จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 48

สรุปบท บทที่ 48 หลงเอ้อใช้อำนาจสั่งสอนยัยเด็กใสซื่อแต่ซ่อนร้าย: จอมนางข้ามพิภพ

สรุปเนื้อหา บทที่ 48 หลงเอ้อใช้อำนาจสั่งสอนยัยเด็กใสซื่อแต่ซ่อนร้าย – จอมนางข้ามพิภพ โดย Anonymous

บท บทที่ 48 หลงเอ้อใช้อำนาจสั่งสอนยัยเด็กใสซื่อแต่ซ่อนร้าย ของ จอมนางข้ามพิภพ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anonymous อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“แม่นางหยุน ช่วงสองสามวันมานี้ข้าทำตามที่เจ้ากำชับทุกอย่าง รับประทานยาตรงตามเวลาทุกวัน รู้สึกว่าใบหน้าของข้ามิได้คันเยี่ยงเมื่อก่อนแล้ว” ซูชิงโยวเอ่ย

“ยาที่ข้าให้เจ้าไปคือยาลดการอักเสบ และค่อย ๆ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและฆ่าเชื้อจนหายดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับเจ้าได้เปลี่ยนสิ่งของเครื่องใช้ใหม่ทั้งหมดภายในห้อง จึงมิมีเชื้อโรคหลงเหลืออีก เดี๋ยวก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ” หยุนถิงกล่าวพลางก็ล้วงกระเป๋าหยิบขวดยาออกมา

“เช่นนั้นใบหน้าของลูกสาวข้า จะสามารถหายเป็นปกติได้ใช่หรือไม่? ” ซูโหวเย่ถามอย่าง

“ได้แน่นอน แต่อาจจะยังต้องใช้เวลา”

“เยี่ยมจริง ๆ ดีมากเลย” ซูโหวเย่รู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่ง

“อีกประเดี๋ยวข้าจะใช้เข็มเงินทิ่มตุ่มหนองบนใบหน้าให้เจ้า เพื่อบีบให้น้ำหนองข้างในไหลออกมา อาจจะเจ็บสักหน่อย แต่มีเพียงแค่วิธีเท่านั้นจึงจะสามารถกำจัดเชื้อโรคบนใบหน้าให้ออกจนหมดสิ้นได้” หยุนถิงกล่าว

“ข้ามิกลัวเจ็บหรอก เจ้าลงมือเถอะ ขอเพียงแค่สามารถรักษาใบหน้าข้าได้ มิว่าอันใดข้าก็มิกลัว” ซูชิงโยวสีหน้าเอาจริงเอาจัง

“ได้” หยุนถิงหยิบเข็มเงินออกมา แล้วใช้สำลีฆ่าเชื้อเช็ดโดยรอบ จากนั้นจึงช่วยนางเจาะตุ่มหนอง

“อ้า!” ซูชิงโยวส่งเสียงหวีดร้อง

แผลบนผิวหนังเน่าพุพองแล้ว เพียงแค่จิ้มเบา ๆ ก็เจ็บแทบจะขาดใจ

ซูโหวเย่ได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกหายใจมิทั่วท้องทันที “แม่นางหยุน เจ้ารักษาได้จริง ๆ ใช่หรือไม่ เหตุใดลูกสาวข้าถึงได้เจ็บปวดเยี่ยงนี้เล่า เมื่อครู่มิใช่บอกว่าเจ็บเพียงนิดเดียวหรอกหรือ?”

หยุนถิงขมวดคิ้ว “หลงเอ้อ ช่วยเชิญโหวเย่ออกไปข้างนอกก่อน เขาอยู่ในนี้ก็กีดขวางข้าเปล่า ๆ ”

“ทราบ” หลงเอ้อแสดงท่าทางเชิญให้เขาออกไป

ซูโหวเย่มิยอมออกไป “ข้าจะอยู่ที่นี่ ข้าจะมิปริปากพูด”

“ท่านพ่อออกไปก่อนเถิด หรือว่าท่านมิอยากให้ใบหน้าข้าหายดีใช่หรือไม่?” ซูชิงโยวถามย้อน

“เช่นนั้นก็ได้ พ่อจะไปรออยู่ด้านนอกประตู หากมีเรื่องอันใดจำเป็นละก็พ่อจะให้คนไปจัดการ” ซูโหวเย่กล่าวจบจึงเดินออกไปอย่างกังวลใจ

“หลงเอ้อ เฝ้าหน้าประตูไว้ มิว่าใครก็มิอนุญาตให้เข้ามาเป็นอันขาด” หยุนถิงกำชับ

“ทราบ”

หลงเอ้อจึงเดินตามออกไป แล้วปิดประตูยืนเฝ้าราวกับเจ้าที่ก็มิปาน

หลังจากนั้นเสียงหวีดร้องที่ออกมาจากภายในห้องจึงทำให้ซูโหวเย่ที่ยืนฟังอยู่นั้นรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก “เเม่นางหยุนจะเบามือลงสักหน่อยมิได้เชียวหรือ นั่นมันลูกสาวข้าเชียวนะ หรือว่าข้าจะเข้าไปดูอีกสักหน่อย?”

“นายหญิงบอกไว้ว่ามิว่าใครก็มิอนุญาตให้เข้าไป” หลงเอ้อสีหน้าเอาจริงเอาจัง ยืนขวางตรงหน้าเขา

ซูโหวเย่หน้างิ่วคิ้วขมวด ถึงจะโกรธแต่ก็มิกล้าแสดงออกมา เพราะเบื้องหน้าคือองครักษ์เงามังกร ฝีมือเป็นรองจากหลงอ้อ ต่อให้เพิ่มความกล้าหาญให้เขาอีกสักร้อยเท่าเขาก็มิกล้าเหิมเกริมกับหลงเอ้อ

“เอาเถอะ เช่นนั้นข้าจะรอแล้วกัน”

ด้านนอกตำหนัก มีคนเข้ามาสองคนโดยคนแรกคือลูกสาวคนรองของตระกูลซูนามว่าซูซินโหรว และหญิงรับใช้เดินตามหลังนางมา

“ท่านพ่อ เหตุใดจึงยืนอยู่ตรงนอกประตูเล่า ได้ยินมาว่าวันนี้แม่นางหยุนจะมารักษาใบหน้าให้กับพี่หญิงใหญ่ ทุกคนเป็นเยี่ยงไรบ้างรักษาเสร็จแล้วหรือไม่?” ซูซินโหรวถามด้วยความเป็นห่วง

“จะรวดเร็วขนาดนั้นได้เยี่ยงไรเล่า ตอนนี้แม่นางหยุนกำลังช่วยพี่สาวเจ้าเจาะตุ่มหนอง” ซูโหวเย่ตอบ

“คงจะเจ็บมากน่าดู ท่านพ่อข้าขอเข้าไปดูได้หรือไม่ ตั้งแต่เด็กจนโตพี่หญิงใหญ่หาได้เคยต้องทนทุกข์ทรมานไม่ ความเจ็บปวดขนาดนั้นนางจะทนได้เยี่ยงไรกัน?” ซูซินโหรวมีความสัมพันธ์รักใคร่อย่างเหนียวแน่นระหว่างพี่น้อง จึงอยากจะเข้าไปดู

แต่กลับโดนหลงเอ้อที่ยืนอยู่หน้าประตูสกัดกั้นเอาไว้ “แม่นางซูรออยู่ตรงนี้เถิด”

“เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงมาห้ามข้ามิให้ข้าเข้าไปดูพี่หญิงใหญ่ นางเป็นถึงบุตรสาวของตระกูลซูเชียวนะ หาเกิดเหตุพลาดพลั้งอันใดขึ้นกับนางละก็ท่านพ่อข้าคงจะไม่ไว้ชีวิตเจ้าเป็นแน่” ซูซินโหรวจ้องเขม็งด้วยความโกรธ

หลงเอ้อที่ยืนอยู่ด้านข้างก็มิอาจทนดูได้อีกต่อไปแล้ว จึงง้างดาบที่อยู่ในมือจ่อตรงบนคอของซูซินโหรวทันที

“หากเจ้ายังกล้ากล่าววาจาใส่ร้ายนายหญิงของพวกเราอีก ข้าจะกุดหัวเจ้าให้ร่วงหล่นพื้นเสียตอนนี้”

ดูเรียบง่ายแต่ป่าเถื่อน เยือกเย็นแต่ใช้อำนาจ

ซูซินโหรวจึงตกสั่นขวัญหายในทันที ใบหน้าซีดเผือด หวาดกลัวจนหันไปมองขอความช่วยเหลือจากบิดาของตน

“หลงเอ้อได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิด นางเป็นเด็กสาวที่มุทะลุไปสักหน่อยเป็นเพราะข้าอบรมสั่งสอนมิดี ข้าจะให้นางออกไปจากตรงนี้ทันที แล้วมิอนุญาตให้นางเข้ามารบกวนอีกเป็นอันขาด” ซูโหวเย่เร่งขอโทษขอโพย

“คิดจะหนีไปอย่าง ง่าย ๆ งั้นหรือ นายหญิงของข้าถือว่าเป็นดวงใจของซื่อจื่อ และเป็นที่เคารพนับถือกันในจวนซื่อจื่อ แต่จู่ ๆ กลับมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเคลือบแคลงในตัวนาง เจ้าถือดีมาจากไหนถึงได้กล้าเยี่ยงนี้ ขอเพียงแค่นายหญิงเอ่ยมาประโยคเดียว ตระกูลซูของพวกเจ้าก็ราบเป็นหน้ากลอง ครั้งนี้คิดจะหนีหรือ ช้าไปเสียแล้ว” หลงเอ้อกล่าวอย่างมิพอใจ

ซูซินโหรวหวาดกลัวจนคุกเข่าเสียงฟุบลงไปกับพื้น สั่นเทาไปทั่วร่าง ขณะที่เพิ่งจะร้องขอชีวิตนั้น สายตาอันจดจำความแค้นของหลงเอ้อก็จ้องตรงมา นางจึงมิกล้าเอ่ยอีกแม้แต่คำเดียว

ซุโหวเย่เองก็ตกใจกลัวจนเกือบจะคุกเข่าลงไปกับพื้น โชคดีพ่อบ้านที่ยืนอยู่ด้านข้างประคองเขาไว้ “โหวเย่ ระวัง”

ซูโหวเย่กลัวจนอกสั่นขวัญแขวน เดิมทีเพียงต้องการอยากให้แม่นางหยุนช่วยรักษาใบหน้าของลูกสาวตน ใครจะไปคาดคิดมาก่อนว่าจะลงเอยเช่นนี้ได้ และตนก็มิได้หาเรื่องใส่ตัวใช่หรือไม่

ซูโหวเย่จ้องเขม็งซูซินโหรวที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยความโกรธ ก่อนที่จะตบนางถึงสองตีจนหน้าหัน ทันใดนั้นก็ปรากฏเป็นรอยนิ้วมือทั้งสิบอย่างบวมแดงอยู่บนใบหน้าซูซินโหรว เจ็บปวดจนชาไปทั่วใบหน้า แต่นางหาได้สำนึกผิดไม่

“ท่านพ่อ คาดมิถึงเลยว่าท่านจะตบข้าได้ลงคอ?”

“ข้าต้องตบสั่งสอนเจ้า และต้องโทษตัวข้าเองที่ตามใจเจ้าจนเคยตัว และทำให้เจ้ากลายเป็นคนมิรู้จักมารยาทถึงเพียงนี้ แม่นางหยุนหาใช่คนที่เจ้าต้องสงสัยเคลือบแคลงใจไม่ เจ้าทำให้ตระกูลซูของพวกเราต้องอับอาย ถ้าหากว่าใต้เท้าหลงเอ้อต้องการทำลายตระกูลของเราให้ราบเป็นหน้ากลองจริง ๆ ละก็ เช่นนั้นตราบาปก็จะติดตัวเจ้าไปตลอดกาล” ซูโหวเย่ดุด้วยความโกรธ

“ท่านพ่อ ข้าผิดไปแล้ว ข้าสำนักในความผิดแล้วจริง ๆ ต่อแต่นี้ไปข้าจะมิกล้าทำอีกแล้ว ได้โปรดให้อภัยข้าด้วยเถิด” ซูซินโหรวเร่งขอให้บิดายกโทษตน

“เจ้ามาขอให้ข้ายกโทษให้แล้วจะมีประโยชน์อันใดกัน เจ้าต้องไปขอความเมตตากับใต้เท้าหลงเอ้อสิ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ