ฮ่องเต้ประหลาดใจนัก “ฉินเฟย เจ้าพูดอะไรกับองค์หญิงห้าน่ะ เหตุใดจู่ๆนางก็รับปากเล่า?”
“กราบทูลฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงพูดคำพูดระหว่างสตรีด้วยกันเท่านั้นเอง” ฉินเฟยไม่ได้พูดชัดว่าพูดว่าอะไร
ถึงฮ่องเต้จะสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามต่อ ยังไงองค์หญิงห้ารับปากก็ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นการแต่งงานที่เกิดจากเรื่องอับอายนี้คงจัดการได้ยากแล้ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ องค์หญิงห้าเจ้ากลับไปพักผ่อนก่อน เตรียมตัวแต่งงานซะ ฉินเฟย เรื่องการแต่งงานขององค์หญิงห้าให้เจ้าจัดการ สินสมรสติดตัวเจ้าสาวและพิธีการต่างๆต้องกระทำอย่างเต็มที่!” ฮ่องเต้สั่งการ
“ฝ่าบาทวางใจเถิด หม่อมฉันต้องช่วยองค์หญิงห้าจัดการให้ครบครันแน่!” ฉินเฟยคารวะอย่างนอบน้อม
องค์หญิงห้ากับฉินเฟยถอยออกไป พอทั้งสองคนออกจากห้องทรงพระอักษรแล้วเดินไปด้วยกันได้ช่วงหนึ่ง องค์หญิงห้าเห็นรอบข้างไร้ผู้คน ก็มองฉินเฟยอย่างสงสัย “เหตุใดเจ้าต้องช่วยข้าด้วย?”
“องค์หญิงห้าโดนหยุนถิงเล่นงาน หากออกบวชจริงๆชีวิตนี้ก็ไม่มีทางได้แก้แค้นแล้ว เป็นสตรีเหมือนกัน ข้าเห็นใจท่านนะ
ถึงองค์หญิงเก้าจะมีเรื่องกับอ๋องเก้า แต่แต่งออกไปก็เป็นพระชายาเอกอ๋องเก้า มีอำนาจมีหน้ามีตายังกลัวไม่อาจแก้แค้นหยุนถิงรึ คำโบราณว่าไว้ สิบปีแก้แค้นไม่สาย!” ฉินเฟยตอบ
“ไม่ว่าเจ้าจะทำด้วยจุดมุ่งหมายอะไร สรุปแล้วอย่าได้คิดหลอกใช้ข้า!” องค์หญิงห้าทิ้งไว้หนึ่งคำ ก่อนสะบัดหน้าจากไป
ถึงนางจะไม่รู้ว่า เหตุใดฉินเฟยจึงเห็นใจตน แต่นางพูดถูก หากครึ่งชีวิตที่เหลือต้องสวดมนต์ไหว้พระไปตลอด เช่นนั้นนางก็ไม่มีโอกาสแก้แค้นแล้ว ดังนั้นองค์หญิงห้าจึงยอมรับสัญญาหมั้นหมายนี้ นางไม่เชื่อหรอกว่า ฝีมืออย่างนางจะควบคุมอ๋องเก้าไม่ได้
ระหว่างทางที่ฉินเฟยกลับไป ผ่านตำหนักของเฟิ่งจาวหยี และเห็นเฟิ่งจาวหยีนอนเอนกินขนมอยู่ในสวน ด้านข้างยังมีคนคอยพัดวี รับใช้ เรียกได้ว่าสบายอารมณ์นัก
พอเฟิ่งจาวหยีเงยหน้ามาก็เห็นฉินเฟยที่อยู่นอกสวน ก็เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเริดเชิดหยิ่ง “ฉินเฟย เจ้ามาทำลับๆล่อๆด้านนอกสวนของข้าทำไมกัน?”
“ข้าเพียงแค่ผ่านมา ได้ยินว่าเฟิ่งจาวหยีเข้าคุกหลวงไปแล้วยังออกมาได้ ช่างเก่งกาจเสียจริงนะ!” ฉินเฟยตอบ
เฟิ่งจาวหยีสีหน้าเย่อหยิ่ง ยื่นมือลูบหน้าท้องตน “แน่นอน บัดนี้ข้าตั้งครรภ์สายเลือดฝ่าบาท ต่อให้ทำความผิดใหญ่แค่ไหน ฝ่าบาทก็จะละเว้นข้าเพื่อเห็นแก่ลูก
แต่ฉินเฟยเล่า เข้าวังมาก่อนข้า รับใช้ฝ่าบาทมาหลายปีขนาดนี้ กลับมิมีวี่แววจะท้องเลยสักนิด ใครไม่รู้คงคิดว่าฉินเฟยน่ะเป็นหมันแล้วนะ!”
น้ำเสียงเย้ยหยัน เสียดสี ทำให้ฉินเฟยหน้าซีดเผือดไปหลายส่วน
นี่เป็นจุดด้อยเพียงหนึ่งเดียวของนางในชาตินี้ เข้าวังมาหลายปีกลับมิเคยมีครรภ์ หมอหลวงก็ดูหลายครั้ง กลับมักจะหาสาเหตุไม่เจอ ได้แต่ค่อยๆบำรุงไป
“เฟิ่งจาวหยีท่านกล้าว่าเหนียงเหนียงของเราเช่นนี้ได้อย่างไร?” สาวใช้ข้างๆย้อนกลับ
เฟิ่งจาวหยีถลึงตามองนางอย่างเดือดดาล ยกมือตบหน้าสาวใช้ฉาดใหญ่ “เจ้าเป็นตัวอะไร กล้ามาย้อนข้า!”
แก้มสาวใช้แดงเถือกบวมปูดทันที ปวดแสบยิ่งนัก แต่ไม่กล้าพูดอะไร
“เฟิ่งจาวหยีพอได้แล้ว นางเป็นคนของข้า ต่อให้จะสั่งสอนก็ควรเป็นข้าสั่งสอน ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า!” ฉินเฟยถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล
“ฉินเฟย เจ้าพูดเช่นนี้ก็มิถูกนะ คนของเจ้ามิเคารพข้า ข้าต้องสั่งสอนอยู่แล้ว ตอนนี้ข้าตั้งครรภ์ หากเกิดเรื่องเพราะเจ้าหรือคนของเจ้าขึ้นมา ถึงเวลานั้นตำแหน่งฉินเฟยของเจ้าคงจะนั่งไม่ติดแล้วกระมัง” เฟิ่งจาวหยีบอกอย่างเชิดหยิ่ง
นางไม่ชอบจริงๆ ฉินเฟยแก่ง่ำแล้ว อีกทั้งไม่ได้รับการโปรดปรานจากฝ่าบาท แต่กลับได้อยู่ในตำแหน่งเฟย น่าตายนัก
ฉินเฟยโกรธจนตัวสั่นเทา มือใต้ชายเสื้อกำหมัดแน่น
เฟิ่งจาวหยีเห็นฉินเฟยโกรธจัด เคียดแค้น แต่ยังทนไม่กล้าทำอะไร ก็สาแก่ใจนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...