จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 488

ได้ยินเสียงมีดดาบฟันกันนอกช่องทางลับ แถมยังมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เสียงร้องโหยหวน มู่เซียวเซียวสีหน้าเย็นชา ไม่มีความเห็นอกเห็นใจหรือสงสารเลยสักนิด

พอมู่เซียวเซียวออกมาจากช่องทางลับ ก็มาถึงไหล่เขาของด้านหลังเขาแล้ว หันหน้ามองไปตรงหอเทพเซียนที่อยู่ไกล ๆ ก็ได้กลายเป็นเปลวเพลิงไปทั้งหมดแล้ว

เปลวเพลิงที่ร้อนแรงเผาไหม้ไป จนทำให้ท้องฟ้าแดงไปเกือบครึ่ง หอเทพเซียนที่ดำรงอยู่มาเป็นร้อยปีก็จบสิ้นไปแบบนี้เลย

มู่เซียวเซียวโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว ตกลงเป็นใครกันนะที่เข้ามาฆ่าคนในหอเทพเซียนได้อย่างไม่มีสุ้มไม่มีเสียงแบบนี้?

ต่อไปนางจะไม่ใช่คุณหนูใหญ่แห่งหอเทพเซียนอีกต่อไปแล้ว จะไม่ถูกคนเคารพนับถืออีกต่อไปแล้ว พอคิดมาถึงตรงนี้สีหน้าของมู่เซียวเซียวก็ยิ่งขาวซีดขึ้นมาหลายเท่า ความแค้นนี้ยังไงนางก็ต้องสะสางให้ได้

นางมองไปที่ห้องของซ่างกวนหรู เปลวไฟสูงเสียดฟ้า ไม่มีความรู้สึกผิดหรือละอายใจเลยสักนิด บนใบหน้ากลับมีแววสมน้ำหน้าและซะใจอยู่

ตั้งแต่เด็กคนที่ท่านพ่อรัก และตามใจที่สุดก็คือว่านว่าน ไม่ว่านางจะก่อเรื่องใหญ่แค่ไหน ทำผิดอะไรมา ท่านพ่อก็มักจะช่วยแก้ปัญหาให้นาง อย่างมากก็แค่ตำหนิไม่กี่คำ แต่กับนางนั้นมักจะโหดร้ายมาตลอด แค่นางทำอะไรผิดนิดหน่อย ก็มักจะถูกตบตีด่าว่า

มีหลายครั้ง ที่มู่เซียวเซียวรู้สึกอิจฉาว่านว่านมากจริง ๆ นางสามารถทำเรื่องทุกอย่างที่ตัวเองอยากทำได้ นางสามารถทำตามใจทุกอย่างที่ต้องการได้ แต่กลับกันนางกลับต้องมาแบกรับภาระหนักอึ้งทุกอย่างของหอเทพเซียนเอาไว้

เป็นลูกสาวเหมือนกัน ทำไมท่านพ่อต้องใจดำ โหดร้าย และไม่มีเยื่อใยกับตัวเองขนาดนี้ แต่กลับรักใคร่ว่านว่านแบบนั้น

นี่ก็คือท่านพ่อที่รักว่านว่านขนาดนั้น แต่กลับยอมปล่อยว่านว่านไปเพราะผลประโยชน์และหน้าตา ตั้งแต่วินาทีนั้นมู่เซียวเซียวก็รู้แล้วว่า ในสายตาท่านพ่อ หอเทพเซียนกับหน้าตานั้นสำคัญกว่าทุกสิ่ง ถึงแม้จะเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองก็ตาม

เขายังสามารถปฏิบัติกับว่านว่านแบบนั้นได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเองเลย

ดังนั้นเมื่อกี้ทั้ง ๆ ที่มู่เซียวเซียวมีโอกาสที่จะไปส่งข่าวได้ แต่นางก็ไม่ทำ เมื่อเทียบกับการถูกท่านพ่อละทิ้งหรือทอดทิ้งอย่างหมากตัวหนึ่งในอนาคต ไม่สู้ลงมือก่อนเป็นผู้เหลือกว่าดีกว่า

ในเมื่อเขาใส่ใจซ่างกวนหรูเช่นนี้ ทั้งสองคนไปเป็นเพื่อนร่วมทางในปรโลกก็ดีเหมือนกัน

สายตาของมู่เซียวเซียวเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง หมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

ในหอเทพเซียน

มู่เทียนบากับซ่างกวนหรูยังคงนอนหลับสนิทอยู่ ก็ได้ยินด้านนอกมีเสียงความเคลื่อนไหว ในอากาศยังมีกลิ่นเผาไหม้อีกด้วย มู่เทียนบาสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา แล้วก็รีบลุกขึ้นมา

เพียงแต่ว่าเขายังไม่ทันได้ออกนอกประตู เป่ยหมิงฉี่ที่อยู่ด้านนอกก็พาลูกน้องหลายคนฝ่าเข้ามาแล้ว

“พวกเจ้าเป็นใครกัน ถึงกล้าฝ่าเข้ามาในหอเทพเซียน?” มู่เทียนบาพูดเสียงเย็นขึ้นมา ยกมือขึ้นมาก็สาดพิษออกไปเลย

เป่ยหมิงฉี่มองมู่เทียนบาทะลุปรุโปร่งตั้งนานแล้ว เขายังไม่ทันได้ยื่นมือออกมา กระบี่ยาวในมือเป่ยหมิงฉี่ก็ฟันลงไปอย่างรุนแรงเลย

“อ๊าก!” ได้ยินแค่เสียงร้องโหยหวนของมู่เทียนบาคำหนึ่ง มือข้างที่กำพิษอยู่ก็ถูกเป่ยหมิงฉี่ฟันขายไปทันที แขนครึ่งท่อนตกลงไปบนพื้น ความเจ็บปวดสุดหัวใจทำให้สีหน้าของมู่เทียนบาซีดเผือด

“ตกลงพวกเจ้าเป็นใครกัน ถึงกล้ามาทำร้ายข้า?”

“อ๊าก!” ซ่างกวนหรูกรีดร้องออกมาคำหนึ่ง แล้วรีบเอาผ้านวมที่อยู่ด้านข้างมาบดบังร่างกายที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองไว้โดยอัตโนมัติ

พอมองเห็นคนที่บุกเข้ามากะทันหันแล้วก็ฟันแขนท่านเจ้าหอขาดไปข้างหนึ่ง ซ่างกวนหรูก็ตกใจจนใบหน้าขาวซีด

“ซ่างกวนหรู เจ้านี่มีเรื่องสนุกให้ข้าดูจริง ๆ ตอนนั้นเจ้าทำให้เสด็จพ่อหลงใหล จนได้กลายเป็นสนมรักของเขา มาวันนี้กลับมานอนอยู่ใต้ร่างมู่เทียนบา ช่างเป็นผู้หญิงสำส่อน ไร้ยางอายแล้วจริง ๆ!” เป่ยหมิงฉี่พูดขึ้นมาอย่างดูถูก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ