นซ่างกวนเจิ้น เช่นนั้นเขาไม่มีทางหนีไปได้อย่างแน่นอน เหตุใดถึงไม่รอให้คนที่อยู่เบื้องหลังเขาปรากฏตัวขึ้นมาก่อน ทำลายล้างศัตรูในคราวเดียว!”
“จวินหย่วนโยวสงบสติอารมณ์เอาไว้!” โม่เหลิ่งเหยียนเองก็อดที่จะเอ่ยปากขึ้นมาไม่ได้
จวินหย่วนโยวที่กำลังโกรธจัดเลิกคิ้วมองไปทางหยุนถิงด้านข้าง แล้วมองไปทางโม่เหลิ่งเหยียน สีหน้าโกรธจนซีดขาว สูดลมหายใจเข้าลึกๆสองสามเฮือก ถึงได้ทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลงมา
“ตกลง เช่นนั้นก็ให้เขามีชีวิตอยู่ต่ออีกสองสามวัน!” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
หยุนถิงยื่นมือเข้ามา จับมือของจวินหย่วนโยวเอาไว้แน่น ให้การปลอบโยนเขา
โม่เหลิ่งเหยียนเห็นจวินหย่วนโยวสงบลงมาแล้ว ให้คนยกพ่อบ้านคนนั้นจากไป
ลานที่กว้างใหญ่สงบเงียบลงมาอีกครั้ง จวินหย่วนโยวไม่มีความเย็นชาและโหดเหี้ยมที่ฝืนทนเมื่อครู่นี้แล้ว คนทั้งคนถอนหายใจอย่างหมดสภาพ
“เจ้าคิดว่าข้าไม่เอาไหนมากหรือเปล่า?”
น้ำเสียงแหบแห้ง ทุ้มต่ำ ถึงขั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
หยุนถิงอดที่จะรู้สึกเจ็บปวดใจไม่ได้“ไม่หรอก หลายปีมานี้ซื่อจื่อแบกรับความแค้นเอาไว้คนเดียว แบกรับความรุ่งเรืองและล่มสลายของทั่วทั้งจวนซื่อจื่อ ท่านเหนื่อยเกินไปแล้ว ต่อไปท่านไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว ท่านยังมีข้า เรามาช่วยกันทำให้พวกคนที่ทำร้ายพ่อแม่ของท่านได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำพร้อมกัน”
จวินหย่วนโยวยื่นมือไปกอดหยุนถิงเอาไว้ เอนศีรษะไปพิงบนไหล่ของนาง“โชคดี ที่ข้ายังมีเจ้าอยู่”
หยุนถิงยื่นมือไปกอดจวินหย่วนโยวเอาไว้ กระซิบปลอบโยน“ข้าจะอยู่กับท่านเสมอ”
ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไรเลย แค่กอดกันและกันเงียบๆเช่นนี้ หัวใจสองเดียวมีเพียงกันและกัน
……………
ทางด้านนี้ นอกเมืองหลวง
รถม้าของเหมยเฟยออกไปสี่ห้าลี้ก็เลี้ยวเข้าไปยังป่าแห่งหนึ่ง เหมยเฟยลงมาจากบนรถม้า
“ครั้งนี้ ขอบคุณท่านมาก” ซ่างกวนเจิ้นกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
“ไม่จำเป็น ตอนนั้นท่านช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ครั้งนี้ก็ถือว่าข้าทดแทนบุญคุณที่ช่วยของท่านแล้ว ต่อไปเราสองคนไม่มีอะไรติดค้างกันอีก” เหมยเฟยกล่าวอย่างเย็นชาเฉยเมย
ตอนนั้น เหมยเฟยยังเป็นหญิงสาวที่ไม่ได้แต่งงาน มีครั้งหนึ่งออกปฏิบัติภารกิจ แต่แล้วก็ถูกกลุ่มโจรพเนจรลอบโจมตี เหมยเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากซ่างกวนเจิ้นที่ออกไล่ล่าโจรพเนจรในตอนนั้น
หากไม่ใช่เพราะครั้งนี้ซ่างกวนเจิ้นอับจนหนทางแล้วจริงๆ ก็ไม่ขอความช่วยเหลือจากเหมยเฟยหรอก
“ขอบคุณเหมยเฟยเหนียงเหนียงมากที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ ขออำลาตรงนี้เลย!” ซ่างกวนเจิ้นกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
เขารู้ว่าเหมยเฟยไม่ใช่คนของเขา ยิ่งไม่ใช่เบี้ยที่เขาจะสามารถจัดวางได้ตามใจ ครั้งนี้อับจบหนทางเขาก็แค่คิดว่าลองดูหน่อยเท่านั้น อย่างไรเสียหากฝ่าบาทรู้เขา นั่นคือโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตเลย
โชคดีที่ เหมยเฟยเป็นคนมีมโนธรรม ออกไปจากต้าเหยียนก็หมายความว่าพวกเขาเป็นอิสระแล้ว
“ข้าเก็บตั๋วเงินกับอาหารเอาไว้ให้พวกท่าน เพียงพอให้พวกท่านไม่ต้องกังวลเรื่องกินดื่มตลอดชีวิต อย่ากลับมาอีก หากมีวันหนึ่งพวกท่านถูกจับหรือไม่ก็เกิดเรื่องขึ้นมา ข้าก็จะไม่สนใจเช่นกัน” เหมยเฟยกล่าวจบ ก็หันหลังจากไป
ซ่างกวนเจิ้นมองดูแผ่นหลังของนางครู่หนึ่ง ควบรถม้าจากไปทันที ไม่ง่ายกว่าจะออกจากเมืองได้ ย่อมไม่สามารถรอช้าอยู่แล้ว
ซ่างกวนหรูที่อยู่ข้างในได้ยินอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่กลับไม่เผยหน้าออกมา นางไม่อยากให้เหมยเฟยเห็นตัวเองในสภาพที่น่ารังเกียจเช่นนี้ หรือไม่ก็ถูกคนอื่นเห็นเข้า
องครักษ์เงามังกรที่อยู่ในที่ลับมองดูรถม้าที่จากไปไกลคันนั้น กระโดดตัวตามไปทันที และบนท้องฟ้าก็ยิ่งมีอินทรีทองบินวนอยู่ เรียกได้ว่าเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวสองชั้นเลยก็ว่าได้
และบนไหล่เขา คนคนหนึ่งกำลังแบกตะกร้าไม้ไผ่กลับมา คนคนนั้นเต็มไปด้วยความยินดีและตื่นเต้น สวนทางกับรถม้าของซ่างกวนเจิ้นพอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...