จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 348

ซ่างกวนเจิ้นโกรธจัด หันกลับไปตบหน้าซ่างกวนหรูหนึ่งฉาก“หุบปาก ยังไม่ถึงตาเจ้าจะมาปฏิเสธ หากฝ่าบาทตกลงสำหรับเจ้าแล้วก็คือพระกรุณาที่ใหญ่หลวง อย่าไม่รู้จักดีชั่ว”

หนึ่งฝ่ามือของซ่างกวนเจิ้นใช้แรงอย่างมาก คนทั้งคนของซ่างกวนหรูล้มไปกับพื้น มุมปากมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย รอยนิ้วมือบวมแดงห้านิ้วปรากฏขึ้นมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าเล็กที่เดิมทีก็งดงามอย่างมากในชั่วพริบตา

“ท่านพ่อ ท่านถึงกับตบหน้าข้า ข้าคือลูกสาวของท่านนะ?” ใบหน้าของซ่างกวนหรูเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

สีหน้าของซ่างกวนเจิ้นมืดมน“ข้าทำเพราะหวังดีกับเจ้า”

ฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่มองดูสถานการณ์ที่ตึงเครียดของสองพ่อลูก ถึงได้เอ่ยปากเกลี้ยกล่อม“เอาล่ะ ความคิดที่ทำเพื่อลูกสาวของซ่างกวนเฉิงเซี่ยงข้าเข้าใจแล้ว ในเมื่อคุณหนูซ่างกวนไม่ยินดี ข้าย่อมไม่บีบบังคับอยู่แล้ว พวกท่านเดินทางมาอย่างเหนื่อยยากลำบากตลอดทาง เด็กๆพาพ่อและลูกสาวซ่างกวนเฉิงเซี่ยงไปพักผ่อน คืนนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเจ้า”

ซ่างกวนเจิ้นคำนับทันที“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเข้าใจ”

กงกงคนหนึ่งเดินเข้ามา พาพ่อลูกซ่างกวนเจิ้นจากไป

ฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่มองดูแผ่นหลังของซ่างกวนหรู ในดวงตาที่ลึกล้ำมีประกายแสงแว๊บผ่านไปเล็กน้อย ราวกับกำลังจ้องมองดูเหยื่อ

“ฝ่าบาท พระองค์จะไม่ให้คุณหนูซ่างกวนเข้าวังจริงหรือ?” ขันทีคนสนิทที่อยู่ด้านข้างกระซิบถาม

“หากเชื่อฟังเกินไปต่างหากที่ไม่น่าสนใจ ข้ามีวิธีมากมายทำให้นางเชื่อฟัง ในเมื่อมาถึงอาณาเขตของข้าแล้ว ก็อย่าคิดจะได้กลับไปอีก” นัยน์ตาของฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่มีความโหดเหี้ยมแว๊บผ่านไปเล็กน้อย

และด้านนี้ พ่อลูกซ่างกวนเจิ้นถูกจัดให้พักผ่อนในห้องแห่งหนึ่ง

ทันทีที่เข้าไปในเรือน ซ่างกวนหรูก็จ้องมองมาด้วยความโกรธ“ท่านพ่อ เหตุใดท่านถึงต้องทำกับข้าเช่นนี้ด้วย ข้าไม่ชอบฮ่องเต้องค์นั้นเลย ยิ่งไม่อยากเข้าไปในพระราชวังของแคว้นเป่ยลี่!”

สีหน้าของซ่างกวนเจิ้นดำมืด“ข้าว่าเจ้าลืมจวินหย่วนโยวไม่ลงต่างหาก อย่าลืมนะว่าที่ตระกูลซ่างกวนเราตกสู่สภาพเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะจวินหย่วนโยว เข้าวังมีอะไรไม่ดี หากฝ่าบาทให้ความสำคัญกับเจ้าจริงๆ นั้นก็คือวาสนาของเจ้า อย่าไม่รู้จักดีชั่ว”

ตอนที่ซ่างกวนเจิ้นกล่าวคำพูดนี้ ยังไม่ลืมที่จะมองนอกหน้าต่าง รีบเข้ามาใกล้ทันที ลดเสียงลงแล้วกล่าวว่า“พ่อแค่ใช้แผนถ่วงเวลาเท่านั้น ไม่ได้จะให้เจ้าเข้าวังไปอยู่กับฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่จริงๆ

ตอนนี้เจ้ากับข้ากลายเป็นสุนัขไม่มีเจ้าของแล้ว ฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่จะไม่ล่วงเกินแคว้นต้าเยียนเพราะเราแน่นอน หากแคว้นต้าเยียนส่งคนมาจับกุมเราสองคน ฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่ต้องส่งเราออกไปแน่นอน

มีเพียงเจ้าเข้าวังหลัง กลายเป็นสนมของฮ่องเต้ เช่นนี้ถึงแม้แคว้นต้าเยียนต้องการจะจับกุมเราสองคน ฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่ก็จะไม่นิ่งดูดาย อย่างไรเสียนี่ก็เป็นการท้าทายบารมีของเขา

พ่อมียาเบื่อให้สลบ หนึ่งซองออกฤทธิ์ได้ประมาณห้าหกชั่วยาม ตอนกลางคืนให้ฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่ดื่มลงไป นอนหลับหนึ่งตื่น เช้าตื่นมาเขาก็จำอะไรไม่ได้แล้ว”

ซ่างกวนหรูถึงได้เข้าใจ“ท่านพ่อ เหตุใดท่านถึงไม่บอกข้าก่อน หากข้ารู้ว่าท่านจำแผนนี้ได้ เมื่อครู่ข้าก็จะไม่ทำเช่นนั้นแล้ว?”

“เด็กโง่ ตอนแรกข้าก็ไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น พอเห็นสายตาที่ฮ่องเต้มองดูเจ้า พ่อถึงจะนึกขึ้นมาได้ ดังนั้นตอนที่อยู่ในพระตำหนักถึงได้พูดออกไปเช่นนั้น เจ้าเข้าใจความลำบากใจของพ่อก็ดีแล้ว” ซ่างกวนเจิ้นกล่าวด้วยความปลื้มใจ

“ขอโทษด้วยท่านพ่อ ข้าเป็นคนทำพลาดเอง” ซ่างกวนหรูรู้สึกตำหนิตัวเองอย่างยิ่ง

“ไม่หรอก เท่าที่ข้ารู้จักฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่ สิ่งที่ได้มาง่ายๆเขากลับจะไม่หวงแหน เจ้าถือโอกาสยั่วให้เขาอยากได้พอดี เช่นนี้ก็ถ่วงเวลาให้เราได้เช่นกัน” ซ่างกวนเจิ้นกล่าวกำชับลูกสาวอีกสองสามคำ

พวกเขานึกว่าไม่มีใครล่วงรู้แผนการ แต่กลับไม่คิดว่าถูกองครักษ์ลับที่สังเกตการณ์พวกเขาอยู่บนหลังคาเห็นทุกอย่างชัดเจน องครักษ์ลับคนนั้นกระโดดตัวจากไปทันที มุ่งหน้าไปยังที่พักของไท่จื่อ

เวลานี้ เป่ยหมิงฉี่กำลังจ้องมองสมุดบัญชีอย่างมีความสุข

เมื่อครู่นี้ผู้ใต้บังคับบัญชามารายงานสถานการณ์ของผลกำไรและยอดขาย เป่ยหมิงฉี่คิดไม่ถึงเลยว่า จะสามารถทำกำไรได้มากมายขนาดนี้ มากกว่าที่เขาเคยทำได้ในอดีตหลายสิบเท่า แค่รายรับของสองเดือนนี้ก็สูงพอๆกับรายได้ทั้งปีของจวนไท่จื่อ

เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าเขาก็จะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้นเป่ยลี่ แม้จะเป็นท้องพระคลังก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้ ความมั่งคั่งในใต้หล้าอยู่ในกำมือยังต้องกังวลว่าอำนาจของฮ่องเต้จะไม่ตกมาอยู่ในมือตัวเองอีกหรือ

เป่ยหมิงฉี่พึงพอใจอย่างยิ่ง หยุนถิงคืออัจฉริยะทางการค้าจริงๆ

“ไท่จื่อ เมื่อครู่ข้าน้อยสืบมาได้ว่าพ่อและลูกสาวซ่างกวนเจิ้นหนีมาที่แคว้นเป่ยลี่แล้ว ฝ่าบาทพบกับพวกเขาแล้ว ได้ยินมาว่าฝ่าบาทถูกใจซ่างกวนหรู แต่ว่าซ่างกวนหรูปฏิเสธการเข้าวัง เวลานี้สองพ่อลูกถูกจัดให้พักผ่อนอยู่ ข้าน้อยได้ยินพวกเขาบอกว่าอยากใช้เหตุผลนี้ถ่วงเวลาฝ่าบาท จะได้หลบหนีการจับกุม” องครักษ์ลับรายงานโดยสังเขป

สีหน้าที่เดิมทีกำลังมีความสุขของเป่ยหมิงฉี่เย็นยะเยือกลงมาในชั่วพริบตา กระดูกนิ้วมือที่ถือสมุดบัญชีเอาไว้ซีดขาว รูม่านตาดำเฉือนคมมืดมน

“ซ่างกวนเจิ้นเห็นคนของแคว้นเป่ยลี่เป็นคนโง่หมดหรือ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เขาจะมาใช้วิธีสกปรกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ ก่อนหน้านี้ซ่างกวนหรูวางแผนทำร้ายหยุนถิงครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งนี้ถือว่าข้าตอบแทนหนี้น้ำใจให้นางก็แล้วกัน ตอนนี้เจ้าไปบอกเสด็จพ่อเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อครู่นี้ บอกว่าข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา ถึงได้ให้เจ้าคอยสังเกตการณ์” เป่ยหมิงฉี่ออกคำสั่ง

“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ลับไปดำเนินการทันที

และเป่ยหมิงฉี่ก็เขียนจดหมายด้วยตัวเองหนึ่งฉบับ ย่อมเขียนให้กับหยุนถิงอยู่แล้ว เขาไม่เคยทำการค้าขายที่ขาดทุนมาก่อน ในเมื่อช่วยหยุนถิงแล้วย่อมต้องให้นางรู้อยู่แล้ว

ผู้ใต้บังคับบัญชาส่งจดหมายฉบับออกไปผ่านนกพิราบสื่อสารทันที

..................

หอใต้หล้า ห้องส่วนตัวบางแห่ง

หยุนหลีกำลังกินดื่มกับพี่น้องที่สนิทกันสองสามคนของนางอย่างมีความสุข สบายอารมณ์อย่างยิ่ง

“หยุนหลีเจ้าเก่งกาจจริงๆ ถึงกับหาเงินได้สิบตำลึง พวกเรายังรอเงินเดือนจากที่บ้านอยู่เลย ถ้าอย่างไรเอาสิบตำลึงของเจ้าบริจาคออกมาดีไหม?” หญิงสาวนางหนึ่งกล่าวหยอกล้อ

“ไม่เอาหรอก นี่เป็นเงินที่ข้าหาได้เป็นครั้งแรก ข้าต้องบูชาเอาไว้” หยุนหลีโอ้อวดเงินที่อยู่ในมือ

หยุนหลีรับผิดชอบความสงบเรียบร้อยของร้านของทอด ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว วันนี้ได้รับเงินมาสิบตำลึง ตื่นเต้นจะแย่ รีบร้อนนัดพี่น้องที่สนิทกันมากินข้าวที่หอใต้หล้า

“ดูที่เจ้าพูดสิ ยังจะบูชาอีกต่างหาก คิดออกมาได้อย่างไร”

“พี่ใหญ่ของเจ้าเก่งกาจขนาดนั้น พี่เขยซื่อจื่อร่ำรวยขนาดนั้น แค่ให้เจ้านิดหน่อยก็พอให้เจ้าใช้กี่ชาติก็ใช้ไม่หมดแล้ว”

“พูดความจริงซี้ซั้วอะไรกันน่ะ แต่นั่นมันไม่เหมือนกัน นั่นคือที่พวกเขาให้ แต่นี่คือเงินที่หามาได้ด้วยตัวเอง หาเงินมาได้โดยอาศัยสองมือของตัวเอง ความรู้สึกนี้มันช่างดีจริงๆ โอ้ยข้าดื่มมากไปหน่อย ไปห้องน้ำก่อน พวกเจ้าดื่มต่อไปเถอะ” หยุนหลีเดินโซเซไปทางหน้าประตู

คนอื่นๆก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องจริงจัง กินดื่มกันต่อไป

หยุนหลีมองดูเงินที่อยู่ในมือด้วยความภาคภูมิใจ ฮัมเพลงไปอย่างมีความสุข เดินไปที่มุมบันได ถูกคนที่โผล่ออกมากะทันหันจากด้านข้างชนเข้า เงินที่อยู่ในมือตกลงไปชั้นล่าง

“ไอ๊หยา เงินของข้า!” หยุนหลีตะโกนเสียงดัง คนทั้งคนก็กระโดดลงไปจากบนบันได

ซวนอ๋องที่เพิ่งจะเข้ามาที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคนทั้งคนของหยุนหลีกระโจนลงมาด้านล่าง ขั้นบันไดที่สูงขนาดนี้หากตกลงมาจริงๆ ไม่ตายก็พิการแน่นอน

นึกถึงว่านางเป็นน้องสาวของหยุนถิง โม่เหลิ่งเหยียนที่ไม่เคยยุ่งเรื่องชาวบ้านก็เขย่งปลายเท้า กระโดดตัวไปทางหยุนหลีทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ