“เหนียงเหนียงฉลาดที่สุด” นางกำนัลพูดขึ้นอย่างชื่นชม
ทางด้านฮ่องเต้เมื่อออกมาจากตำหนักฉินเฟย ก็รีบกลับไปยังห้องทรงพระอักษร ตามองครักษ์ที่พาหยุนหลิงเข้ามาคนนั้นมาเข้าเฝ้า
“ตลอดทางที่มาเจ้าได้เจอใครไหม เล่าสถานการณ์ตอนที่หยุนหลิงตกน้ำให้ละเอียด” ฮ่องเต้พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
“เรียนฮ่องเต้ ตลอดทางที่ข้าน้อยกับคุณหนูหลิงเข้ามาในวัง ไม่ได้เจอใครเลย เดินไปถึงสระน้ำตรงอุทยาน จู่ๆคุณหนูหลิงก็ตกน้ำ อาจเป็นเพราะนางยืนไม่มั่นคง
คุณหนูหลิงยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นข้าน้อยจึงไปตามนางกำนัลใกล้คนหนึ่งมาช่วยนาง นางกำนัลคนนั้นก็หามาอย่างเร่งด่วน” องครักษ์บอกเล่าตามความจริง
ฮ่องเต้ฟังอยู่อย่างขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ากลับไปก่อน”
“ขอรับ”
ห้องทรงพระอักษรที่กว้างใหญ่ เหลือเพียงฮ่องเต้กับซูกงกง ฮ่องเต้พูดขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจว่า “หยุนหลิงเพิ่งพูดว่าจะมาฟ้องข้า สุดท้ายก็เกิดเรื่อง หใดสติไม่ฟื้น ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้?”
ซูกงกงที่อยู่ด้านข้าง พูดขึ้นว่า “บางทีนี่อาจเป็นเรื่องบังเอิญ ยังไงคุณหนูหยุนก็ยังหมดสติอยู่ เวลานี้หมอหลวงหลิวก็อยู่ในจวนซื่อจื่อ หากคุณหนูหยุนฟื้นขึ้นมาแล้ว จะต้องมากราบทูลแน่”
“พูดมีเหตุผล แต่ข้ามักรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าสงสัย”
“ฮ่องเต้ ข้าน้อยขอพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด ปกติคุณหนูหลิงกับคุณหนูหยุนไม่ถูกกัน ความลับที่นางจะบอกเป็นจริงหรือเท็จก็ไม่รู้ ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เป็นความจริง ด้วยนิสัยของคุณหนูหยุน ท่านคิดว่านางเป็นคนที่ยอมถูกข่มขู่ได้ง่ายๆหรือ” ซูกงกงพูดขึ้นมาอย่างจริงใจ
ฮ่องเต้เลิกคิ้วหันมามอง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าทาส นี่เจ้าสงสัยข้าหรือ?”
ซูกงกงตกใจคุกเข่านั่งลง พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอฮ่องเต้โปรดอภัย ต่อให้ข้าน้อยมีความกล้าเป็นร้อย ข้าน้อยก็ไม่กล้าสงสัยฮ่องเต้"
ข้าน้อยเพียงแค่รู้สึกว่า ถึงคุณหนูหยุนจะเป็นผู้หญิง แต่ก็เฉลียวฉลาด เพียงฮ่องเต้ตรัสประโยคเดียว คุณหนูหยุนก็สามารถคลี่คลายปัญหาให้ฮ่องเต้คลายกังวล
คุณหนูหยุนเป็นคนรอบคอบขนาดนั้น แล้วจะให้คนอื่นรู้ความลับของนางง่ายๆได้อย่างไร ต่อให้คุณหนูหลิงรู้มาโดยบังเอิญ แต่หากฮ่องเต้จะใช้ความลับควบคุมคุณหนูหยุน เกรงว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย แกล้งทำเป็นไม่รู้จะดีกว่า”
ดวงตาดำเฉียบคมของฮ่องเต้มืดลึก เหลือบมองดูซูกงกง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ามีความคิดเห็นเช่นนี้ ข้าซาบซึ้งใจมาก ข้างกายข้าต้องมีคนมีหัวคิดเหมือนอย่างเจ้า เดี๋ยวไปรับเงินสองร้อยตำลึง ข้าให้รางวัลเจ้า” ฮ่องเต้พูดขึ้นมา
“ขอบพระทัยฮ่องเต้”
................
ทางนี้ ซวนอ๋องออกจากวังแล้วก็ตรงไปหาจวนซื่อจื่อ เห็นหยุนถิง จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวังให้นางฟัง
สีหน้าหยุนถิงเย็นชา นางคิดไม่ถึงว่าหยุนหลีจะยังไม่ตายใจถึงเพียงนี้ สามารถหลบสายตาคนของจวนซื่อจื่อ เปลี่ยนสวมชุดผู้ชายแล้วเข้าวัง คิดถึงความผิดปกติของนางเมื่อกี้ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า หยุนหลิงจะต้องอยากไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ กราบทูลฮ่องเต้เรื่องที่นางแกล้งหมดสติ
เห็นที นางใจดีกับหยุนหลิงเกินไป
ยังไม่รอให้หยุนถิงได้พูดอะไร สีหน้าหยุนเฉิงเซี่ยงก็เยือกเย็นลง พร้อมพูดขึ้นว่า “หลิงเอ๋อร์ไปทำอะไรในวัง?”
“พี่รองคงไม่ได้เข้าวังไปฟ้องว่า พี่ใหญ่ไม่ได้หมดสติหรือเปล่า?” หยุนซูพูดขึ้นมา
คำพูดประโยคเดียว บรรยากาศภายในห้องต่ำลงทันที
“พี่รองทำแบบนี้ได้อย่างไร พี่ใหญ่ช่วยนางขนาดนี้ ทำไมนางถึงอยากทำร้ายพี่ใหญ่ เนรคุณมากเลย ข้าจะกลับไปสั่งสอนนางแทนพี่ใหญ่เดี๋ยวนี้” หยุนหลีโมโหขึ้นมา พูดว่าไปก็จะไป
“ตอนนี้นางหมดสติไม่ฟื้น เจ้าไม่ต้องลงมือ” โม่เหลิ่งเหยียนพูดขึ้นมา
“ใช่” หยุนหลีค่อยได้สติกลับมา เดินไปตบบ่าโม่เหลิ่งเหยียนอย่างแมนๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ซวนอ๋องใช้ได้จริงๆ ช่วยพี่ใหญ่ขนาดนี้ ขอบใจนะ”
ทุกคนต่างตกตะลึง ซวนอ๋องโด่งดังในเรื่องโหดเหี้ยมอำมหิต ถูกขนานนามว่าเป็นมัจจุราชที่น่ากลัว ยิ่งเป็นคนรักความสะอาดเหมือนกับจวินหย่วนโยว ไม่เคยให้ผู้หญิงเข้าใกล้ประชิดตัว นอกจากหยุนถิง
เวลานี้หยุนหลีกลับตบบ่าซวนอ๋อง ทำให้ทุกคนตกใจอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...