โม่เหลิ่งเหยียนกลับก้าวเข้ามาพยุงมือจวินหย่วนโยวเร็วกว่าหนึ่งก้าว “เขามิเป็นไร คงจะขาชาน่ะ”
จวินหย่วนโยวรู้สึกได้ว่าโม่เหลิ่งเหยียนบีบแขนตนแรงมาก เจ็บมาก ใบหน้าเขากลับราบเรียบไม่มีอะไร “ขาชาน่ะ ถิงเอ๋อร์ไม่ต้องกังวลนะ เจ้าไปเปลี่ยนชุดเถอะ” แอบใส่แรง บีบมือโม่เหลิ่งเหยียนกลับไป
หลิงเฟิงกับรั่วจิ่งรีบพุ่งเข้ามา พยุงซื่อจื่อ หลงเอ้อร์ไปเอาเสื้อผ้ามาอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวต่างเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งสะอาดออกมา เพียงแต่จวินหย่วนโยวโดนพยุงออกมา
“เจ้าถอนพิษแล้วมิใช่รึ?” โม่เหลิ่งเหยียนเหล่มองเขา
“ข้าร่างกายอ่อนเพลียมิได้รึ!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น
หยุนถิงเดินเข้ามา “ท่านพี่พึ่งถอนพิษเสร็จ ร่างกายอ่อนเพลียอยู่จริงๆ บำรุงร่างกายสักระยะก็ได้แล้ว”
ถึงปากโม่เหลิ่งเหยียนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ถอนหายใจโล่งอก
พวกจวินหย่วนโยวกลับไป โม่เหลิ่งเหยียนเองก็ตามพวกเขากลับไปเช่นกัน
ในรถม้า
โม่เหลิ่งเหยียนมองจวินหย่วนโยวอย่างเย็นชา “หรือว่าเจ้าไม่คิดอธิบายกับข้าสักหน่อยรึว่า เหตุใดฝ่าบาทถึงถูกพิษ?”
จวินหย่วนโยวขมวดคิ้ว “พิษของฝ่าบาทข้าเป็นคนทำเอง แต่ไม่ใช่ข้าให้คนวางยา เพียงแค่ให้สลับกาเหล้าของฝ่าบาทกับถิงเอ๋อร์เท่านั้นเอง
ชีวิตถิงเอ๋อร์สำคัญกว่าของข้ามากนัก ข้าย่อมไม่อาจให้นางเกิดเรื่องได้ จะให้องค์หญิงใหญ่สบายไปก็ไม่ได้ เลยได้แผนเช่นนี้มา
ขอเพียงเกิดเรื่องกับฝ่าบาท ถึงจะอาศัยเหตุผลนี้มากักขังองค์หญิงใหญ่ได้ ที่ไม่ได้ปรึกษาเจ้าก่อนเพราะกลัวจะหลุดข่าวออกไป ฝ่าบาทไม่มีอันตรายถึงชีวิตหรอก เหล้ากานั้นข้าก็ให้คนผสมน้ำแล้ว!”
“เจ้าคิดว่าข้าจะไปเปิดโปงความลับ?” โมเหลิ่งเหยียนสีหน้าดำทะมึนลงมา
“ไม่ แต่เรื่องนี้ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าก็เดาเรื่องออกแล้วมิใช่รึ!” จวินหย่วนโยวตอบ
“จริงสิซวนอ๋อง ท่านดูออกได้อย่างไร?” หยุนถิงมองมาอย่างแปลกใจ
“ตอนนั้นเจ้ากำลังกระอักเลือดเพราะโดนพิษ ด้วยความเอาใจใส่ของจวินหย่วนโยวที่มีต่อเจ้า ต้องรีบให้หมอหลวงหรือหมอยมบาลมารักษาให้เจ้าแน่ มีหรือจะทนมองเจ้ากระอักเลือดแล้วยังจะให้เจ้าทำการรักษาให้ฝ่าบาทอีก?” โม่เหลิ่งเหยียนย้อนถาม
“ไม่คิดเลยจริงๆว่า คนที่เข้าใจข้ามากที่สุดคือเจ้า!”
“ข้าไม่เห็นอยากเข้าใจเจ้าสักนิด!”
หยุนถิงเห็นพวกเขากัดกันอีกแล้ว ก็หน่ายใจมาก หยิบบทละครออกมาปึกหนึ่งจากในกล่องข้างๆ “ในเมื่อพวกท่านว่างมาก ก็อ่านบทละครเสีย จะได้ทำเสริมพัฒนาการให้ลูกไปด้วยเลย!”
“เสริมพัฒนาการ?” โม่เหลิ่งเหยียนสงสัย
“เจ้าไม่รู้แล้วสิ ถิงเอ๋อร์บอกว่า เวลาลูกอยู่ในท้องแม่ต้องอ่านหนังสือให้เขาฟังมากๆ เล่าเรื่อง ดีดพิณ แบบนี้เด็กจะได้ฟังไปด้วย จะช่วยให้เขามีความสามารถมากมาย!” จวินหย่วนโยวบอกอย่างได้ใจ
โม่เหลิ่งเหยียนทำหน้าหน่ายใจ แต่ในเมื่อหยุนถิงพูดเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ปฏิเสธ
ดังนั้นตลอดทางมา จวินหย่วนโยวกับโม่เหลิ่งเหยียนพวกเขาอ่านกันคนละเล่ม คราวนี้หยุนถิงฟังรื่นหูขึ้นมาก ดีกว่าพวกเขากัดกันมากแล้วล่ะ
……………………….
พระราชวัง
ตำหนักของหลิ่วเฟย นางกำนัลข้างกายออกมารายงาน “เหนียงเหนียง ข้าน้อยได้ยินมาว่าคุณหนูซูและแม่ทัพหยุนหมั้นหมายกันแล้ว หยุนเฉิงเซี่ยงยังไปมอบสินสอดที่ตระกูลซูด้วยตัวเอง ตอนนี้เหลือแค่เลือกวันฤกษ์งามยามดีจัดพิธีแต่งงานเท่านั้นเอง!”
หลิ่วเฟยโกรธจนหน้าเผือดซีด ถ้วยชาในมือหล่นลงพื้นทันที น้ำชากระฉอกกระเด็น ถ้วยแตกละเอียดลงพื้น
“พวกเขาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร แม่ทัพหยุนมิชอบนางมิใช่รึ จะแต่งงานได้อย่างไรกัน เจ้าแน่ใจรึว่าหยุนเฉิงเซี่ยงไปด้วยตัวเอง?” หลิ่วเฟยสีหน้าตกตะลึงและประหลาดใจนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...