“จวินซื่อจื่อไม่ต้องโกรธ ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด องค์หญิงใหญ่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย ไม่ง่ายกว่าทุกคนจะได้มารวมตัวกันในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดขององค์หญิงใหญ่ ทุกคนไม่ต้องถือสากับเรื่องเล็กพวกนี้ มา ข้าเคารพองค์หญิงใหญ่หนึ่งแก้ว” ฮูหยินผิงปั๋วโหวพูดขึ้นมา แก้วขึ้นมาแล้วก็ดื่มไปจนหมด
“ไม่ผิด ไม่ง่ายที่ทุกคนมาร่วมอวยพรวันเกิดให้กับข้า ข้ายินดีอย่างยิ่ง หากใครกล้าก่อเรื่อง ข้าจะไม่ให้อภัย องค์หญิงใหญ่ ยกแก้วขึ้นมาแล้วก็ดื่มจนหมด”
เมื่อคนอื่นเห็นแล้ว ต่างก็มาชนแก้ว เรื่องวุ่นวายก็จบลงเพียงเท่านี้
หยุนถิงก็ไม่ถือสา ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นมาว่า “ซื่อจื่อ ข้าอยากกินองุ่น”
“ได้ ข้าช่วยปอกเปลือกให้เจ้า” จวินหย่วนโยวเอื้อมมือไปช่วยนางปอกเปลือกองุ่น จากก็ป้อนใส่ปากหยุนถิง หยุนถิงก็อ้าปากกินเข้าไป
ทั้งสองคนไม่สนใจใคร คนหนึ่งก็ปอกเปลือกอยู่อย่างตั้งใจ คนหนึ่งก็กินอยู่อย่างเอร็ดอร่อย พอดรักกันให้คนอื่นอิจฉา
โม่เหลิ่งเหยียนเห็นองุ่นบนโต๊ะของพวกเขาเหลือน้อยแล้ว จึงยื่นจานบนโต๊ะของตนเองไปให้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ชอบกิน ยกให้เจ้า”
“ขอบคุณ” หยุนถิงเอื้อมมือจะไปรับมา
จวินหย่วนโยวกลับคว้าจับมือหยุนถิงไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อเฟยอยากกิน ก็ให้คนเอามาให้ใหม่ ไม่รบกวนซวนอ๋อง”
ทำดีหวังผล เขาไม่ลืมว่าโม่เหลิ่งเหยียนช่วยโอกาสตอนที่ตนเองไม่อยู่ โผล่หน้ามาหาหยุนถิงอยู่บ่อยครั้ง
โม่เหลิ่งเหยียนก็ไม่โกรธ มือที่ถือจานอยู่ก็เอากลับมา
“ถึงว่าคนอื่นต่างร่ำลือกันว่าซวนอ๋องรู้สึกกับคุณหนูหยุนอย่างไม่ธรรมดา วันนี้เห็นแล้วก็แทบไม่อยากเชื่อ ต่อหน้าจวินซื่อจื่อคุณหนูหยุนยังปฏิบัติต่อซวนอ๋องแบบนี้ คนไม่รู้ยังจะคิดว่าพวกเจ้าแอบคิดอะไรต่อกัน” ฮูหยินกั๋วโก๋ที่อยู่ตรงข้ามพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
เพิ่งพูดเสร็จ สีหน้าโม่เหลิ่งเหยียนก็เยือกเย็นลง จานในมือก็บินลอยออกไป
ส่วนสีหน้าจวินหย่วนโยวก็ยิ่งเยือกเย็น ดวงตาดำหันไปมองตรงข้ามอย่างเฉียบคม พร้อมฟาดฝ่ามือโจมตีไปอย่างรุนแรง
“อ้าก” เสียงฮูหยินกั๋วโก๋ร้องเรียกขึ้นมา ทั้งคนพร้อมโต๊ะตรงหน้า ยังมีอาหารผลไม้บนโต๊ะล้วนถูกตบลอยกระเด็นออกไป
ทุกคนมองอยู่อย่างตกตะลึง ตกใจจนสีหน้าขาวซีด ล้วนต่างหลบไปอยู่ด้านข้าง กลัวว่าตนเองจะโดนลูกหลงไปด้วย
ฮูหยินกั๋วโก๋กระเด็นลอยไปหลายเมตร กระแทกโดนเสาหินในลาน กระอักออกมาเป็นเลือดแล้วหมดสติไปทันที ขยับเขยื้อนไม่ได้
“ซื่อจื่อเฟยของข้า ใครก็ห้ามดูถูกเหยียดหยาม หากใครกล้าพูดถึงเรื่องแบบนี้อีก ข้าจะให้คนคนนั้นต้องตายทั้งเป็น” จวินหย่วนโยวพูดขึ้นมาอย่างโกรธโมโห
“ข้ากับหยุนถิง เป็นแค่เพียงเพื่อนกัน หากใครกล้าพูดขึ้นมาเอง ข้าจะทำให้นางเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้” โม่เหลิ่งเหยียนพูดเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จวินซื่อจื่อบวกกับซวนอ๋อง เท่ากับเป็นมัจจุราชกับอสูรร้าย ไม่ว่าใครคนไหนก็ไม่สามารถล่วงเกินได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตั้งสองคน
นอกเสียจากตนเองไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ค่อยกล้ามีเรื่องกับสองคนนี้
ทุกคนต่างกลืนน้ำลายลงคอ โชคดีที่ตนเองไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ฮูหยินกั๋วโก๋คนนี้ โง่เง่าอย่างที่สุด นี่ไม่เป็นการดนหาที่ตายหรือ
บรรยากาศภายในงานเลี้ยงต่ำลงเป็นศูนย์ ทุกคนแทบไม่กล้าหายใจ กลัวว่าตนเองเดือดร้อน
โม่ฉือชิงที่ปกติไม่เกรงกลัวอะไร มือที่ถือจอกเหล้าไว้ก็ยังสั่นเทา สองคนนี้โกรธโมโห เขาไม่ได้อยากเป็นเถ้าถ่าน
องค์หญิงใหญ่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลัก เหลือบมองดูทั้งสองคน แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “จวินซื่อจื่อกับซวนอ๋อง อย่าได้ถือสานางที่เป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง นางกำนัล พาตัวฮูหยินกั๋วโก๋ออกไป”
“เพคะ” นางกำนัลสองคนเดินมา หิ้วตัวฮูหยินกั๋วโก๋แล้วพาออกไป
“องค์หญิงใหญ่โปรดอภัย ซื่อจื่อข้าแค่เป็นห่วงข้าเกินไป ดังนั้นจึงทำเช่นนี้” หยุนถิงพูดขึ้นมา
“ไม่เป็นไร จวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยรักกันอย่างลึกซึ้งขนาดนี้ ข้าเห็นแล้วก็ซึ้งใจ รักแท้นั้นหายากในโลก การที่คนสองคนรักใคร่กันนั้นเป็นสี่สำคัญที่สุด และหายากจริงๆ” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...