จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 41

“ฮูหยินส่งมาแล้ว ทุกคนกำลังทำอาหารอยู่ที่ครัวด้านหลัง เหลือแค่ผสมน้ำผึ้งลงไปตามสัดส่วน” พ่อตอบกลับไป

“ดี อีกเดี๋ยวพ่อบ้าน เจ้าตามมากับข้า ข้าจะบอกสัดส่วนน้ำผึ้งให้ หลังจากนี้เจ้าเป็นคนรับผิดชอบ หากข้ามีเรื่องต้องออกไปด้านนอกหรือยังมิกลับมา เจ้าจะได้สามารถช่วยจัดการได้”

พ่อบ้านตื่นเต้นมากจนอดมิได้ที่จะถามว่า “ฮูหยิน เรื่องนี้มิได้อย่างเด็ดขาด นี่เป็นวิธีหาเงินของท่าน ท่านมิกลัวว่าข้าจะหักหลังและบอกสูตรให้ผู้อื่นรู้อย่างนั้นหรือ ?”

“มิกลัว ตราบใดที่เจ้ายังเป็นพ่อบ้านของซื่อจื่อ เจ้ามิมีทางหักหลังเป็นอันขาด ซื่อจื่อเชื่อในเจ้า ข้าก็จะเชื่อใจเจ้า อีกอย่างนี่มันก็เป็นชานมเท่านั้น ข้ายังทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย วันหลังข้าจะทำนมเปรี้ยว ซุปผลไม้ เค้กโยเกิร์ต เจลลี่โยเกิร์ต คุกกี้โยเกิร์ต......ของกินกองโต ไม่ต้องกลัวว่าจะมิมีขายทำเงิน” หยุนถิงกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

พ่อบ้านกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นอย่างสุดหัวใจ “ฮูหยินเชื่อใจข้าถึงเพียงนี้ ถือว่าเป็นโชคดีของข้า หลังจากนี้ข้าจะอุทิศตนเพื่อฮูหยิน ตัวตายก็มิเสียใจ”

“ก็แค่ชานมเท่านั้น มิเห็นต้องจริงจังถึงขนาดนั้น ข้ากินอิ่มแล้ว พวกเราไปกันเถิด” หยุนถิงลุกขึ้นพร้อมเดินออกไป

พ่อบ้านรีบตามไปทันที จวินหย่วนโยวยังคงกินอยู่อย่างนั้น มิได้เดินตามไป

หลิงเฟิงเข้ามาในทันใด “ซื่อจื่อ เมื่อวานนี้องค์ชายสี่พักอยู่เพียงครู่เดียวก็เดินทางกลับ เหล่าผู้ที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูบอกกันว่าตอนที่เขาออกไป เขาจามอย่างต่อเนื่อง เหมือนว่าน่าจะเป็นหวัด”

“เจ้าสวะโม่ฉือชิงนั่น มิจำเป็นต้องไปสนใจ” จวินหย่วนโยวกล่าวออกมาด้วยความดูถูก ความเจ็บปวดและความอ่อนแอในวันปกติของเขาหายไป ใบหน้าของเขาดูกระหายเลือด

“หลังจากหลีอ๋องกลับไปเมื่อคืน ก็ส่งนางงามลั่วเข้าไปในห้องเย็น เท่านั้นไม่พอ เขายังส่งคนมาสอดแนมจวนซื่อจื่อ ดังนั้นข้าจึงมาเพื่อรับคำสั่งว่าควรจัดการกับพวกเขาอย่างไร” หลิงเฟิงถามออกมา

“จัดการคนพวกนั้นให้กลายเป็นคนพิการ จากนั้นส่งเขากลับไป กล้ามาสอดแนมจวนซื่อจื่อของข้า ก็ต้องดูก่อนว่าข้าจะอนุญาตหรือไม่”

“ขอรับ”

ดังนั้นด้านนอกลานจึงมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา แต่มันก็หายไปในชั่วพริบตา

หยุนถิงซึ่งกำลังอยู่ในครัว ได้ยินเช่นนั้นก็คิดว่าตนเองหูฝาด มิใส่ใจ สอนพ่อบ้านต่อไป

หลังจากนั้นไม่นาน พ่อบ้านก็เรียนรู้ทุกอย่างจนเป็น หยุนถิงให้เขาลองผสมสัดส่วนตัวตนเองหนึ่งครั้ง เมื่อแน่ใจแล้วว่ารสชาติมิต่างกันมาก นางก็วางใจและตามจวินหย่วนโยวออกไป

ในรถม้า จวินหย่วนโยวมองมาที่นางอย่างตื่นเต้นพร้อมกล่าวออกมาว่า “เจ้าอยากไปไหน ?”

“ซื่อจื่อ ในเมืองหลวงมีสถานที่ใดน่าสนุกบ้าง?” หยุนถิงถามออกมา

“เจ้ามิรู้ว่าจะไปเที่ยวที่ใดงั้นหรือ?” จวินหย่วนโยวขมวดคิ้ว

นางมิได้เป็นคนที่มีพื้นเพอยู่ในเมืองหลวงงั้นหรือ ลูกหลานของตระกูลร่ำรวย กินดื่มอย่างสนุกสนาน เที่ยวเล่นอย่างสบายใจ นางจะมิรู้ได้อย่างไร

หยุนถิงเห็นดวงตาแห่งความสงสัยของจวินหย่วนโยว นางถึงได้รู้ว่าตนเองเผลอหลุดปากไป รีบหาข้อแก้ตัวในทันใด “แน่นอนว่าข้ารู้ นี่ก็แค่การทดสอบท่าน อยากรู้ว่าซื่อจื่อที่เอาอยู่แต่ในจวนไม่ไปไหนอย่างท่านจะรู้เรื่องพวกนี้หรือไม่”

“เช่นนั้นเองงั้นหรือ?”

“มิฉะนั้น หากท่านมิรู้ว่าควรไปเที่ยวที่ใด ก็หมายความว่ายังมิมีสถานที่ที่อยากไป งั้นวันนี้พวกเราไปล่องเรือกัน” หยุนถิงแนะนำออกมา

“เจ้าอยากไป งั้นก็ไปกัน” จวินหย่วนโยวตอบรับ

“ได้”

ริมแม่น้ำทางตะวันออกของเมือง รถม้าของจวินหย่วนโยวและหยุนถิงจอดอยู่ตรงนั้น จ้องมองไปยังแม่น้ำอันกว้างใหญ่

นี่คือคูเมืองแห่งแคว้นต้าเยียน แม่น้ำแห่งนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างมาก กว้างประมาณห้าถึงหกสิบเมตร ไหลรอบแคว้นต้าเยียน จากนั้นขยายไปทางใต้ซึ่งเชื่อมต่อกับอีกสามประเทศ

การคมนาคมทางน้ำและเรือของแคว้นต้าเยียน ถูกขนส่งผ่านคูเมืองสายนี้ หากปีไหนแล้งประชาชนจะใช้น้ำจากคูเมืองเพื่อทดแทน อาจกล่าวได้ว่าคูเมืองแห่งนี้เป็นแม่น้ำแห่งชีวิตของชาวแคว้นต้าเยียน

ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน มีเรือสำราญหลายลำในแม่น้ำซึ่งถูกตกแต่งหลากสีสัน และมีเสียงเครื่องดนตรีดังมาจากด้านในตัวเรือ ฟังดูมีชีวิตชีวาเป็นมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ