จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 464

แคว้นชางเยว่

จากการขนส่งหนึ่งเดือน ในที่สุด “ศพ” ของชางหลันเย่ ก็นำมาส่งถึงพระราชวังแคว้นชางเยว่

ภายในท้องพระโรงพระราชวังตอนนี้ ฮ่องเต้กับพวกเหล่าขุนนางต่างรวมตัวกันท้องพระโรง มองดูโลงศพที่แคว้นต้าเยียนนำส่งมา สีหน้าทุกคนเคร่งขรึม

สีหน้าฮ่องเต้ชางสู้ฉิงเคร่งเครียด ค่อยๆเดินไปยังโลงศพ มองดูชางหลันเย่ที่หลับตาสนิทอยู่ในนั้น อย่างเจ็บปวดใจ

“เย่เอ๋อร์ เย่เอ๋อร์ของข้าโตขนาดนี้แล้ว หลายปีมานี้ข้ารอคอยให้ครบกำหนดสิบปีมาตลอด กลับคิดไม่ถึงว่า สิ่งที่ได้กลับมาคือศพของเจ้า เย่เอ๋อร์.....” ฮ่องเต้เจ็บปวดอย่างมาก ดวงตาแดงไปหมด

“เสด็จพ่อ ขอแสดงความเสียใจด้วย เสด็จพี่ไท่จื่อที่อยู่บนสวรรค์ก็คาดหวังให้ท่านรักษาสุขภาพให้ดี” องค์ชายรองชางเยว่หมิงพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง ในใจกลับรู้สึกพอใจมาก

ดีมากเลย ในที่สุดชางหลันเย่ก็ตายแล้ว ต่อไปแคว้นชางเยว่ก็เป็นของเขาแล้ว

“เสด็จพ่อ เสด็จพี่ไท่จื่อตายเสียแบบนี้แล้วหรือ พวกเราจะต้องแก้แค้นให้กับเสด็จพี่ไท่จื่อ” องค์ชายห้าซางหวูโยวพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ

“หุบปาก เสด็จพี่ไท่จื่อเกิดเรื่องในแคว้นต้าเยียน แคว้นต้าเยียนได้จับตัวคนร้ายส่งมาแล้ว เจ้าพูดแบบนี้ เพราะคิดอยากให้ทั้งสองแคว้นต่อสู้กันหรือ?” ชางเยว่หมิงพูดตำหนิ

“แต่เสด็จพี่ไท่จื่อ ตายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ น่าสงสารมากเลย” ซางหวูโยวเพิ่งอายุสิบสอง ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง ไม่รู้จึงความร้ายแรงที่แอบแฝง

“น้องห้าอย่าเสียมารยาท เรื่องของเสด็จพี่ไท่จื่อ เสด็จพ่อกับเสด็จพี่รองจะจัดการเอง” องค์ชายสามพูดกล่อม

“พวกเจ้าไม่รู้สึกแปลกหรือ จากแคว้นต้าเยียนมาถึงแคว้นชางเยว่ ปกติรถม้าวิ่งประมาณหนึ่งเดือนกว่าใช่ไหม ศพของไท่จื่อกลับยังสมบูรณ์ น่าแปลกประหลาดมากเลย” องค์ชายสี่มองพิจารณาชางหลันเย่ที่อยู่ในโลงอย่างแปลกใจ

เมื่อพูดขึ้นมาเช่นนี้ ทุกคนต่างให้ความสนใจ ต่างพากันหันมามอง

“ฮ่องเต้แคว้นต้าเยียนเขียนจดหมายมาบอกว่า ใช้หยกน้ำแข็งพันปีรักษาสภาพศพของเย่เอ๋อร์ไว้” ฮ่องเต้พูดตอบ

“ฮ่องเต้ ไท่จื่อไปเป็นตัวประกันที่แคว้นต้าเยียนเพื่อแคว้นชางเยว่เพียงลำพังสิบปี ความเสียสละนี้น่าภาคภูมิใจอย่างมาก ขอฮ่องเต้ทรงอวยพระพรไท่จื่อ” เฉิงเซี่ยงฝ่ายซ้ายพูดขึ้นมา

ขุนนางคนอื่นๆต่างเห็นด้วย ยังไงตอนนั้นแคว้นชางเยว่ไม่สามารถที่จะรับมือต้านทานการรุกล้ำของแคว้นต้าเยียนได้ จึงจำต้องส่งชางหลันเย่ที่เพิ่งอายุเพียงสิบขวบ ไปเป็นตัวประกันที่แคว้นต้าเยียน แลกกับความสงบสุขของแคว้นชางเยว่

ต่อมาแคว้นชางเยว่รวบรวมกำลังสรรพาวุธ ฝึกซ้อมทหาร เพิ่มความแข็งแกร่งของชาติ มีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ จะได้ไม่ถูกแคว้นต้าเยียนกดขี่

ฮ่องเต้เจ็บปวดอย่างมาก เขารู้สึกต่อชางหลันเย่มาตลอด

“ไท่จื่อยินยอมไปเป็นตัวประกัน เพื่อความสงบสุขของแคว้นชางเยว่ เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ข้าจะลงโทษนักฆ่าให้หนัก เพื่อแก้แค้นให้กับไท่จื่อ และข้าก็จะแต่งตั้งให้ไท่จื่อเป็นอ๋องจงหย่ง สถานะอันดับหนึ่ง ประทานจวนจงหย่ง ประทานสุสานประจำองค์ชาย ฝังไว้ในสุสานของจักรพรรดิ พิธีกรรมให้เป็นไปตามงานศพของจักรพรรดิ” ฮ่องเต้พูดสั่ง

(จงหย่ง แปลว่าจงรักภักดี)

ประโยคเดียว สะเทือนไปทั่วทั้งท้องพระโรง

ไท่จื่อเป็นคนแรกของแคว้นชางเยว่ ที่ได้รับแต่งตั้งให้ไเป็นทั้งไท่จื่อและท่านอ๋อง เท่ากับว่าถ้าไท่จื่อยังมีชีวิตอยู่ จะต้องได้สืบบัลลังก์ต่อไป

ชางเยว่หมิงโกรธโมโหจนสีหน้าดำมืด อ๋องจงหย่งแล้วยังไง ยังไงก็แค่ศพ ไปเป็นอ๋องในนรกเถอะ

องค์ชายสี่ที่อยู่ด้านข้าง กำลังพยายามล้วงปากชางหลันเย่ หยกน้ำแข็งพันปีนั้นหาได้ยากมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังรักษาสภาพศพได้เป็นเดือน องค์ชายสี่แปลกใจอย่างมาก

แต่เมื่อเขาล้วงปากชางหลันเย่ ในขณะที่กำลังล้วงอยู่ จู่ๆร่างกายชางหลันเย่ก็ลืมตาขึ้นมา

สายตาเฉียบคม เด็ดเดี่ยว ราวกับคมดาบ องค์ชายสี่ตกใจแทบแย่

“อ้าก ศพกระตุก ไท่จื่อลืมตาแล้ว เสด็จพ่อไท่จื่อลืมตาแล้ว” องค์ชายสี่ร้องตะโกนโวยวาย ตกใจจนสีหน้าขาวซีด พร้อมลงกองลงบนพื้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ