“เจ้ารู้สึกเสียใจ อึดอัดใจ ผิดหวังหรือไม่ มีความรู้สึกว่าของล้ำค่าของตนจะโดนผู้อื่นเอาไปหรือไม่?” หมิงจิ่วซางมองมาอย่างอยากรู้เต็มที่
สีหน้าที่เดิมเย็นเยียบของโม่เหลิ่งเหยียนพลันฉาบไปด้วยน้ำแข็งทันที เขาซัดฝ่ามือใส่หมิงจิ่วซางไปอย่างรวดเร็ว
หมิงจิ่วซางรีบหลบ แต่ชุดคลุมยังคงโดนฝ่ามือของโม่เหลิ่งเหยียนทำจนเป็นรู
“เจ้านี่ทำเกินไปกระมัง นี่เป็นชุดคลุมที่ข้าพึ่งทำมาใหม่เลยนะ ใช้คืนให้ข้าเลย!” หมิงจิ่วซางบ่น
“หากมิใช่เพราะเจ้าพูดจาซี้ซั้ว ข้าจะทำเช่นนี้รึ ต่อไปห้ามล้อเล่นเช่นนี้อีก!” โม่เหลิ่งเหยียนหมุนตัวเดินเข้าห้องหนังสือ
หมิงจิ่วซางรีบตามไปทันที “ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ อีกฝ่ายระบุชื่อหยุนหลี เจ้าไม่สนใจจริงรึ?”
“ทำไมข้าต้องสนใจด้วย?”
“มิน่าเจ้าถึงไม่มีเมียมาหลายปี มิรู้เรื่องระหว่างชายหญิงถึงเพียงนี้ ด้วยฐานะเช่นเจ้าเอ่ยปากขอให้ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้ ฝ่าบาทต้องไม่ปฏิเสธแน่”
โม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองเขา “พระราชทานสมรส?”
“เจ้าอยากเห็นนางไปแคว้นเป่ยลี่จริงรึ นั่นน่ะเป็นที่ที่ทุรกันดารนะ?” หมิงจิ่วซางถาม
“ข้าเคยบอกว่าจะแต่งกับหยุนหลีตั้งแต่เมื่อไหร่ เรื่องเช่นนี้ต่อไปอย่าให้ข้าได้ยินอีกเป็นครั้งที่สอง ต่อให้คู่แต่งงานเจริญสัมพันธไมตรีเป็นหยุนหลีจริง หยุนถิงต้องมีหนทางแน่ ข้าไม่ต้องยุ่งดอก” โม่เหลิ่งเหยียนเดินเข้าห้องหนังสือ สะบัดชายเสื้อปิดประตูห้องหนังสือดังปั้ง
หมิงจิ่วซางที่ตามมากำลังจะเข้าไป แต่กลับโดนประตูปิดกระแทกเข้าจมูก เจ็บจนเขาเดือดดาลนัก “อ๊าก เจ็บนะ จมูกข้า โม่เหลิ่งเหยียนเจ้าสารเลว หากให้คนที่อาศัยหน้าตาหากินเช่นข้าต้องเสียโฉม ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
“ตอนนี้การจัดการขนส่งทางทะเลกำลังขาดคน” มีเสียงเย็นชาของโม่เหลิ่งเหยียนลอยออกมาจากในห้อง
“หยุดเลย เจ้าก็รู้ว่าข้าเกลียดน้ำที่สุด ให้ข้าไปทะเล เจ้าอยากให้ข้าตากแดดจนกลายเป็นปลาแดดเดียวรึ ข้ามีธุระ ไปก่อนล่ะ!” หมิงจิ่วซางตัดบทคำพูดของโม่เหลิ่งเหยียน ใช้วิชาตัวเบาหายไปทันที
โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ในห้องสงบลงทันที พอคิดถึงคำพูดหมิงจิ่วซาง มือที่ถือหนังสือออกแรงเล็กน้อย สายตาหม่นหมอง ทำให้คนคาดเดาว่าเขาคิดอะไรไม่ออกเลย
....
แคว้นชางเยว่
กลางดึก ร่างสองร่างปรากฏตัวขึ้นที่จวนองค์ชายสี่ คือชางหลันเย่และเจว๋เฟิง
“ท่านพี่ไท่จื่อ ท่านมาจนได้นะ หากท่านยังไม่มาอีก หยกเย็นนี่ต้องโดนข้าเล่นจนพังแน่” องค์ชายสี่ชางหลัวเจว๋บอก
คนนอกรู้เพียงว่าองค์ชายสี่แห่งแคว้นชางเยว่ไม่สนใจงานราชกิจ เป็นคนดื้อรั้น ชอบค้นคว้าวิจัย ไม่ว่าจะเป็นโบราณวัตถุ หรืออาวุธยา ต่อให้เป็นร่างคนตาย ขอเพียงเขาสนใจขึ้นมา ก็จะค้นคว้าจนถึงที่สุด
ในสายตาคนนอก ชางหลัวเจว๋คือคนบ้า ดังนั้นองค์ชายรองและหยางเฟยเลยไม่เคยเห็นเขาเป็นตัวอันตราย แน่นอนว่าไม่เคยต่อกรกับเขา
แต่ใครเลยจะคิดว่า คนบ้าแบบนี้กลับเป็นคนของไท่จื่อชางหลันเย่
เพียงเพราะตอนเด็ก ชางหลันเย่เคยช่วยเขา
ชางหลันเย่เหล่มองหยกเย็นที่ชางหลัวเจว๋เล่นอยู่ในมือ “ตอนนี้คืนของได้แล้ว!”
ชางหลัวเจว๋รีบยื่นให้อย่างนอบน้อมทันที “ท่านพี่ไท่จื่อ นี่เป็นสมบัติล้ำค่านะ คนที่ให้ของเช่นนี้แก่ท่านต้องสนิทสนมกับท่านกระมัง”
พอคิดถึงหยุนถิง คิ้วงามเย็นชาของชางหลันเย่พลันคลายลงเล็กน้อย “นางดีกับข้าไม่น้อย”
“ไอ้โหย ดูสีหน้าท่านพี่ไท่จื่อสิ ต้องเป็นสตรีแน่กระมัง ไม่แน่อีกไม่นานท่านก็จะมีไท่จื่อเฟยแล้วใช่หรือไม่?” ชางหลัวเจว๋กระเซ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...