อาวุธที่ทรงพลังขนาดนี้ ฮ่องเต้ย่อมต้องการจะเก็บไว้ครอบครองเองเป็นธรรมดา เพียงแต่หยุนถิงบอกว่านำออกมาเป็นสิริมงคลความโชคดี ใครหาเจอก็ถือว่าเป็นของคนนั้น ฮ่องเต้ย่อมไม่สามารถออกคำสั่งให้ขลุ่ยหยกโลหิตเป็นของตัวเองเป็นธรรมดา
เวลานี้หยุนถิงเสนอแนะเช่นนี้ กลับสอดคล้องกับความต้องการของฮ่องเต้พอดี
“เช่นนี้ ก็ให้หยุนไห่เทียนเข้าร่วมเถอะ!” ฮ่องเต้ตรัสอย่างราบเรียบ
“ฝ่าบาททรงปรีชาญาณ!” หยุนถิงคำนับด้วยความเคารพนบนอบ
องครักษ์นายหนึ่งรีบไปแจ้งต่อหยุนไห่เทียนทันที ได้ยินว่าฝ่าบาทให้เขาเข้าร่วมด้วย หยุนไห่เทียนย่อมน้อมรับพระบัญชาอยู่แล้ว ทิ้งบรรดาทหารปกป้องความปลอดภัยของฝ่าบาท นำทหารไปค้นหาเพียงสี่นายเท่านั้น
เดิมทีซูชิงโยวอยู่กลุ่มเดียวกับจ้าวเคอและคนอื่นๆ เมื่อเห็นหยุนไห่เทียนนำทหารมาจริงๆ ซูชิงโยวรีบเอ่ยปากทันที “ จ้าวเคอ เจ้าไปก่อนเถอะ”
ก่อนหน้านี้หยุนถิงก็อธิบายต่อจ้าวเคอไปสองสามคำ ให้เขาดูแลซูชิงโยว เมื่อเห็นแม่ทัพหยุนที่อยู่ไม่ไกลออกไปกำลังเดินมาทางนี้ จ้าวเคอก็เข้าใจความหมายทันที
“ตกลง เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย ข้าอยู่ข้างหน้าไม่ไกลออกไป ถ้าหากมีเรื่องอะไรก็เรียกข้าเลย!” จ้าวเคอกล่าวจบก็รีบจากไปทันที เขาไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอหรอกนะ
หยุนไห่เทียนกำลังเดินมาทางนี้ ก็เห็นซูชิงโยวถือโคมไฟอยู่คนเดียว ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณหนูซู ทำไมเจ้าถึงอยู่คนเดียว?”
“ข้าเดินพลัดหลงกับจ้าวเคอ ในป่ามันใหญ่เกินไป ตอนกลางคืนข้าหาเขาไม่เจอ” ซูชิงโยวกล่าวอย่างร้อนตัว
นางกลัวว่าหยุนไห่เทียนจะดูออก ก้มหน้าเอาไว้ต่ำมาก อย่างไรเสียก็ริเริ่มเองเช่นนี้ ตัวนางเองก็รู้สึกกระดากอายเช่นกัน
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้คนส่งคุณหนูซูกลับไป?” หยุนไห่เทียนเสนอแนะ
“ไม่ต้องยุ่งยากแล้ว ข้าก็อยากเข้าร่วมเช่นกัน ไม่ใช่ว่าต้องการจะหาของล้ำค่า เพียงแต่ว่าประสบการณ์เช่นนี้หาได้ยากมาก ข้าไม่เคยเข้าร่วมมาก่อน ขอแม่ทัพหยุนโปรดอนุญาตให้ข้าติดตามพวกท่านด้วย” ซูชิงโยวกล่าวด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง
หยุนไห่เทียนก็ปฏิเสธได้ยากเช่นกัน “งั้นเจ้าก็ตามข้าเอาไว้แล้วกัน ป่าในตอนกลางคืนมันมืดเกินไป เจ้าเป็นผู้หญิงเดินคนเดียวมันไม่ปลอดภัย!” หยุนไห่เทียนกล่าว
“ขอบคุณแม่ทัพหยุนมาก!”
ดังนั้นหยุนไห่เทียนจึงพาซูชิงโยวกับทหารสองสามนายเดินเข้าไปในป่าต่อไป จ้าวเคอที่อยู่ไม่ไกลเห็นดังนั้น ก็รู้สึกโล่งใจทันที ถึงได้จากไป
แม่ทัพหยุนอยู่ทั้งคน ไหนเลยจะยังต้องการเขาอีก
ระหว่างทาง หยุนไห่เทียนและคนอื่นๆพบกับคนหลายกลุ่ม ล้วนเป็นกลุ่มคนที่ออกมาตามหาขลุ่ยหยกโลหิตทั้งนั้น หลังจากที่ทักทายกันแล้วพวกเขาก็เดินหน้าต่อไป
หยุนไห่เทียนและคนอื่นๆล้วนเป็นทหาร ทักษะและกำลังทางร่างกายดีเยี่ยม ไม่ช้าก็แซงหน้าคนพวกนั้นไป ซูชิงโยวที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งไหนเลยจะสามารถตามทันได้
นางกำลังเดินอยู่ดีๆ จู่ๆก็ไม่รู้ว่าไปสะดุดอะไรเข้า
“อ๊า!” ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องของซูชิงโยว คนทั้งคนก็ล้มลงไปบนพื้น
หยุนไห่เทียนรีบยื่นมือไปคว้านางเอาไว้ ใช้แรงดึงขึ้นมาโดยไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ ซูชิงโยวก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ซูชิงโยวตัวแข็งทื่อในทันที เมื่อเงยหน้าก็สบตาเข้ากับดวงตาของหยุนไห่เทียนที่ลึกล้ำราวกับทะเลคู่นั้น
ซูชิงโยวรู้สึกเพียงว่าใจเต้นระรัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ลมหายใจก็ประหม่าขึ้นมา
หยุนไห่เทียนก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ มองดูซูชิงโยวที่อยู่ในอ้อมแขน คิ้วและตาที่ประณีต โครงหน้าสะอาดหมดจด นางในเวลานี้แก้มแดงก่ำ ท่ามกลางแสงเทียนจากโคมไฟขององครักษ์ที่อยู่ด้านข้าง มีความเขินอายของหญิงสาวที่งดงามและขี้อายเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
“ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า?” องครักษ์คนหนึ่งเอ่ยปาก
หยุนไห่เทียนถึงได้ตอบสนองกลับมา รีบปล่อยมือที่กอดซูชิงโยว พยุงนางยืนตัวตรงทันที “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ข้าไม่เป็นไร ขอบคุณแม่ทัพหยุนที่ให้ความช่วยเหลือเมื่อครู่นี้!” ซูชิงโยวกล่าวขอบคุณ
“คุณหนูซูไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อไม่เป็นไร เช่นนั้นเราก็ตามหาต่อไป!” หยุนไห่เทียนก็เดินหน้าต่อไป
ทันทีที่ซูชิงโยวก้าวเท้าเดิน จู่ๆใต้เท้าก็มีความเจ็บปวดที่แทงเข้าไปในหัวใจจู่โจมมา เมื่อครู่เท้าคงจะแพลงไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...