เขารู้จักกับหยุนถิงมานานขนาดนี้ ย่อมรู้ดีถึงฝีมือเอารัดเอาเปรียบของหยุนถิง จู่ๆให้ผลประโยชน์โดยไม่คิดเงิน ยังสอนเทคนิคให้ ทำตัวดีขนาดนี้ทำให้คนรู้สึกสงสัยชีวิตจริงๆ
หยุนถิงหัวเราะแหะๆ “พอดีคิดได้ว่าทุกคนเป็นคนกันเอง ดังนั้นช่วงแรกเลยไม่ต้องให้พวกเจ้าเข้าร่วม แค่เอากำไรสามส่วนของทุกวันให้ข้าก็พอ”
“ข้ายินดี หากมันฝรั่งไม้หนึ่งขายได้ถึงสิบตำลึง ให้เจ้าสามตำลึง ข้ายังเหลือเจ็ดตำลึง เงินเบี้ยหนึ่งซื้อมันฝรั่งได้หลายอันนัก กำไรเพียบเลย” โม่หลานรีบตอบ
“นังหนูน่าตายนี่ เมื่อครู่ใครบอกว่าไม่สนใจกัน?” องค์ชายสี่ย้อนกลับต่อหน้าทุกคน
โม่หลานหัวเราะแหะๆ “ข้าคือไม่สนใจ แต่ถ้าหาเงินได้ข้าก็สามารถซื้ออาวุธเช่นดาบใหญ่ทวนยาวได้แล้ว ไม่ต้องคอยดูสีหน้าพี่ชายข้าแล้ว แค่คิดก็รู้สึกดีแล้ว”
คนอื่นย่อมยินดีอยู่แล้ว โอกาสหาเงินดีเช่นนี้ หยุนถิงจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้ว พวกเขาแค่ส่งหนึ่งคนไป นี่เป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก
ในเวลาเดียวกันทุกคนก็พากันทอดถอนใจ โชคดีที่วันนี้ตนมาแล้ว ไม่งั้นก็พลาดโอกาสในการหาเงินดีเช่นนี้ไปแล้ว
อาหารมื้อนี้กินกันอย่าสนุกสนาน พอกินอิ่มดื่มพอทุกคนก็กลับไป ฉินจิ้งอี๋กลับอยู่ต่อ
หยุนถิงเดินออกไปไกลมากแล้วถึงเอ่ยขึ้น “หากไม่ดูชาติกำเนิด คุณหนูฉินผู้นี้ช่างเหมาะสมกับจ้าวเคอจริงๆ”
“เจ้าอยากเป็นแม่สื่อให้พวกเขา?” โม่เหลิ่งเหยียนถาม
“หากพวกเขาสองคนชอบพอกัน ข้าต้องช่วยพวกเขาแน่” หยุนถิงพึ่งพูดจบก็เห็นว่ามุมหนึ่งไม่ไกลนัก สตรีผู้หนึ่งกำลังยืดคอยาวมองไปทางบ้านของจ้าวเคอ
“นางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” หยุนถิงไม่คิดเลยว่าจูจูผู้นี้ยังไม่ตัดใจอีก
“เจ้ารู้จักนางรึ?” ซูชิงโยวถาม
“นางก็คือสตรีคนนั้นที่รังเกียจความทุกข์ยากจน และทอดทิ้งจ้าวเคอประกาศติดตามคุณชายหลิ่วต่อหน้าธารกำนัล ได้ยินว่า ประกาศออกวันนั้น นางไปก่อกวนที่ตระกูลจ้าว สุดท้ายโดนฉินจิ้งอี๋เปิดโปง บัดนี้มารออยู่ที่นี่ คาดว่าจะยังไม่ตัดใจ”
โม่เหลิ่งเหยียนมองจูจูที่อยู่ห่างไปไม่ไกลด้วยสีหน้าเย็นเยียบ “เรื่องนี้ยกให้ข้าจัดการเอง ข้ารับรองได้ว่านางจะไม่มาตอแยจ้าวเคออีกตลอดชาติ”
หยุนถิงชะงัก “ซวนอ๋อง ท่านคงจะไม่ฆ่านางหรอกนะ?”
“นางไม่คู่ควรที่จะทำมือข้าสกปรก!” โม่เหลิ่งเหยียนตอบอย่างองอาจ
หยุนถิงมองเขาที่ยืนข้างๆ สูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบห้า ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาสง่า ออร่าแรงมาก องอาจเข้มงวด นี่มันสไตร์บอสเข้มในยุคปัจจุบันชัดๆ
“ซวนอ๋อง ท่านหล่อมาก!” หยุนถิงทนไม่ไหวเอ่ยชมออกมา
โม่เหลิ่งเหยียนยิ้มมุมปาก สบเข้ากับดวงตาสว่างใสกระจ่างคู่นั้นของหยุนถิงเข้า มองความมั่นใจและชื่นชมในดวงตานาง โม่เหลิ่งเหยียนรู้สึกดียิ่งนัก อารมณ์ดีมาก
“คำพูดเช่นนี้ ต่อไปพูดให้มากหน่อยละกัน”
“ฮะฮะ ไม่คิดว่าท่านจะหน้าหนาเช่นนี้นะ ซวนอ๋อง” หยุนถิงหัวเราะเบาๆออกมา
อันที่จริงข้าเป็นเพียงกับเจ้าผู้เดียว แน่นอนว่าคำพูดนี้โม่เหลิ่งเหยียนไม่ได้พูดออกมา เขาไม่อยากกดดันหยุนถิง ไม่อยากให้นางรู้สึกไม่ดี
หากเป็นไปมิได้ มิสู้รักษาสถานภาพสหายเช่นตอนนี้ บัดนี้ดีที่สุดแล้ว
ตนเป็นคนที่นางเชื่อใจมากที่สุดรองจากจวินหย่วนโยว เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
คนด้านหลังพากันมองอึ้งไปเลย โม่ฉือชิงสีหน้าตกตะลึง “นี่คือโม่เหลิ่งเหยียนที่ข้ารู้จักรึ เขายิ้มได้?”
“ข้าอยู่มาสิบกว่าปียังไม่เคยเห็นซวนอ๋องยิ้มเลยสักครั้ง วันนี้เห็นเขายิ้มตั้งหลายครั้ง” โม่หลานอดประหลาดใจไม่ได้
“เขาทำเช่นนี้ต่อหยุนถิงเท่านั้น” ซูชิงโยวเอ่ยขึ้น
“แต่หยุนถิงมีจวินหย่วนโยวอยู่แล้วนะ ไม่ใช่เขาสักหน่อย หาเรื่องจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...